เริ่มแล้วปรับ 1 พันไม่มีเงินอายัดรถ

ที่สำนักเทศกิจ เมื่อวันที่ 29 พ.ย. นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าฯกทม. กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมผู้บริหารสำนักเทศกิจ และหัวหน้าฝ่ายเทศกิจสำนักงานเขต 50 เขต ว่า ที่ประชุมได้รายงานผลการดำเนินโครงการกวดขันรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จอดหรือขับขี่บนทางเท้า ตั้งแต่วันที่ 9 ก.ค.-31 ต.ค.2561 มีการจับกุมผู้กระทำความผิด 9,572 ราย ว่ากล่าวตักเตือน 3,250 ราย ดำเนินคดี 6,142 ราย อยู่ระหว่างดำเนินคดี 180 ราย รวมค่าปรับ 3,393,100 บาท และตั้งแต่วันที่ 1-26 พ.ย.ที่ผ่านมา มีการจับกุมผู้ฝ่าฝืนขับรถบนทางเท้าจำนวน 1,204 ราย ว่ากล่าวตักเตือน 195 ราย ดำเนินคดี 961 ราย อยู่ระหว่างดำเนินคดี 48 ราย รวมค่าปรับจำนวน 574,500 บาท

สำหรับการแก้ไขปัญหาผู้ฝ่าฝืนขับรถบนทางเท้า นอกจากการเข้มงวดกวดขันจับปรับผู้กระทำผิดแล้ว ต้องรณรงค์ให้คนเห็นใจกัน เคารพสิทธิผู้อื่น ขณะเดียวกัน กทม.ได้เพิ่มโทษปรับ โดยกำหนดอัตราค่าปรับขั้นต่ำจากเดิม 500 บาท เป็น 1,000 บาท และปรับสูงสุดไม่เกิน 5,000 บาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย.เป็นต้นไป ทั้งนี้ กรณีผู้กระทำ ความผิดไม่มีเงินชำระค่าปรับ ณ จุดเปรียบเทียบปรับ ให้เจ้าหน้าที่ออกใบอายัดไว้ แล้วนำรถซึ่งเป็น ของกลางในการกระทำความผิดไปเก็บไว้ที่สำนักงานเขตก่อน เมื่อชำระค่าปรับแล้วจึงสามารถนำรถกลับไปได้

นอกจากนี้ มีแนวคิดนำเทคโนโลยีกล้องวงจรปิด (ซีซีทีวี) มาช่วยในการสอดส่อง จับกุมผู้ฝ่าฝืนขับรถบนทางเท้า โดยจับภาพผู้กระทำความผิด พร้อมทะเบียนรถแล้วจะส่งจดหมายปรับไปที่อยู่ผู้กระทำความผิดให้มาชำระค่าปรับ เหมือนกับที่ตำรวจจราจรทำอยู่ ขณะนี้ได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมาย สำนักเทศกิจ ไปศึกษาถึงข้อจำกัดและความเป็นไปได้ในการดำเนินการดังกล่าว.

...