“พายุปาบึก” แรง คาดฝนตกหนักรวม 3 วัน อาจถึง 300 มม. แต่ระดับน้ำไม่ล้นเขื่อนแน่นอน เพราะกรมชลประทานเตรียมการขั้นสูงสุด รับมือ "พายุโซนร้อนปาบึก" พร่องน้ำเขื่อนหลักแล้ว และเตรียมเครื่องมือเต็มที่
นายสัญญา แสงพุ่มพงษ์ ผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านวิศวกรรมชลประทาน ด้านบำรุงรักษา กรมชลประทาน เปิดเผยความพร้อมในการรับมืออิทธิพลของ “พายุโซนร้อนปาบึก” ที่กระทบภาคใต้ 14 จังหวัด และอีก 2 จังหวัด คือ เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ว่า จากการพยากรณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาที่ชี้เป้าว่า พายุลูกนี้ทำให้ฝนตกหนัก คาดว่าจะมีปริมาณน้ำฝนรวม 3 วัน เกือบ 300 มิลลิเมตร ในช่วงวันที่ 3-5 ม.ค. โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.ชุมพร นครศรีธรรมราช และปัตตานี กรมชลฯ ยืนยันว่าพร้อมรับมือ เพราะได้เตรียมการขั้นสูงสุดแล้วก่อนหน้านี้อย่างน้อย 2 ส่วน
การเตรียมการขั้นสูงสุดส่วนแรก คือ การระบายน้ำในเขื่อนใหญ่บางแห่ง โดยเฉพาะที่เขื่อนปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่มีปริมาณน้ำ 90% ของความจุอ่าง ที่ได้เริ่มพร่องน้ำออกมากกว่าปกติ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา ที่พร่องออก 2.8 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน จากปกติประมาณ 2 แสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน รับรองว่าไม่มีเหตุการณ์น้ำล้นเขื่อนแน่นอน
ส่วนจังหวัดที่มีคำแถลงล่าสุดของกรมอุตุฯ ว่าพายุจะขึ้นฝั่งพรุ่งนี้ คือนครศรีธรรมราช มีเพียงเขื่อนขนาดกลางที่พร่องน้ำมาเป็นระยะๆ จนปริมาณเหลือเพียง 50-60% ของความจุอ่าง จึงสามารถรองรับปริมาณน้ำฝนจำนวนมากได้
การเตรียมการสูงสุดส่วนที่สอง คือ การเตรียมเครื่องไม้เครื่องมือ ทั้งเครื่องสูบน้ำ เครื่องผันน้ำ รถแทรกเตอร์ เครื่องปั่นไฟ รถสื่อสาร สะพานชั่วคราว หรือสะพานเบลีย์ เป็นต้น ประจำหน่วยกว่า 1 พันจุด ครอบคลุมจุดเสี่ยงที่กรมชลประทานรับผิดชอบ 75 จุด
...
“แม้ครั้งนี้พายุปาบึกจะเป็นพายุโซนร้อน ความเร็วลมไม่รุนแรงเท่าพายุไต้ฝุ่น แต่ปริมาณน้ำฝนมีมาก จึงต้องระวังจุดเสี่ยงเรื่องน้ำท่วม ดินถล่ม การพร่องน้ำจากเขื่อน และการเตรียมเครื่องมือระบายน้ำจึงต้องเตรียมการขั้นสูงสุด โดยใช้บทเรียนจากการที่มีน้ำท่วมครั้งใหญ่เมื่อปี 2560 ที่ผ่านมา” นายสัญญา กล่าว.