เกิดเหตุยิงเซลส์แมนหนุ่มเสียชีวิตต่อหน้าลูกเมีย ขณะกำลังจะกลับจากงานเลี้ยงปีใหม่ มือปืนไม่ใช่ใคร เป็นเพื่อนร่วมบริษัท รับไม่ถูกกันมานาน มีปากเสียงในงานเลี้ยง เลยทำให้โมโห...

เมื่อเวลา 00.24 น. วันที่ 5 ม.ค.62 ร.ต.ท.ศุภกร พานิชย์เจริญ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองกาญจนบุรี รับแจ้งจากศูนย์วิทยุมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ว่าเกิดเหตุมีการยิงกันขึ้นที่ริมถนนสายพัฒนาการ เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี มีผู้เสียชีวิต 1 ราย หลังรับแจ้งจึงรีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง รุดไปตรวจสอบ

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบร่าง นายพงษ์ศิลป์ ปิ่นเกตุ อายุ 24 ปี ชาว จ.กาญจนบุรี อาชีพเซลส์แมนขายเครื่องใช้ไฟฟ้า นอนเสียชีวิตคว่ำหน้าจมกองเลือด อยู่กับพื้นดินด้านซ้ายของประตูรถยนต์เก๋ง โตโยต้า วีออส สีดำ หมายเลขทะเบียน ฏภ 4838 กรุงเทพมหานคร ซึ่งจอดอยู่ช่องทางเข้าปั๊มน้ำมัน

จากการชันสูตรของแพทย์พบมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เข้าที่บริเวณโหนกแก้มด้านซ้าย 1 นัด เข้าที่บริเวณท้ายทอยด้านหลัง 1 นัด เข้าที่แขนขวา 1 นัด กระสุนทะลุออกท้องแขน เข้าที่ชายโครงขวา 1 นัด และเข้าที่บริเวณสะโพกด้านขวาอีก 1 นัด รวม 5 นัด ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ 5 ปลอก จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

เบื้องต้นจากการสอบสวนปากคำ นางสาวมีนา ทรัพย์แสนดี อายุ 26 ปี ภรรยาผู้ตายทราบว่า ก่อนหน้าเกิดเหตุ ตนพร้อมด้วยผู้ตาย และลูก เดินทางไปร่วมงานเลี้ยงปีใหม่ ที่บริษัทของผู้ตาย ระหว่างที่กำลังนั่งทานอาหารกันอยู่นั้น สามีได้เกิดมีปากเสียงทะเลาะ กับ นายภัคพล หรือ เดี่ยว แก้วพริ้ง อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นเซลส์แมนขายเครื่องใช้ไฟฟ้าบริษัทเดียวกัน ซึ่งไม่ถูกกัน และมักทะเลาะกันอยู่เสมอ โดยมีเพื่อนๆ เข้ามาห้ามปราม 

...

จนงานใกล้เลิก สามีจึงชวนตนกลับบ้าน ระหว่างที่สามีเดินไปที่รถ เปิดประตูรถเข้าไปนั่ง โดยมีตนอุ้มลูกสาวเดินตามไป ยังไม่ทันที่สามีจะสตาร์ตรถ นายภัคพล ได้เดินตรงไปกระชากตัวออกมาต่อย กระทั่งเกิดการต่อสู้กันขึ้น ต่อมานายภัคพลได้ชักอาวุธปืนออกมาจากเอว จ่อยิงสามีของตนต่อหน้าต่อตา ตนที่พยายามร้องห้าม โดยลูกสาวร้องไห้จ้า เพราะตกใจเสียงปืน เพราะเห็นพ่อถูกยิง 5 นัดซ้อน วิ่งหนีตายไปล้มฟุบจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่ที่ข้างประตูรถทางด้านหลัง จากนั้น นายภัคพล ก็วิ่งถือปืนหลบหนีไป เสียงปืนทำให้คนในงานแตกตื่นวิ่งมาดู

ซึ่งในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัว นายภัคพล ซึ่งหลังก่อเหตุ ได้ยืนรอมอบตัวเอาไว้ได้ พร้อมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ก่อนนำตัวไปสอบสวนดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาตามกฎหมายต่อไป

เบื้องต้น ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ไม่ถูกกับผู้เสียชีวิตมานานแล้ว มีปากเสียงทะเลาะกันในงาน จึงโมโห และก่อเหตุดังกล่าว.