ใครมีวันหยุดน้อย แล้วอยากไปเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ แนะนำให้เก็บกระเป๋าไปเที่ยว "กาญจนบุรี" แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติใกล้กรุง เหมาะกับขาเที่ยวที่ชอบชมธรรมชาติ ป่าเขาเขียวขจี เล่นน้ำเย็นๆ ใสสะอาด สดชื่น อากาศบริสุทธิ์ดีต่อใจ!... (9 ที่เที่ยว หน้าหนาว 2561)
ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ ชวนไปส่องที่เที่ยวสไตล์ป่าเขาและแม่น้ำในเมืองกาญจน์ แหล่งออกซิเจนบริสุทธิ์สดชื่น โดยเฉพาะช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน-เดือนกุมภาพันธ์ เป็นช่วงฤดูหนาว อากาศเย็น มีหมอกบางๆ ในตอนเช้า ทำให้ได้ชมวิวสวยไปอีกแบบ
ส่วนจะมีที่ไหนน่าสนใจบ้าง ตามมาเช็กลิสต์กันเลย...
1. สะพานชมวิว แม่น้ำแควใหญ่
ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะคุ้นเคยกับแม่น้ำแควน้อยในเมืองกาญจน์ แต่คราวนี้ลองไปเที่ยวชมแม่น้ำแควใหญ่กันบ้างก็ดีเหมือนกันนะ มีจุดชมวิว คือ สะพานข้ามแม่น้ำแคว (สะพานแควใหญ่) ตั้งอยู่ที่ ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จากถนนแสงชูโตจะมีป้ายบอกทางให้เลี้ยวซ้าย
สะพานข้ามแม่น้ำแคว สร้างขึ้นโดยกองทัพญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ในอดีตถูกสร้างด้วยความยากลำบาก โหดร้ายทารุณ รวมถึงมีคนตายจากสะพานแห่งนี้นับหมื่นคน สะพานแห่งนี้จึงกลายเป็นเหมือนอนุสรณ์สถานของเหล่าเชลยศึก และเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของจังหวัดกาญจนบุรี
...
2. ล่องแพเปียก แม่น้ำแควใหญ่
ถ้าใครไม่อยากชมวิวเฉยๆ แต่อยากสัมผัสธรรมชาติให้มากขึ้น แนะนำให้ไปลองกิจกรรม 'ล่องแพเปียก' เป็นกิจกรรมทางน้ำที่สร้างความประทับใจให้คนรักการผจญภัยทางน้ำ นั่งชมธรรมชาติ ดูนก สัตว์นานาชนิดน้อยใหญ่ ระหว่างการเดินทางในสายน้ำแคว ความยาว 3 กิโลเมตร สนุกสนานกับการลงเล่นน้ำระหว่างการล่องแพ เก็บภาพความประทับใจตลอดเส้นทาง
3. หาดมุกดา แม่น้ำแควใหญ่
หาดมุกดา เป็นหาดกรวดธรรมชาติสวยงาม ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแควใหญ่ เดินทางไปชมได้โดยการล่องแพ ที่นี่โดดเด่นด้วยก้อนหินกรวดรูปทรงสวยงาม เรียงรายสลับขนาดน้อยใหญ่เป็นวงกว้าง สร้างมนตร์เสน่ห์ให้แก่ผู้พบเห็น มีแม่น้ำแควใหญ่ไหลผ่าน น้ำใสแลเห็นตัวปลา เป็นจุดนั่งพักผ่อน ชมวิว ถ่ายรูปสวยๆ เหมาะสำหรับทำกิจกรรมสังสรรค์กับครอบครัวหรือเพื่อนฝูง
4. ที่พักกลางป่า คำแสด ริเวอร์แคว รีสอร์ท
โรงแรมคำแสด ริเวอร์แคว รีสอร์ท เป็นโรงแรมหรูกลางป่าใหญ่ที่มีต้นไม้ใหญ่กว่า 2,400 ต้น บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ ตัวโรงแรมถูกโอบล้อมไปด้วยป่าไม้เขียวขจีสวยงาม ร่มรื่น ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมืองกาญจนบุรี ห่างจากสะพานข้ามแม่น้ำแควเพียง 15 กิโลเมตร
ภายในบริเวณโรงแรม มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมายหลายอย่างที่น่าสนใจ หนึ่งในนั้นคือ จุดชมวิวแม่น้ำแควใหญ่ ที่ขนาบด้วยแนวป่าธรรมชาติ มองเห็นสายน้ำแควไหลผ่านยาวไกลกว่า 1 กิโลเมตร อยู่ทางทิศเหนือของโรงแรม
5. ลานต้นไม้กลายเป็นหิน / สวนธรรม
นอกจากนี้ภายในโรงแรมยังมีของแปลกให้ชม นั่นคือ ลานจัดแสดงต้นไม้กลายเป็นหินในชั้นต่างๆ ซึ่งสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน ตันไม้จะเป็นท่อนไม้ขนาดความยาว 1 เมตร จำนวน 7 ท่อน ซึ่งทางโรงแรมขุดพบมาเป็นเวลากว่า 20 ปี ถูกวางเรียงรายอยู่ทางทิศเหนือบริเวณล็อบบี้โรงแรมคำแสดฯ
...
ส่วนพื้นที่ 'สวนธรรม' เป็นสถานที่ใช้ทำวัตร สวดมนต์ นั่งสมาธิ บรรยากาศสงบเงียบ มีลานต้นสาละใหญ่ที่ใช้สำหรับการเดินจงกรม และมีห้องพระขนาดใหญ่พอประมาณไว้บริการสำหรับผู้คนที่สนใจปฏิบัติธรรมในวันสำคัญทางศาสนาต่างๆ
6. สถาปัตยกรรมศิลปะโคโลเนียล
อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจ คือ สถาปัตยกรรมร่วมสมัยสไตล์โคโลเนียล เป็นศิลปะที่หาชมได้ยาก โดยทางโรงแรมได้นำศิลปะแนวโคโลเนียลมาออกแบบในพื้นที่บริเวณล็อบบี้ให้นักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนได้เยี่ยมชมศิลปะความงาม ที่สามารถกลมกลืนไปกับบรรยากาศธรรมชาติรอบๆ โรงแรมได้ดี
...
7. หอพระ / หอพระมหากษัตริย์ 9 มหาราช
เป็นสถานที่สำคัญภายในโรงแรมคำแสด มีความมงคลและสวยงามมาก หอพระ ได้นำธรรมาสน์โบราณมาปรับใช้สำหรับประดิษฐานพระพุทธรูป
ส่วนหอพระมหากษัตริย์ 9 มหาราช เป็นสถานที่ประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์ของพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 9 ซึ่งวันกองทัพไทยของทุกปี จะมีพิธีบวงสรวงเพื่อความเป็นสิริมงคล และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ
เป็นสถานที่เรียนรู้ศาสตร์พระราชา เปิดบริการให้หน่วยงานราชการ เอกชน และประชาชนทั่วไป ที่สนใจในเรื่องราวของศาสตร์พระชา เข้ามาศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเอง โดยมีวิทยากรผู้เป็นปราชญ์ชาวบ้านที่มีความรอบรู้ในเรื่องศาสตร์พระราชามาให้ความรู้.