“เจ้าสัววิชัย ศรีวัฒนประภา” เจ้าของอาณาจักรคิง เพาเวอร์ ประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ หรือในอีกแง่หนึ่งที่คนทั่วโลกยกย่องว่า เขาคือผู้ที่มีชีวิตเพื่อการ “ให้” อย่างแท้จริง

ล่าสุด จากกระแสพระเครื่อง 3 องค์ที่เจ้าสัววิชัยพกติดตัวไว้บูชาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ชนิดที่เรียกว่าเหน็บติดตัวมาตลอด ซึ่งต่อมาพบว่า พระเครื่องทั้ง 3 องค์ มี พระสมเด็จวัดระฆัง พระรอดลำพูน พิมพ์ใหญ่ และล็อกเกตหลวงพ่อเกษม เขมโก เกจิอาจารย์ชื่อดังเมืองลำปาง

โดยหลังจากเกิดอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกพระเครื่องทั้ง 3 องค์ไม่ถูกไฟไหม้ และไม่มีร่องรอยเสียหายแม้แต่น้อย จนเป็นที่อัศจรรย์ใจ ซึ่ง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่เดินทางไปอังกฤษกับครอบครัวเจ้าสัววิชัย ได้กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริงและพระทั้ง 3 องค์นั้น ต๊อบ-อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ลูกชายเจ้าสัววิชัยนำมาเก็บไว้แล้ว

ส่วนพุทธคุณของพระเครื่องดังกล่าวนั้น มีดังต่อไปนี้
พระสมเด็จวัดระฆัง มีพุทธคุณ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดภัยภิบัติ คงกระพัน โชคลาภ 
พระรอดลำพูน พิมพ์ใหญ่ มีพุทธคุณทางด้านแคล้วคลาดปลอดภัย
ล็อกเกตหลวงพ่อเกษม เขมโก มีพุทธคุณในแง่เมตตามหานิยม และเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน 

...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระเครื่ององค์แรกที่เจ้าสัววิชัยนำมาบูชานั้น ได้รับมาจาก นายมนตรี พงษ์พานิช อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการหลายกระทรวง สมัย พล.ต.ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าสัววิชัย และนายมนตรีนั้น นับถือรักใคร่กันเหมือนพี่เหมือนน้อง

ในช่วงที่นายมนตรี มีชีวิต ได้นำพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ องค์ขุนศรี และพิมพ์เกศบัวตูม มาให้เจ้าสัววิชัยเลือก พร้อมพระเครื่ององค์อื่นๆ ซึ่งเจ้าสัววิชัยไม่มีความรู้เรื่องพระเครื่องแม้แต่น้อย และเกิดความเกรงใจยิ่งนัก จึงเลือกพระเครื่ององค์ที่ดูแล้วมีราคาแพงน้อยที่สุด

โดยระหว่างนั้นนายวิชัย มีเซียนพระชั้นยอดคู่กาย อยู่ 2 คน คือ “ต้อย เมืองนนท์” อุปนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย (ตำแหน่งขณะนั้น) และ “โกเนี้ยว สำโรง” คณะกรรมการตัดสินพระเครื่องชุดเบญจภาคี (ตำแหน่งขณะนั้น) คอยให้ความรู้เรื่องพระเครื่องให้ และต่อมาภายหลัง จึงได้ทราบว่า พระเครื่องที่ตนเองได้เลือกมานั้น มีมูลค่า และมีพุทธคุณยิ่งนัก