กลายเป็นข่าวใหญ่ปลายปีให้ได้เกาะกระแสกันอีกครั้ง เมื่อคนดังทางการเมืองที่เคยต้องโทษด้วยข้อหาร้ายแรงอย่าง นายสุรชัย แซ่ด่าน ถูกกล่าวขานว่าเสียชีวิตกลายเป็นศพลอยตลิ่งริมแม่น้ำโขง บริเวณบ้านสำราญ ต.อาจสามารถ อ.เมือง จ.นครพนม ซ้ำยังถูกยัดเย็บใส่กระสอบป่านขนาดใหญ่ แม้ว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังระบุว่าเป็นเพียงชายนิรนามไม่ทราบสัญชาติ อายุ 30-40 ปี ผิวขาวท้วม สูง 170 ซม. แต่กระนั้นก็ตามที ยังมีคนตั้งข้อสงสัยว่า นี่คือศพของ "นายสุรชัย แซ่ด่าน" ที่หายตัวลึกลับไปนานหลายเดือน 

หลังจาก นายสุรชัย แซ่ด่าน หนีไปกบดานอยู่ประเทศเพื่อนบ้านนานกว่า 5 ปี แต่ยังมีการเคลื่อนไหวจัดรายการวิทยุโจมตีเบื้องสูงจากฝั่งลาวผ่านทางยูทูบ เผยแพร่ในเมืองไทยอย่างต่อเนื่อง กระทั่งต้นเดือนที่ผ่านมา กลับกลายเป็นว่าไม่มีเสียงของนายสุรชัย แซ่ด่าน จัดรายการเหมือนเช่นเคย เหตุนี้เองทำให้ผู้คนที่ติดตามรายการเกิดข้อสงสัย ประจวบเหมาะกับการพบศพชายนิรนาม จึงพากันคาดเดาไปว่า ศพชายลอยน้ำน่าจะเป็นร่างของนายสุรชัย แซ่ด่าน เป็นเหตุให้ตำรวจต้องนำร่างไปพิสูจน์ DNA

- ตำรวจเชื่อ "ไม่ใช่" เป็นเพียงความเข้าใจผิด - 

จากการพูดคุยจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจังหวัดนครพนม ให้ข้อมูลอธิบายอ้างอิงถึงความเป็นไปได้ว่า ศพดังกล่าวน่าจะไม่มีความเชื่อโยงใดๆ กับ นายสุรชัย แซ่ด่าน เพราะก่อนหน้านี้มีหนุ่มคนไทยได้ข้ามไปยังฝั่งลาวเพื่อตามหาพ่อที่หลบหนีคดี แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นมีข่าวลือออกมาว่า พ่อที่หนุ่มคนไทยเข้าไปตามหา คือ "นายสุรชัย แซ่ด่าน" ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่ พ่อของเขาคืออีกคนหนึ่ง การเล่าข่าวปากต่อปากทำให้เรื่องราวทั้งหมดผิดเพี้ยน ทำเอาชาวบ้านคิดกันไปเองว่า นี่คือศพของ สุรชัย แซ่ด่าน 

"อีกทั้งสภาพศพ รูปร่าง ลักษณะของผู้ตายไม่ตรงกับนายสุรชัย แซ่ด่าน จึงน่าเชื่อว่าเป็นศพของคนอื่น ไม่มีความเกี่ยวข้องกับนายสุรชัยแต่อย่างใด ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ก็ต้องนำศพตรวจพิสูจน์เพื่อไขข้อสงสัย ชี้ชัดยืนยันเรื่อง DNA ทำความจริงให้ปรากฏทุกด้าน"

...

- ภรรยาก็ไม่เชื่อว่าเป็นศพสามี -

ทิศทางชี้ชัดไปตามแนวเดียวกันเมื่อ นางปราณี ด่านวัฒนานุสรณ์ หรือ ป้าน้อย ภรรยาของนายสุรชัย แซ่ด่าน ออกมาเปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ทางครอบครัวยังไม่สามารถติดต่อกับนายสุรชัยได้ แต่อย่างไรก็ตาม ไม่เชื่อว่าศพที่ลอยแม่น้ำโขงมานั้นจะเป็นศพของสามี เนื่องจากรูปพรรณสัณฐานของศพเป็นคนหนุ่มอายุ 30-40 ปี มั่นใจไม่ใช่ศพของสามีของตนอย่างแน่นอน ประกอบกับตนกำลังอยู่ระหว่างการปฏิบัติธรรม จึงไม่สะดวกที่จะเดินทางไปดูผลการพิสูจน์อัตลักษณ์ศพดังกล่าว

"อยากให้ญาติพี่น้องที่เกี่ยวข้องกับเพื่อนผู้ลี้ภัยทั้ง 2 คน ของนายสุรชัย เดินทางไปดูผลพิสูจน์อัตลักษณ์เพื่อความสบายใจ การหายตัวไปของนายสุรชัยคาดว่าเป็นการลักพาตัวเพื่อหยุดการแสดงความเห็นหรือวิพากษ์วิจารณ์การเมือง เพราะช่วงหลังๆ นายสุรชัยได้อัดคลิปแสดงความเห็นและวิพากษ์วิจารณ์ต่อต้านเผด็จการบ่อยขึ้น ดังนั้นการหายตัวไปของนายสุรชัยคือการลักพาตัวที่เกี่ยวข้องกับการเมืองอย่างไม่ต้องสงสัย"


นางปราณี กล่าวต่อว่า ตนได้เตรียมใจสำหรับเรื่องแบบนี้ไว้ตั้งแต่ก่อนแต่งงานแล้วว่า ผู้ที่ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องการเมืองส่วนใหญ่ถ้าไม่ตายก็ติดคุก หรือไม่ก็ต้องหนีออกจากประเทศเท่านั้น ตนเป็นห่วงก็มีเรื่องสุขภาพของนายสุรชัย เพราะดูจากสภาพการรื้อค้นในบ้านพัก นายสุรชัยไม่ได้นำสิ่งของที่ปกติจะพกติดตัวไปด้วย โดยเฉพาะยาที่ต้องกินเป็นประจำ แต่ก็ยังหวังว่าคงไม่ถึงกับฆ่าแกงกัน อาจจะแค่กักขัง เพื่อหยุดการวิพากษ์วิจารณ์การเมืองของนายสุรชัยเท่านั้น ซึ่งตนก็ยังคงรอการติดต่อจากนายสุรชัยและผลพิสูจน์ที่ชัดเจน

- คนรู้จักเคยร่วมงาน ก็เชื่อว่าไม่ใช่ -

อดีตคนเสื้อแดงรายหนึ่ง ซึ่งรู้จักกับนายสุรชัยเป็นอย่างดี ก่อนจะหนีไปกบดานฝั่งลาว ให้ข้อมูลว่า นายสุรชัย อายุมากแล้ว และน่าจะกำลังป่วยรักษาตัวอยู่ในประเทศลาว ซึ่งตนเองก็ไม่เชื่อว่าจะกลายเป็นศพลอยน้ำตามที่กระแสข่าวออกไป สอดคล้องกับข้อมูลรูปพรรณสันฐานศพ จึงไม่ปักใช่เชื่อว่าใช่ ส่วนเรื่องที่ภรรยาของนายสุรชัยคาดการณ์ว่าเป็นเรื่องการเมือง และแค่ถูกกักขัง เพื่อหยุดการวิพากษ์วิจารณ์การเมืองนั้น ก็มีส่วนเป็นไปได้ แต่เชื่อว่าศพที่กำลังนำไปพิสูจน์ DNA อยู่ ไม่น่าจะใช่ศพของนายสุรชัยอย่างแน่นอน.