เดนหื่นกามขี่รถจักรยานยนต์อาสาจะไปส่งนักศึกษาสาวชั้นปี 2 มหาวิทยาลัยชื่อดังในตัวเมืองนครปฐม ไปช่วยงานองค์พระปฐมเจดีย์ หลังเหยื่อนัดกับเพื่อนแล้วมาไม่ทัน ด้วยความรีบประกอบกับกลัวเพื่อนจะรอ เลยขออาศัยติดรถไปด้วย หลังขึ้นซ้อนท้ายคนร้ายออกอุบายไปทางลัดก่อนพาเข้าโรงแรมม่านรูด บังคับให้ถอดเสื้อผ้า นักศึกษาสาวขัดขืนถูกซ้อมทำร้ายใบหน้าบวมปูดก่อนลงมือข่มขืนยับจนสำเร็จความใคร่แล้วหลบหนี ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบกล้องบันทึกภาพรถ จยย.ชัดเจน ตรวจสอบทะเบียนรถรู้ชื่อผู้ครอบครองแล้ว แต่ผู้เสียหายยังไม่ยืนยัน
นักศึกษาสาวถูกอุ้มเข้าโรงแรมม่านรูดข่มขืนยับรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 26 พ.ย. ศูนย์วิทยุ สภ.เมืองนครปฐม รับแจ้งจากนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม ให้ตำรวจช่วยตามหา น.ส.สวย (นามสมมติ) อายุ 20 ปี เพื่อนนักศึกษาชั้นปี 2 หายตัวไปลึกลับ หลังนัดหมายกับเพื่อนจะไปช่วยงานองค์พระปฐมเจดีย์ที่กำลังจัดงาน ประจำปีอยู่ โดยนัดหมายกันหลายคนที่หน้ามหาวิทยาลัย แต่ปรากฏว่า น.ส.สวยไม่ได้มาตามนัดและติดต่อไม่ได้ จึงวิทยุให้ตำรวจสายตรวจและชุดสืบสวนออกสืบเบาะแส
กระทั่งเวลาผ่านไปร่วมชั่วโมง กลุ่มเพื่อนนักศึกษาโทรศัพท์แจ้งกับศูนย์วิทยุ สภ.เมืองนครปฐม อีกครั้งว่า น.ส.สวยถูกชายฉกรรจ์ล่อลวงข่มขืนและทิ้งไว้ภายในโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่งย่านถนนมาลัยแมน ต.ทับหลวง อ.เมืองนครปฐม หลังรับรายงาน พล.ต.ต.คำรณ บุญเลิศ ผบก.ภ.จ.นครปฐม พ.ต.อ.ไพฑูรย์ พิทักษ์ธรรม ผกก.สภ.เมืองนครปฐม ร.ต.ท.หญิง พิชญพิมพ์ สุทธิวงศ์ รอง สว. (สอบสวน) นำกำลังตำรวจชุดสืบสวน เดินทางไปตรวจสอบที่โรงแรมม่านรูดดังกล่าว พบ น.ส.สวยอยู่ในอาการหวาดผวาตกใจกลัวตัวสั่น นั่งอยู่ภายในห้องพัก ในสภาพใบหน้าบวมปูด ลำตัวเขียวช้ำ คล้ายถูกทำร้ายรุนแรง จึงช่วยเหลือนำส่ง รพ.นครปฐม ให้แพทย์ปฐมพยาบาล
...
ขณะเดียวกัน ตำรวจตรวจสอบบริเวณโดยรอบ ห้องพักภายในโรงแรม พบมีกล้องวงจรปิดติดอยู่ตามถนน ตรวจสอบกล้องบันทึกภาพคนร้ายเป็นชายฉกรรจ์อายุราว 30-35 ปี แต่งตัวดี ขี่จักรยานยนต์ฮอนด้าคลิกไอ สีดำคาดแดง ทะเบียน 1 กข 94 นครปฐม ขี่เข้าโรงแรมอย่างรวดเร็ว โดยมี น.ส.สวย ผู้เสียหายนั่งซ้อนท้ายเข้าจอดในซองห้องว่าง แต่เห็นหน้าคนร้ายไม่ชัดเจน จากนั้นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบทะเบียนรถจักรยานยนต์ ทราบชื่อผู้ครอบครองรถคือนายอนุรักษ์ โชติชุทิพย์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37-39 ถนน 25 มกรา ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม ตำรวจชุดสืบสวนไปตรวจสอบที่บ้านไม่พบตัวนายอนุรักษ์และรถจักรยานยนต์ที่ใช้เป็นพาหนะ จึงนำภาพถ่ายจากทะเบียนประวัติไปให้ผู้เสียหายดู แต่ น.ส.สวยยังไม่ยืนยัน
จากการสอบสวน น.ส.สวยให้การว่า ก่อนเกิดเหตุนัดหมายกับกลุ่มเพื่อนนักศึกษาเพื่อไปเป็นจิตอาสาช่วยงานวัดพระปฐมเจดีย์ โดยนัดหมายกันที่หน้ามหาวิทยาลัยช่วงเวลา 18.00 น. แต่เพราะตนมาช้าพอมาถึงที่นัดหมายไม่เจอเพื่อนแล้ว คิดว่าเพื่อนคงไปที่งานองค์พระปฐมเจดีย์หมดแล้ว เลยรอรถจักรยานยนต์รับจ้างเพื่อนั่งไปงาน ระหว่างที่รอ พอดีมีชายฉกรรจ์ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาจอดถามว่า “น้องจะไปไหน” ตนบอกจะไปที่องค์พระปฐมเจดีย์ ชายคนดังกล่าวบอกว่า กำลังจะไปงานวัดพระปฐมพอดี พร้อมอาสาจะไปส่งเพราะไปทางเดียวกัน ด้วยความรีบร้อนและกลัวเพื่อนจะรอนาน จึงอาศัยติดรถไปด้วย
เหยื่อเดนหื่นกามให้การอีกว่า ขณะนั้นเป็นเวลามืดค่ำพอดี และการจราจรรถก็ติดขัดพอสมควร ชายคนดังกล่าวเลยออกอุบายว่า จะพาไปเส้นทางลัดเพราะรู้เส้นทางดี ตนไม่ใช่คนนครปฐมเลยไม่รู้เส้นทาง ชายคนดังกล่าวจึงขี่ย้อนไปทางถนนมาลัยแมน โดยขี่ซิ่งด้วยความเร็วสูงจนเลยจากมหาวิทยาลัยไปราว 5 กม. ตนเห็นท่าไม่ดี บอกให้จอดจะขึ้นรถรับจ้างไป แต่ชายคนดังกล่าวไม่ยอมจอด ขี่เข้าไปในโรงแรมม่านรูดด้วยความเร็วสูง ตนไม่กล้ากระโดดเพราะกลัวเจ็บ พอถึงหน้าห้องพักถูกล็อกตัวขู่จะฆ่าหากขัดขืน ก่อนถูกผลักเข้าไปในห้อง บังคับให้ถอดเสื้อผ้า ตนขัดขืนถูกซ้อม ทำร้ายรุนแรง ก่อนถูกข่มขืนจนสำเสร็จความใคร่แล้วคนร้ายหลบหนีไป ตนโทรศัพท์บอกเพื่อนก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือดังกล่าว จึงบันทึก ปากคำไว้เป็นหลักฐานเพื่อติดตามจับกุมคนร้าย
มาดำเนินคดีต่อไป
ต่อมาบ่ายวันเดียวกัน พ.ต.อ.ไพฑูรย์ พิทักษ์ธรรม ผกก.สภ.เมืองนครปฐม นำกำลังตำรวจชุดสืบไปดักซุ่มบ้านเลขที่ 37-39 ถนน 25 มกรา ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม อีกครั้ง หลังศาลจังหวัดนครปฐมออกหมายจับกุมนายอนุรักษ์ โชติชุทิพย์ อายุ 38 ปี ผู้ต้องหา ปรากฏว่านายอนุรักษ์ย้อนกลับมาบ้านพอดี ตำรวจบุกรวบตัวไว้ได้ทันควัน สอบสวนเบื้องต้นนายอนุรักษ์ ให้การปฏิเสธเสียงแข็ง แต่หลังถูกสอบเค้นอย่างหนักในที่สุดยอมรับขี่รถจักรยานยนต์รับ น.ส.สวย จากหน้ามหาวิทยาลัยขึ้นซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์จริง แต่ปฏิเสธไม่ได้ลวงไปข่มขืนแต่อย่างใด ในชั้นนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อเพราะมีหลักฐานกล้องวงจรปิดชัดเจน คุมตัวไว้สอบขยายผลเพิ่มเติมอีกครั้ง