ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสาคร ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุชายฉกรรจ์ 4 คน บุกรุมทำร้ายซ้ำใช้ปืนข่มขู่ชาย 3 คน หน้าร้านขายของชำ เปรยรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้วอยู่ระหว่างติดตาม เร่งรวมหลักฐานขอหมายจับ
เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. วันที่ 10 ธ.ค. 2561 พ.ต.อ.จิระวุฒิ ตัณฑศรี ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร สั่งการให้ พ.ต.ท.พงษ์ศิริ เก่งนอก รอง ผกก.สส.สภ.เมืองสมุทรสาคร พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร ลงพื้นที่รวบรวมหลักฐานและติดตามตัวกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุรุมทำร้ายชาย 3 คน ซึ่งนั่งดื่มสุราอยู่หน้าบ้านเลขที่ 1092/113 ต.มหาชัย อ.เมืองสมุทรสาคร ซึ่งเปิดหน้าบ้านเป็นร้านขายของชำ พร้อมกับใช้อาวุธปืนข่มขู่เจ้าของบ้านและผู้เสียหาย อีกทั้งยังได้มีการตามเข้าไปทำร้ายถึงในบ้าน เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 8 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา จากภาพในกล้องวงจรปิดมีชายฉกรรจ์ที่ลงมือก่อเหตุทั้งหมด 4 คน (อ่านข่าวก่อนหน้า กลุ่มชายฉกรรจ์บุกทำร้ายคนในร้านของชำ ยกปืนขึ้นจ่อ ตะโกนลั่นเด็กพื้นที่)
พร้อมกันนี้ ยังได้ให้ ร.ต.อ.สุวิทย์ มูลทรงเกียรติ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร ผู้รับผิดชอบคดี เรียกผู้เสียหายที่อยู่ในเหตุการณ์มาสอบปากคำทั้งหมด 5 คน คือ นางสาวบุญรัตน์ กวางแก้ว อายุ 34 ปี เจ้าของบ้านและเป็นเจ้าของร้าน นายอริญชย์ สัญญารัตน์ อายุ 41 ปี ถูกรุมทำร้ายจนเส้นเลือดในตาแตก ใบหน้าบวมช้ำ แพทย์ระบุอาการสาหัส นายแอม อ่างหิรัญ อายุ 38 ปี ถูกคนร้ายใช้ปืนข่มขู่ และใช้มีดฟันแต่ไม่เข้า นายสมส่วน ส้มแก้ว อายุ 33 ปี วิ่งหลบหนีขึ้นไปชั้นบนของบ้านได้อย่างปลอดภัย และ นายครรชิต จันทร์น้อย อายุ 33 ปี ออกจากวงเหล้ากลับบ้านไปก่อนที่กลุ่มคนร้ายจะมาถึง และเป็นคนใส่เสื้อสีแดงที่คนร้ายมาถามหาตามเสียงที่ปรากฏในคลิป
...
นายอริญชย์ หนึ่งในผู้ที่ถูกรุมทำร้ายบอกว่า คืนวันเกิดเหตุพวกตนก็มานั่งดื่มสุราแล้วก็พูดคุยกันเป็นปกติ ไม่ได้เสียงดังอะไรมาก สักพักก็มีกลุ่มคนร้ายมาถามหาคนใส่เสื้อสีแดง ซึ่งก็คือเพื่อนอีกคนที่กลับไปก่อน พอพวกตนบอกว่าไม่มี ก็ถูกรุมทำร้าย ทั้งๆ ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
ทางด้าน นางสาวบุญรัตน์ เจ้าของร้าน กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และให้พวกตนมาให้ปากคำเพิ่มเติม ตอนนี้ก็ยังรู้สึกหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเกรงว่ากลุ่มคนร้ายจะกลับมาก่อเหตุซ้ำกับตนและคนในบ้านอีก ขณะนี้มีการร้องขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยดูแลเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของครอบครัวและผู้เสียหายที่เกี่ยวข้อง
ขณะที่ พ.ต.ท.พงษ์ศิริ ให้ข้อมูลเรื่องการติดตามจับกุมตัวคนร้ายว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมมือกับกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร ลงพื้นที่หาเบาะแส โดยพอจะทราบแล้วว่าเป็นใคร แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้มากนัก เบื้องต้น ตรวจยึดรถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุและกำลังติดตามผู้ที่ก่อเหตุตามภาพที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดทั้ง 4 คน มาสอบปากคำก่อน แล้วจึงจะขยายผลว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุอีกหรือไม่
สำหรับหมายจับต้องให้รองสารวัตรสอบสวนทำการสอบปากคำผู้เสียหายทั้งหมดก่อน จากนั้นก็จะนำหลักฐานที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนรวบรวมไว้ได้ รวมถึงภาพจากกล้องวงจรปิด ขออนุมัติศาลจังหวัดสมุทรสาคร ออกหมายจับบุคคลตามภาพต่อไป.