พี่ไปทาง น้องไปทาง อุดมการณ์ที่ร่วมเดินมาด้วยกันเหมือนจะสะบั้นลงทันที เมื่อน้องสาวสุดรักอย่าง นางจุรีพร สินธุไพร รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ร้อยเอ็ด อดีตแกนนำเสื้อแดงพัทยา ชลบุรี ผู้มีชื่อเสียงของภาคตะวันออก ได้เปิดตัวย้ายพรรคอย่างเป็นทางการ จากที่เคยเป็นแกนนำหลัก มีชื่อเสียงโด่งดังในภาคตะวันออก ผู้คนนับหน้าถือตา ซ้ำยังเป็นที่รักที่ไว้วางใจของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ท้ายที่สุดอุดมการณ์ก็เปลี่ยนไป ทำเอาพี่ชายแท้ๆ อย่าง "นายนิสิต สินธุไพร" อดีต ส.ส.จังหวัดร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ออกมาดราม่าโชว์สื่อด้วยเสียงเศร้าสลด "ยอมรับว่าเสียใจมาก แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร ไม่คิดว่าจะเจอกับเหตุการณ์นี้"
นายนิสิต สินธุไพร สมาชิกพรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดง เปิดใจกับทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ว่า เรื่องที่ นางจุรีพร สินธุไพร น้องสาว ที่ตัดสินใจไปร่วมงานการเมืองกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และเขาบอกว่าได้แจ้งปรึกษาตนเองแล้วนั้น บอกตรงๆ ว่า เขาก็ไม่ได้มาถามก่อนเป็นเรื่องเป็นราว หรือบอกเราให้ชัดเจนว่าเขาจะย้ายพรรค เพราะคงรู้ว่า หากมาถามตรงๆ จะไม่ให้ไปแน่นอน
"แต่ถ้าหากว่าด้วย หลักการย้ายพรรค ก็ถือเป็นสิทธิ ผมก็เคารพการตัดสินใจ แต่ไม่คิดว่าจะเลือกเดินในเส้นทางนี้ ไปเลือกพรรคที่มีแนวคิดสืบทอดอำนาจ หากจะไปในพรรคที่มีเส้นทางประชาธิปไตย ก็คงไม่คิดอะไรมาก เพราะน้องชาย (นายวิเชียรชนินทร์ สินธุไพร) ตัดสินใจไปสมัครร่วมงานพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งยังอยู่ในเส้นทางประชาธิปไตย ก็รับได้ ไม่ว่าอะไร แต่น้องสาวคนนี้เลือกไปอยู่ฝั่งตรงข้ามที่ตัวเขาเองต่อต้านมาตลอด"
...
นายนิสิต กล่าวว่า เราต่อสู้กันมานาน ตนเองก็เคยติดคุกติดตะราง ไม่เข้าใจเขาไปด้วยเหตุผลอะไร ส่วนเรื่องคดีที่มีการมองกันถูกนำมาต่อรองนั้น คงไม่น่ามี ในช่วงรัฐประหาร 2557 ใหม่ๆ น้องสาว และสามีเขา เคยถูกทหารเรียกไปคุมตัว แต่หลังจากนั้นถูกปล่อยออกมา แต่ในส่วนของตนยังมีคดีต่างๆ เหลืออยู่
"ผมเสียใจมาก ยอมรับว่าเสียใจมาก แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร ไม่คิดว่าจะเจอกับเหตุการณ์นี้ แปลกใจ ทำไมเขาตัดสินใจเช่นนั้น ทางบ้านเรื่องเศรษฐกิจ เงินทอง ไม่ได้เดือดร้อนอะไร เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา แต่ที่ย้ายไป เป็นเพราะอะไร ยังไม่เข้าใจ ถึงเขาจะมาพูด ตอนนี้ไม่อยากฟังเหตุผลอะไรทั้งนั้น เพราะเขาตัดสินใจไปแล้ว" นายนิสิต กล่าว
นายนิสิต กล่าวว่า ในส่วนของตน ยังเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ไม่ไปไหน ไปไหนไม่ได้ เพราะสู้ทางนี้มานาน ตัวเองแม้จะสู้ไม่ได้ จะสนับสนุนลูกหลานต่อไป
ขณะที่ นางจุรีพร สินธุไพร รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ร้อยเอ็ด เปิดเผยกับเราว่า ตัวเธอเองยังยืนยันเหมือนเดิมว่า ตัดสินใจดีแล้ว และไม่คิดจะเป็นศัตรูกับใครเลย ผู้ใหญ่ที่เคยเคารพนับถือก็ยังคงให้ความเคารพนับถืออย่างเดิม ส่วนมวลชนคนเสื้อแดงที่ผ่านมาเคยให้ความช่วยเหลืออย่างไร ตนเองก็ยังยินดีจะช่วยเหมือนเก่า แต่ไม่อยากให้แบ่งแยกแตกสี อยากจะช่วยในฐานะคนที่ทำเพื่อชาติบ้านเมืองคนหนึ่ง และถึงแม้วันนี้ตนเองจะย้ายพรรคไปอยู่กับพลังประชารัฐ ขอให้เชื่อว่าจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุดยิ่งๆ ขึ้นไป อย่างที่ได้สัญญาไว้
"ในส่วนของครอบครัว ก็อย่างที่บอกไปว่าเคยพูดเคยเกริ่นไปแล้ว แต่เหมือนท่าทีจะไม่มีใครเห็นด้วย จึงเปล่าประโยชน์ที่จะดึงดันปรับความเข้าใจ หรือเอาข้อมูลไปพูดใส่ซ้ำๆ เมื่อดิฉันมีอุดมการณ์แบบเดิมอยู่ในใจ คืออยากทำเพื่อประเทศชาติเพื่อประชาชน พร้อมช่วยเหลืองานทุกมิติ ดิฉันจึงเชื่อว่าตัวเองต้องทำได้ดีมากขึ้นกว่าที่ผ่านๆ มา ถึงแม้จะไม่ได้เดินร่วมแนวคิดเดียวกับพรรคเพื่อไทย หรือกลุ่มคนเสื้อแดงเหมือนเก่าก่อน แต่ไม่ได้หมายความว่า ความคิด ความเป็นตัวตนของดิฉันเปลี่ยนไป ดิฉันยังรักทุกคนเหมือนเดิม และตั้งใจจะทำเพื่อประชาชนมากกว่าเดิม เมื่อถึงวันที่ทุกอย่างเป็นรูปเป็นร่าง เชื่อว่าคนในครอบครัว และพี่น้องทุกคนคงจะเข้าใจกันมากขึ้น วันนี้จึงไม่อยากพูดอะไรมาก มีเพียงความมุ่งมั่นในใจที่จะทำให้สำเร็จก็เท่านั้น" นางจุรีพร สินธุไพร