ยันเป็นการทำตามยุทธวิธี เพื่อสงบสติอารมณ์ ผกก.สภ.เปือยน้อยโดดป้องลูกน้อง หลังโซเชียลวิจารณ์สนั่น คลิปตร.ล็อกคอชายหนุ่ม ขอตรวจสอบรถ จยย. ลั่นดำเนินคดี 3 ข้อหา ส่งฟ้องศาลแล้ว

ผกก.สภ.เปือยน้อย ยืนยัน กรณีโลกโซเชียลแชร์คลิปตำรวจล็อกคอชายหนุ่ม หลังจากขอตรวจสอบรถจักรยานยนต์ ไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุ แต่เป็นการทำตามยุทธวิธีของตำรวจ เพื่อไม่ให้บานปลาย และเกิดอันตรายกับคนอื่นๆ พร้อมดำเนินคดี 3 ข้อหาส่งฟ้องศาลแล้ว

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “หยก ชมดาว” โพสต์คลิปวิดีโอความยาวกว่า 2 นาที เป็นคลิปที่ชายหนุ่มวัยรุ่นยืนอยู่ที่รถจักรยานยนต์ ซึ่งจอดอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ ในพื้นที่ อ.เปือยน้อย และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ รวมทั้งชาวบ้านในพื้นที่อยู่ในเหตุการณ์อีกหลายคน ก่อนที่จะมีผู้ชาย ซึ่งระบุว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยกันล็อกคอชายหนุ่มดังกล่าวไป ซึ่งคาดว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการตรวจสอบรถจักรยานยนต์ว่าเป็นการขโมยมาหรือไม่

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 27 พ.ย.61 พ.ต.อ.ณัฐวุฒิ พูลเจริญ ผกก.สภ.เปือยน้อย จ.ขอนแก่น ออกมาชี้แจงต่อสื่อมวลชนถึงกรณีดังกล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อเวลาประมาณ 00.30 น. วันที่ 26 มิถุนายน ที่ผ่านมา ขณะที่ตำรวจทำการตั้งจุดตรวจจุดสกัด และออกปฏิบัติหน้าที่ในช่วงลอยกระทงต่อเนื่องปีใหม่ ขณะที่ทำการออกตรวจตามปกติ รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีกลุ่มวัยรุ่นมามั่วสุมหน้าร้านสะดวกซื้อ บริเวณตลาดเปือยน้อย จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ ขณะที่กำลังจะถึง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า มีกลุ่มวัยรุ่นอยู่ และพบว่ามีรถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้าย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวขอตรวจสอบ

ซึ่ง นายจรัญ การประไพ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 111/5 ม.5 ต.ม่วงนา อ.ดอนจาน จ.กาฬสินธุ์ ได้แสดงตัวว่าเป็นเจ้าของรถ แต่ไม่มีเอกสารยืนยันว่าเป็นรถตัวเอง ทางตำรวจจึงได้เชิญตัวไปที่โรงพัก แต่นายจรัญกลับไม่ยอมและมีการโวยวายเสียงดัง ต่อมาชุดสืบสวนได้เดินทางมาสมทบและพยายามอธิบายให้เข้าใจ แต่นายจรัญมีลักษณะคล้ายคนเมาสุรา ตะโกนโวยวายไม่ยอมให้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พร้อมกับมีการท้าต่อยตีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย

...

พ.ต.อ.ณัฐวุฒิ พูลเจริญ กล่าวต่ออีกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประเมินสถานการณ์ เพื่อไม่ให้บุคคลอื่นได้รับอันตราย จึงต้องใช้ยุทธวิธีของตำรวจ คือการควบคุมตัวมาที่ สภ.เปือยน้อย และไม่ได้เป็นการทำเกินกว่าเหตุ ทุกอย่างที่ทำไปก็เพื่อสงบสติอารมณ์ และทำการตรวจวัดแอลกอฮอล์ พบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์ 164 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายใน 3 ข้อหา ประกอบด้วย เป็นผู้ขับรถขณะเมาสุรา นำรถไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาใช้ในทางเดินรถ และขับรถโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่มีใบขับขี่ ซึ่งได้ทำการควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งฟ้องศาลไปแล้ว.