2 เด็กชาย ซิ่ง จยย.ตีคู่กันมาด้วยความเร็ว ถึงสามแยกมีกระบะตีไฟเลี้ยว เบรกไม่ทัน พุ่งชนกลางลำพร้อมกัน 2 คัน เป็นเหตุให้เด็กทั้ง 2 เสียชีวิตคาที่ ส่วนคนในรถกระบะได้รับบาดเจ็บ 1 คน
เมื่อวันที่ 29 พ.ย.61 ร.ต.อ.ถิรวัฒน์ ฟักประไพ รอง สว.(สอบสวน) สภ.สามโคก จ.ปทุมธานี รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ 2 คันชนกับรถกระบะ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 1 ราย โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นบริเวณสามแยก(หลังมหาวิทยาลัยชินวัตร) ถนนลาดบัว ม.10 ต.บางเตย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ ร่วมกับอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พร้อมประสานแพทย์นิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ร่วมเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นสามแยก พบรถกระบะ โตโยต้า รุ่นไทเกอร์ สีเขียว หมายเลขทะเบียน บจ-7465 พระนครศรีอยุธยา โดยสภาพด้านซ้ายรถตั้งแต่ประตูจนถึงกระบะท้ายมีร่องรอยบุบ กระจกแคปแตก มี นางขวัญเมือง สายด้วง อายุ 59 ปี ที่นั่งมาในรถถูกเศษกระจกบาดแขนซ้ายได้รับบาดเจ็บเลือดไหลที่แขน หน่วยกู้ภัยฯต้องรีบปฐมพยาบาล ก่อนนำส่งโรงพยาบาลลาดหลุมแก้ว ห่างไปทางท้ายรถกระบะพบศพ ด.ช.กฤษดา ดวงแก้ว อายุ 14 ปี สภาพศพกะโหลกเปิดแขนขาหัก นอนเสียชีวิตข้างรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า สปาร์ค สีแดงดำ หมายเลขทะเบียน 1กท-8058 นครราชสีมา ห่างไปเล็กน้อยยังพบศพ ด.ช.อภิชาติ ทรัพย์บริบูรณ์ อายุ 13 ปี สภาพศพแขนขาหัก นอนเสียชีวิตอยู่ข้างรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีส้ม ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สภาพรถทั้งสองคันพังยับเยิน
จากการสอบสวน นายพงษ์เพชร สายด้วง อายุ 24 ปี ชาว.จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นคนขับรถกระบะ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถเพื่อไปส่งขนมให้ลูกค้าที่วัดบ่อเงิน โดยมีญาติๆนั่งมาในรถทั้ง 4 คน และเมื่อขับมาถึงจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นทางสามแยก ตนจึงเปิดไฟเลี้ยวเพื่อเลี้ยวขวาเข้าซอยมหาวิทยาลัยชินวัตร จู่ๆก็เห็นรถจักรยานยนต์ขับคู่กันมาด้วยความเร็ว ก่อนพุ่งชนเข้ากลางลำรถตนทั้งสองคันพร้อมกัน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและคนในรถกระบะได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
...
ต่อมามีญาติๆของเด็กที่เสียชีวิตทั้ง 2 คน เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ เมื่อเห็นศพต่างร้องไห้เสียใจปานจะขาดใจ โดยกล่าวว่า ทั้ง 2 คนเป็นเพื่อนสนิทกัน เรียนอยู่โรงเรียนวัดลาดปลาดุก ชั้น ม.1 กับ ม.2 ก่อนเกิดเหตุทราบว่า ทั้งคู่ขับขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายกันออกจากบ้านไป และไม่รู้ไปเอารถจักรยานยนต์อีกคันมาจากไหน จนกระทั่งมาทราบว่าเกิดอุบัติเหตุ โดยทางเจ้าหน้าที่จะได้ทำการสืบสวนสอบสวน และหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง