ครอบครัวของชายอเมริกันที่ถูกชนเผ่าในอินเดียยิงธนูใส่จนตายหลังจากลักลอบขึ้นเกาะ ออกแถลงการณ์ว่า พวกเขาให้อภัยแก่ผู้ที่ลงมือสังหาร ระบุผู้ตายมีแต่ความรักให้แก่ชนเผ่านี้...

สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า ครอบครัวของ นายจอห์น อัลเลน เชา ชายชาวอเมริกัน ซึ่งลักลอบขึ้นเกาะเซนติเนลเหนือ ในหมู่เกาะอันดามันและนิโคบาร์ ของประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นเขตหวงห้าม จนถูกชนเผ่า ‘เซนทิเนล’ ที่อาศัยอยู่บนเกาะนี้ใช้ธนูระดมยิงจนตาย ออกมาระบุว่า พวกเขาให้อภัยแก่ผู้ที่สังหารนายจอห์น

“จอห์น อัลเลน เชา รักพระเจ้า, รักชีวิต, ชอบช่วยเหลือคนที่กำลังลำบาก และไม่มีอย่างอื่นให้ชาวเซนทิเนลนอกจากความรักของเขา” ครอบครัวของนายจอห์นระบุในแถลงการณ์ พวกเขายังยืนยันด้วยว่านายจอห์นไปยังเกาะแห่งนี้ด้วยความตั้งใจของตัวเอง และขอให้ตำรวจอย่าดำเนินคดีกับชาวบ้านท้องถิ่นที่เขาขอให้พาไปยังเกาะ

ชาย 7 คน ซึ่ง 5 คนเป็นชาวประมงที่ช่วยนายจอห์นขึ้นเกาะ ถูกตำรวจจับกุมตัว ขณะที่รัฐบาลอินเดียระบุว่า ต้องใช้เวลาหลายวันในการเก็บกู้ศพของจอห์น โดยพวกเขาส่งเฮลิคอปเตอร์และเรือเข้าใกลัเกาะแห่งนี้เพื่อระบุตำแหน่งของศพนายจอห์นแล้ว

เกาะเซนทิเนลเหนือ
เกาะเซนทิเนลเหนือ

...

ทั้งนี้ เจฟฟ์ คิง ประธานองค์กรห่วงใยชาวคริสต์สากล (International Christian Concern) ที่นายจอห์นเป็นแนวร่วมบอกกับบีบีซีว่า ได้ติดต่อกับนายจอห์นในช่วงก่อนเกิดเหตุ “จอห์นไปที่นั่นเพื่อนำคำสอนของพระเยซูไปให้กับคนเหล่านี้ เขาพูดถึงเรื่องนี้ และวางแผนมาสักพักแล้ว มันจึงไม่ใช่อารมณ์ชั่ววูบ มันไม่ใช่การเล่นสนุก” นายคิง เผยด้วยว่า จอห์นเคยไปที่เกาะนี้ถึง 4 ครั้ง

ขณะที่ตามข้อมูลจากบันทึกของนายจอห์น ที่เผยแพร่โดย วอชิงตัน โพสต์ ในการไปเยือนเกาะเซนทิเนลเหนือครั้งก่อน นายจอห์นตะโกนบอกกับชาวเผ่าว่า “ผมชื่อจอห์น ผมรักพวกคุณ พระเยซูก็รักพวกคุณ” แต่หนึ่งในชาวเป่ายิงธนูใส่เขา ลูกดอกปักทะลุคัมภีรไบเบิลกันน้ำของเขา

นายจอห์นย้ำในบันทึกสุดท้ายของตัวเองว่า “พวกคุณอาจคิดว่าผมบ้าที่ทำเรื่องพวกนี้ แต่ผมคิดว่ามันคุ้มค่าที่จะเผยแพร่คำสอนของพระเยซูแก่คนเหล่านี้” “พระเจ้า ผมไม่อยากตาย”