รัฐเริ่มเข้ม สั่งคุมบีบีกันและปืนอัดลมติดเลเซอร์ หลังมีรายงานเด็กที่ลำพูนได้รับอันตรายจากปืนประเภทนี้ "องอาจ คล้ามไพบูลย์" เปิดเกมระบุ แต่ละปีมีเด็กบาดเจ็บจากปืนอัดลมสูงถึง 4,792 ราย นอกจากนี้ ปืนบีบีกันก็ถูกระบุด้วย ความเร็วของกระสุนปืนเกิน 100-300 เมตรต่อวินาที เป็นอันตรายต่อเด็ก แถมยังเข้าประเภทสิ่งเทียมอาวุธปืน ด้านตำรวจรับลูก เตรียมเสนอให้เป็นสินค้าที่ต้องควบคุมฉลาก

อีก 1 นโยบายรัฐเพื่อความปลอดภัยของเยาวชนผู้เป็นอนาคตชาติ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 20 ม.ค. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.ต.ต.พูนทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบก.ปคบ. นพ.นิโรธ เจริญประกอบ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ดร.ศรัณย์ สัมฤทธิ์เดชขจร ผอ.ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผอ. ศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าว ความไม่ปลอดภัยหรืออันตรายจากปืนอัดลมเลเซอร์ และการทดสอบอันตรายจากการเล่นปืนอัดลม

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ เปิดเผยว่า สคบ.ได้รับ การร้องเรียนกรณีมีเด็กในพื้นที่ จ.ลำพูน ได้รับอันตรายจากการเล่นปืนอัดลมชนิดดังกล่าว ซึ่งมีลำกล้องติดแสงเลเซอร์สีแดง มีการนำเรื่องนี้มาพิจารณาร่วมกับหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง โดยเก็บตัวอย่างปืนอัดลมจากหลายแหล่งจำหน่าย นำมาทดสอบความเร็ว และความแรงของวิถีกระสุนเพื่อพิสูจน์ถึงความไม่ปลอดภัย และจากข้อมูลทางสถิติพบว่า เด็กที่ได้รับบาดเจ็บจากปืนอัดลม มีสูงถึง 4,792 รายต่อปี สาเหตุเกิดจากลำแสงเลเซอร์ และความแรงของกระสุน ที่ทำอันตรายต่อผิวหนัง และดวงตา หากถูกเข้าที่นัยน์ตาอาจทำให้ตาบอดได้ สคบ.จึงกำหนดแนวทางบูรณาการการทำงานร่วมกับทุกหน่วยงานเพื่อป้องกัน และแก้ไขปัญหา

ขณะที่ นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ กล่าวว่า ความรุนแรงของวิถีกระสุนจากปืนอัดลมชนิดนี้ เมื่อยิงทดสอบแล้วมีความเร็วเกินกว่ามาตรฐานที่กำหนด นอก จากปืนอัดลมแบบนี้ยังมีปืนบีบีกัน ที่หาซื้อกันได้ตามท้องตลาด พบว่ามีความเร็วของกระสุนปืนเกิน 100-300 เมตรต่อวินาที เป็นอันตรายต่อเด็กอย่างมาก เช่นเดียวกับนพ.นิโรธ เจริญประกอบ กล่าวสมทบว่า สคบ.ได้ส่งตัวอย่างปืนอัดลมเลเซอร์ให้กรมการปกครองพิจารณา พบว่าถูกจัดให้เป็นสิ่งเทียมอาวุธปืน ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนมีการสั่งห้ามนำเข้า หรือค้า เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน หลังจากนี้จะร่วมกับตำรวจ บก.ปคบ.สุ่มตรวจ และเก็บตัวอย่างปืนอัดลมเพื่อเฝ้าระวัง และพิจารณาดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดอย่างเข้มงวด นอกจากนี้จากการตรวจสอบการโฆษณาชวนเชื่อตามเว็บไซต์ทางอินเตอร์เน็ต พบว่าปืนแบบบีบีกันบางประเภท ยังเข้าข่ายกระทำความผิดตามบทบัญญัติที่เกี่ยวกับการโฆษณาสินค้าอีกด้วย

พล.ต.ต.พูนทรัพย์กล่าวว่า เตรียมเสนอให้ปืนอัดลมประเภทนี้เป็นสินค้าที่ต้องควบคุมฉลาก เพื่อควบคุมการจำหน่าย เมื่อมีการกำหนดเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ตำรวจ บก.ปคบ. จะออกตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดต่อไป

...