ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา ชี้กระทบระบบทีแคส-เด็กเสียโอกาส
นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือระบบทีแคส ปี 2562 ร่วมกับ ศ. นพ.อุดม คชินทร รมช.ศึกษาธิการ และ ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ว่า ทปอ.ได้แจ้งให้ที่ประชุมรับทราบปัญหาการส่งต่อข้อมูลจากสพฐ.โดยเฉพาะในเรื่องการส่งใบแสดงผลการเรียนของนักเรียน (ปพ.1) หรือทรานสคริปต์ ซึ่งที่ผ่านมาโรงเรียนสังกัด ศธ. และโรงเรียนสังกัดหน่วยงานอื่นๆ ส่งข้อมูลมาล่าช้า ทำให้ ทปอ.ไม่สามารถจัดทำข้อมูลเพื่อเตรียมระบบทีแคสได้อย่างสมบูรณ์ ดังนั้น จึงได้กำหนดให้โรงเรียนทุกสังกัดส่งใบ ปพ.1 ให้ ทปอ.ภายในวันที่ 16 พ.ย.นี้ ซึ่งหากโรงเรียนใดไม่ส่งมาภายในกำหนด ผู้อำนวยการโรงเรียนต้องรับผิดชอบ หากเป็นโรงเรียนในสังกัด สพฐ.จะถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย เพราะถือว่าไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา ในขณะที่โรงเรียนอื่นก็จะแจ้งให้ต้นสังกัดรับทราบ
“ตอนนี้ไม่ต้องมาสอบถามว่าจะมีการโยกย้ายผู้บริหารซี 10 หรือซี 11 เมื่อใด เพราะผมจะไม่ทำอะไรจนกว่าจะถึงวันที่ 16 พ.ย.นี้ ซึ่งขณะนี้เท่าที่ทราบมีโรงเรียนในสังกัด สพฐ. จำนวนกว่า 300 แห่งที่ยังไม่ได้จัดส่งข้อมูล และโรงเรียนในสังกัดหน่วยงานอื่นๆ กว่า 1,000 แห่ง จึงอยากฝากไปยังผู้อำนวยการโรงเรียนที่มีนักเรียนชั้น ม.6 ตรวจสอบว่า ได้มีการจัดส่งใบ ปพ.1 แก่ ทปอ.แล้วหรือไม่ โดยการส่งข้อมูลดังกล่าวสามารถส่งทางเว็บไซต์เท่านั้น และถ้าทำไม่ได้ ถือว่า ผอ.ไม่รับผิดชอบ เป็นการขัดคำสั่งของผู้บังคับบัญชา และไม่ใช่เพียง ผอ.โรงเรียนเท่านั้น เลขาธิการ กพฐ. ก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วย ส่วนโทษนั้นคงต้องพิจารณาเป็นรายกรณี” นพ.ธีระเกียรติกล่าว
...
ศ.นพ.อุดมกล่าวว่า ระบบทีแคสมีการพัฒนาและแก้ปัญหาต่างๆ ไปตามนโยบายของรัฐบาลเพื่อลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ การวิ่งรอกสอบและค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง ซึ่งที่ผ่านมา สพฐ.ส่งข้อมูลให้ ทปอ.ไม่ครบตามกำหนด ทำให้เกิดความเสียหายอย่างมาก เพราะ ทปอ.ไม่สามารถจัดทำระบบทีแคสได้ เนื่องจากไม่มีข้อมูล ซึ่งคนที่เดือดร้อนมากที่สุด คือ นักเรียน และการสูญเสียโอกาสไม่ควรเกิดในแผ่นดินไทย สิ่งที่ รมว.ศึกษาธิการพูดอาจจะมองดู เหมือนรุนแรง แต่ก็สมควรทำ เพราะเรื่องการส่งข้อมูล เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมาประมาณ 4 ปี ตั้งแต่ตนเป็นประธาน ทปอ.ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น.