ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานีและผู้เกี่ยวข้องประชุมด่วนร่วมกับ มท.1 เตรียมรับมือพายุโซนร้อนปาบึกตลอด 24 ชม. เรือเฟอร์รี่เกาะสมุยหยุดวิ่งบ่าย 3 ม.ค.-บางกอกแอร์เวย์ส ให้ผดส.ตรวจสอบเที่ยวบินก่อนเดินทาง...
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 2 ม.ค.2562 ที่ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยส่วนราชการ และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อรับทราบแนวทางปฏิบัติจาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย/ผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ และผู้บริหารจากส่วนกลาง ในการเฝ้าระวัง ติดตาม และเตรียมการเผชิญเหตุกรณีพายุโซนร้อน “ปาบึก” (PABUK) หลังกรมอุตุนิยมวิทยามีประกาศฉบับที่ 3 (1/2019) ประกาศ ณ วันที่ 1 มาราคม 2562 เรื่องพายุดีเปรสชัน บริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง กำลังเคลื่อนตัวลงอ่าวไทยในช่วงวันที่ 2-3 มกราคม 2562 โดยจะมีผลกระทบต่อภาคใต้ในช่วงวันที่ 3-5 มกราคม 2562 จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากในบางพื้นที่ของภาคใต้
นายวิชวุทย์ จินโต กล่าวว่า ในส่วนของจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการณ์เหตุการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม ณ สำนักงาน ปภ.จังหวัด เพื่อขับเคลื่อน ระดมสรรพกำลัง ทรัพยากรในการบริหารจัดการ มีการแจ้งเตือนให้อำเภอที่มีพื้นที่เสี่ยงภัย น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และอำเภอที่เสี่ยงต่อสถานการณ์คลื่นลมแรง ให้เฝ้าระวัง ติดตาม และเตรียมการเผชิญเหตุหากเกิดภัยพิบัติขึ้น โดยให้สำนักงาน ปภ. แจ้งให้ศูนย์เตรียมความพร้อมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ชุมชนเสี่ยงภัยอำเภอต่างๆ ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้จัดเตรียมเรือท้องแบน เครื่องมืออุปกรณ์กู้ชีพกู้ภัย และกำลังเจ้าหน้าที่เตรียมความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง
...
ขณะที่เจ้าท่าภูมิภาคสาขาสุราษฎร์ธานี ได้แจ้งเตือนไปยังผู้ควบคุมเรือ เจ้าของเรือ หรือผู้ประกอบการเดินเรือ ให้ใช้ความระมัดระวังในการเดินเรือ ขอให้ชาวเรือปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการเดินเรืออย่างเคร่งครัด เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งเมื่อเกิดคลื่นลมแรง ทั้งนี้ให้ผู้ควบคุมเรือตรวจสอบความพร้อมของสภาพตัวเรือ เครื่องยนต์ และติดตามฟังคำพยากรณ์ของกรมอุตอนิยมวิทยาทุกระยะ
เมื่อเวลา 16.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ปากอ่าวดอนสัก อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี เรือประมงขนาดกลาง เช่น เรือลอบ เรือหมึกวาย และเรือลอบปู ต่างทยอยเดินทางเข้ามาจอดในร่องน้ำปากอ่าวดอนสัก เพื่อหลบพายุ ขณะที่เรือประมงขนาดใหญ่กำลังอยู่ระหว่างเดินทางกลับเข้าฝั่งเพื่อหลบพายุ โดยคาดว่าเรือประมงกว่า 500 ลำ จะเข้ามาจอดหลบลมบริเวณปากอ่าวดอนสัก
ด้าน บริษัท ซีทรานเฟอร์รี่ จำกัด ผู้ให้บริการเรือโดยสารข้ามฟาก ดอนสัก–เกาะสมุย ได้ออกประกาศปรับเปลี่ยนเที่ยวการเดินเรือเฟอร์รี่ และเรือดิสคัพเวอรี่ โดยจะงดเที่ยวเรือทั้ง 2 ชนิดในช่วงบ่ายวันที่ 3 ทั้งท่าเรือเกาะสมุย และท่าเรือดอนสัก และงดรับจองเรือล่วงหน้าในวันที่ 4 และ 5 มกราคม เพื่อเป็นการปรับแผนการเดินเรือตามการเฝ้าระวังมรสุม
บางกอกแอร์เวย์ส ประกาศให้ผู้โดยสารตรวจสอบสถานะเที่ยวบินที่อาจจะได้รับผลกระทบจากพายุ “ปาบึก” ก่อนการเดินทางช่วง 3-5 ม.ค. โดยทางสายการบินบางกอกแอร์เวย์สได้ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เนื่องจากอาจส่งผลกระทบในเส้นทางบินเข้าและออกจากจังหวัดในภาคใต้ของประเทศไทย ทางสายการบินฯ ขอแนะนำให้ผู้โดยสารที่ต้องเดินทางในเส้นทางบินที่อาจได้รับผลกระทบดังกล่าว ระหว่างวันที่ 3-5 ม.ค. สามารถติดต่อเพื่อขอเปลี่ยนแปลงการเดินทาง หรือตรวจสอบสถานะเที่ยวบินได้ตลอด 24 ชั่วโมง ที่ศูนย์บริการลูกค้า โทร. 1771
ขณะที่ นายจำนง สวัสดิ์วงศ์ รักษาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สุราษฎร์ธานี สำนักงาน ปภ.จ.สุราษฎร์ธานี ได้เตรียมความพร้อมและตรวจเช็คอุปกรณ์กู้ภัย เรือท้องแบน อุปกรณ์และระบบสื่อสาร เรือพยาบาล เรือกู้ชีพ ให้สามารถใช้การได้ทันที หากมีสถานการณ์ภัยพิบัติ
ส่วน นายนิติศักดิ์ บุญมานนท์ นายกสมาคมนักวิทยุสมัครเล่น จ.สุราษฎร์ธานี และหัวหน้าผู้ปฏิบัติงานกู้ภัย มูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี กล่าวทางสมาคมนักวิทยุสมัครเล่น และอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี ได้มีการเตรียมความพร้อมในด้านการติดต่อสื่อสารและเฝ้าระวังในพื้นที่เสี่ยง เพื่อความรวดเร็วในการช่วยเหลือหากเกิดเหตุพายุฝนตกหนัก
...
สำหรับสถานการณ์ล่าสุดคลื่นลมไม่รุนแรงไปกว่าช่วงเที่ยงที่ผ่านมา และยังคงไม่มีฝน แต่สภาพอากาศเริ่มปิด แสงแดดน้อยลง ประชาชนพื้นที่เสี่ยงลมกระโชกแรงและฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน ควรติดตามสถานการณ์และป้องกันชีวิตและทรัพย์ไปพร้อมๆกับเจ้าหน้าที่
ด้านผู้ประกอบการเรือนอนโดยสารขนาด 150 ที่นอน วิ่งระหว่างตัวเมืองสุราษฎร์ธานี-เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า หยุดให้บริการชั่วคราว อย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ และยังคงต้องติดตามพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด.