เป็นอดีตรปภ.วัย61ปี คาดฝีมือพี่เจ้าของร้าน

ตำรวจ สน.ลาดกระบังล่าฆาตกรโหดฆ่าอดีต รปภ.วัยดึก แทง 6 แผล แถมใช้มีดพร้าสับใบหน้าจนเละเป็นหมูบะช่อ หมกบ่อเกรอะหลังเพิงเตรียมเปิดขายอาหารตามสั่ง ริมถนนร่มเกล้า ตำรวจคาดมือฆ่าเป็นพี่ชายเจ้าของเพิงที่มานอนเฝ้าของ หลังเกิดเหตุหายตัวไปทิ้งรถกระบะไว้ดูต่างหน้า ประกอบกับชาวบ้านให้เบาะแสคนตายชอบมานั่งดวดเหล้าขาวกับผู้ต้องสงสัย จนมีเรื่องวิวาทกันเป็นประจำ

ฆ่าโหดใช้มีดพร้าสับหัวอดีต รปภ.รุ่นใหญ่เละเป็นหมูบะช่อหมกบ่อเกรอะ เปิดเผยเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 23 ต.ค. ร.ต.อ.ฤทธิไกร ยอมประโคน รอง สว. (สอบสวน) สน.ลาดกระบัง ได้รับแจ้งเหตุพบกองเลือด เศษชิ้นเนื้อคาดว่าเป็นของมนุษย์กระจัด กระจายอยู่ภายในเพิงหมาแหงนเตรียมเปิดเป็นร้านขายอาหารเจ ชื่อเจ-ร่มเกล้า ใกล้ปากซอยร่มเกล้า 25/6 ถนนร่มเกล้า แขวงคลองสามประเวศ เขตลาดกระบัง กทม. จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พล.ต.ต.สมนึก น้อยคง ผบก.น.3 พ.ต.อ.ถนัด นักธรรม ผกก.สส.บก.น.3 พ.ต.อ.คำแหง กัณฑวงศ์ ผกก.สน.ลาดกระบัง พ.ต.ท.สิทธิชัย ธัญญาบาล รอง ผกก.สส.สน.ลาดกระบัง กำลังตำรวจฝ่ายสืบสวน ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) แพทย์นิติเวชฯ รพ.ตร.และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

...

ที่เกิดเหตุภายในส่วนครัวเตรียมอาหารพบร่องรอยการต่อสู้ ข้าวของจานชามแตกกระจายเกลื่อนพื้น มีเศษเนื้อและกองเลือดกระจายอยู่ทั่วบริเวณเป็นที่น่าสยดสยอง นอกจากนี้ยังพบมีดพร้า ยาว 1 ฟุต เปื้อนเลือดวางอยู่บนโต๊ะทำครัว 1 เล่ม ตรวจสอบด้านหลังร้าน ห่างจากห้องครัวประมาณ 2 เมตร พบบ่อเกรอะเส้นผ่าศูนย์กลาง 80 เซนติเมตร ลึก 4 เมตร โดยคนร้ายลากเครื่องซักผ้าจากจุดเดิมมาวางทับฝาบ่อเกรอะ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเก็บลายนิ้วมือแฝงบนเครื่องซักผ้าไว้เป็นหลักฐาน ก่อนเปิดฝาบ่อเกรอะใช้อุปกรณ์เกี่ยวศพขึ้นมา ทราบชื่อผู้ตายนายประสิทธิ์ หรือหรั่ง อินปฐม อายุ 61 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป อยู่บ้านเลขที่ 129/2 หมู่ 11 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ในชุดเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีดำ กางเกงยีนส์ขาสั้นสีดำ สภาพศีรษะปักลงไปในก้นบ่อเท้าชี้ฟ้า ตรวจสอบตามร่างกายพบร่องรอยถูกแทงด้วยของมีคมที่ท้อง 5 แผล แขนซ้าย 1 แผล ศีรษะตั้งแต่ช่วงคางขึ้นไปถูกของมีคมฟันจนเละเป็นหมูบะช่อ จำเค้าโครงใบหน้าเดิมไม่ได้

ต่อมาชุดสืบสวนเชิญนายประเสริฐ อินปฐม อายุ 58 ปี น้องชายผู้ตายมายังที่เกิดเหตุ เบื้องต้นยืนยันศพที่พบเป็นนายประสิทธิ์พี่ชายของตนเอง เพราะจดจำรอยสักรูปนกที่หน้าอกด้านซ้ายและรอยสักรูปงูที่แขนซ้ายได้ ทั้งนี้นายประเสริฐยังให้ข้อมูลด้วยว่าพี่ชายเป็นอดีต รปภ.ของบริษัทแห่งหนึ่ง มัก จะมาดื่มเหล้าที่จุดเกิดเหตุเป็นประจำ หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 21 ต.ค. ไม่ทราบว่ามีเหตุทะเลาะวิวาทกับใครหรือไม่ มีชาวบ้านละแวกนั้นเล่าว่า ในวันที่พี่ชายหายตัวไป พบชายสวมเสื้อลายสีแดง กางเกงยีนส์ขายาว เดินป้วนเปี้ยนอยู่ที่จุดเกิดเหตุท่าทางลุกลี้ลุกลนก่อนจะหายตัวไป

น.ส.ณัฐวรา ขำทวี อายุ 61 ปี เจ้าของเพิงขายอาหารจุดเกิดเหตุให้การว่า ปลูกเพิงดังกล่าวเพื่อเตรียมเปิดขายอาหารตามสั่งมาประมาณ 2 เดือนแล้ว โดยให้นายบุญยืน ขำทวี อายุ 68 ปี พี่ชายเดินทางมาจาก จ.เพชรบุรี มานอนเฝ้าและช่วยก่อสร้างเพิ่มเติม ก่อนเกิดเหตุไม่สามารถติดต่อนายบุญยืนได้ จึงเดินทางมาที่ร้านเพื่อตรวจความเรียบร้อย พบกองเลือดเศษเนื้อจำนวนมาก ตกใจคิดว่าเกิดเรื่องร้ายกับพี่ชาย จึงรีบแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ ส่วนรถกระบะนิสสัน ฟรอนเทียร์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บธ 7006 ประจวบคีรีขันธ์ ที่จอดอยู่ข้างร้านเป็นของพี่ชาย

...

ด้าน พล.ต.ต.สมนึกเปิดเผยว่า เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานนายประสิทธิ์ ผู้ตายน่าจะมาดื่มเหล้าบริเวณที่เกิดเหตุ มีปากเสียงทะเลาะวิวาทกับนายบุญยืน ก่อนถูกทำร้ายจนเสียชีวิต โดยคนร้ายใช้มีดพร้าสับบริเวณศีรษะผู้ตายจนเละด้วยความแค้นหรือเพื่ออำพรางไม่ให้จดจำใบหน้าได้ ก่อนจะนำศพไปทิ้งไว้ในบ่อเกรอะเพื่อหลบหนีความผิด ขณะนี้ยังถือว่านายบุญยืนคือผู้ต้องสงสัยเท่านั้น

“สอบถามพยานแวดล้อมพบข้อมูล นายบุญยืนทำหน้าที่เฝ้าเพิงจุดเกิดเหตุ ทั้งนายประสิทธิ์และนายบุญยืนมักจะมาดื่มเหล้าขาวกันเป็นประจำทุกวัน ระยะหลังทั้งคู่มักจะมีปากเสียงกันบ่อยครั้งถึงขั้นทำร้ายร่างกายกัน ผู้ตายมักจะมีบาดแผลบวมช้ำบริเวณเบ้าตาขวาและตาซ้าย กระทั่งเมื่อช่วงสายของวันที่ 21 ต.ค. มีผู้พบเห็นนายบุญยืนเดินอยู่ภายในร้านอาหารเจเพียงลำพังในอาการลุกลี้ลุกลน ก่อนจะหายตัวไป ขณะนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างรอผลตรวจลายนิ้วมือแฝงในที่เกิดเหตุ พร้อมเร่งติดตามตัวนายบุญยืนมาสอบสวนตามขั้นตอน” พล.ต.ต.สมนึกกล่าว