ลมหนาวเริ่มพัดมาทักทายแล้วนะจ๊ะ ปีนี้ขาเที่ยวแพลนจะเดินทางไปฟินรับลมหนาวที่ไหนกันบ้าง? แต่ถ้าจะให้แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวไทยสำหรับปีนี้ ต้องไปเช็กอินแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ในเมืองรอง ที่มีกิมมิกน่าสนใจ บรรยากาศดีเว่อร์ สวยงามไม่แพ้ที่เที่ยวเดิมๆ ที่คุณเคยไปมาแน่นอน...(7 ที่เที่ยว "กาญจนบุรี" )

ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ ชวนไปปักหมุด 9 สถานที่ท่องเที่ยวไทย เที่ยวเมืองรองในบรรยากาศดีๆ แถมยังมีความสดใหม่สวยงาม คนไปยังไม่เยอะ ไม่แน่นแออัดเหมือนที่เที่ยวดังๆ ที่คนไปกระจุกกันจนล้นพื้นที่

ส่วนจะมีที่ไหนที่น่าสนใจบ้าง มาเช็กลิสต์กันเลยจ้า...

1. ภูสิงห์-หินสามวาฬ จ.บึงกาฬ

ภูสิงห์ อยู่ในเขตพื้นที่อนุรักษ์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงดิบ กะลา ป่าภูสิงห์ และป่าดงสีชมพู ครอบคลุมพื้นที่อำเภอศรีวิไลกับอำเภอเมืองบึงกาฬ ธรรมชาติป่าไม้ยังคงอุดมสมบูรณ์อยู่มาก มีแหล่งท่องเที่ยวทั้งหน้าผา ถ้ำ ลานหินต่างๆ กระจายทั่วพื้นที่ ทำให้ภูสิงห์มีความงามตามธรรมชาติ สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกในภูเดียวกันได้

...

มีไฮไลต์ที่อยากแนะนำให้ขาเที่ยวไปเช็กอินกัน นั่นคือ หินสามวาฬ เป็นก้อนหินขนาดใหญ่ยักษ์ มีลักษณะคล้ายวาฬว่ายคลอเคลียกัน 3 ตัว ชาวบ้านแถวนี้มักเรียกกันว่าเป็นกลุ่มวาฬพ่อแม่ลูก จุดนี้สามารถถ่ายรูปได้อย่างสวยงาม และชมวิวป่าเขาและทะเลหมอกได้ด้วย

ที่มาภาพ : bungkan 

2. ภูป่าเปาะ ฟูจิเมืองเลย จ.เลย

ภูป่าเปาะ เป็นเนินเขาเตี้ยๆ อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 910 เมตร เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็น 'ภูหอ' ที่มีลักษณะเป็นภูเขาสูงคล้ายกับ 'ภูเขาไฟฟูจิซัง' ในประเทศญี่ปุ่นได้อย่างชัดเจน และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตกได้อย่างสวยงาม

ในฤดูหนาวสามารถมองเห็นทะเลหมอกที่สวยงามได้โดยรอบ นอกจากนี้ ยังมองเห็นภูกระดึง ภูหลวง ภูยอง ภูผาขวาง ภูค้อ-ภูกระแต สวนหินผางาม ภูผาม่าน จึงได้ชื่อว่า "พาโนราม่าเมืองเลย" นักท่องเที่ยวสามารถจอดรถยนต์ไว้ที่ทำการของภูป่าเปาะ แล้วนั่งรถอีแต๊กท้องถิ่นขึ้นไปยังจุดชมวิว (ค่าบริการคนละ 60 บาท)

ภูป่าเปาะ อยู่ห่างจากหินผางามเพียง 5 กม. ไม่มีที่พักและไม่อนุญาตให้กางเต็นท์ แต่บริเวณที่ทำการฯ มีห้องน้ำและร้านอาหารไว้บริการนักท่องเที่ยว

ที่มาภาพ : i-sanTAT

3. วัดผาตากเสื้อ Sky Walk จ.หนองคาย

วัดผาตากเสื้อ อ.สังคม จ.หนองคาย กลายเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ที่มี Unseen เมืองไทยไปแล้ว เพราะที่นี่มีจุดชมวิวทะเลหมอกที่สวยงามมากๆ อีกหนึ่งในไทย แถมยังมี 'สกายวอล์ก' (SkyWalk) หรือสะพานกระจกยื่นออกไปจากหน้าผา สูงจากพื้นดินราวๆ 500 เมตร และมีระยะทางยื่นออกไปประมาณ 6 เมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นไปชมวิวได้อย่างใกล้ชิดธรรมชาติ 

...

สกายวอล์ก ถูกออกแบบและสร้างเป็นรูปเกือกม้ายื่นออกไปหาแม่น้ำโขง พื้นทั้งหมดปูด้วยกระจกใสแจ๋ว หนา 4 เซนติเมตร แต่ละแผ่นยึดกับเหล็กบริเวณฐานที่เป็นชั้นหินอยู่ด้านล่าง ใช้เหล็กกันสนิมเพื่อลดการสึกกร่อนตามกาลเวลา

ที่นี่เปิดบริการนักท่องเที่ยวมาตั้งแต่ปี 2559 รับน้ำหนักนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 2,500 กิโลกรัม หรือจำกัดประมาณ 20 คนต่อครั้ง

4. ภูชี้ดาว-ภูชี้เดือน จ.เชียงราย

ใครที่เคยไปเที่ยวเชียงราย เชื่อว่าต้องไปปักหมุดที่ 'ภูชี้ฟ้า' มาแล้วแน่ๆ เพราะเป็นจุดชมวิวที่โด่งดัง แต่ก็อย่างที่บอกไปว่า แหล่งท่องเที่ยวที่ดังมายาวนานแบบนี้ คนก็จะแห่กันไปเยอะโดยเฉพาะช่วงวันหยุดยาวหรือวันหยุดปีใหม่ ถ้าใครไม่ชอบไปแย่งเที่ยวกับคนเยอะๆ แถมยังได้เที่ยวชมวิวสวยๆ ไม่แพ้กัน แนะนำให้ไปเที่ยว ภูชี้ดาว-ภูชี้เดือน ซึ่งอยู่ใน จ.เชียงราย เช่นกัน

...

สำหรับ 'ภูชี้ดาว' เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกที่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,760 เมตร นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวน้องใหม่ของ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย อยู่ไม่ไกลจากภูชี้ฟ้า-ผาตั้ง มากนัก ยอดเขาของภูชี้ดาวมีลักษณะเชิดชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า จึงเป็นที่มาของชื่อนี้

นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นมาชมพระอาทิตย์ขึ้น และทะเลหมอกที่คลอเคลียตามเทือกเขาเรียงรายสลับซับซ้อนในยามเช้า สวยงามไม่แพ้ที่อื่นๆ วิวทิวทัศน์จากยอดภูชี้ดาว สามารถชมวิวได้แบบ 360 องศา หรือใครจะไปเที่ยวต่อที่ 'ภูชี้เดือน' ด้วยก็ได้ อยู่ใกล้ๆ กัน 

ที่มาภาพ : tatchiangrai

5. ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน

...

แหล่งท่องเที่ยวถัดมา เราอยากชวนไปเช็กอินที่ หมู่บ้านจ่าโบ่ อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนที่มีชื่อเสียงมากของแม่ฮ่องสอน ใครที่อยากสัมผัสธรรมชาติของจริง แบบไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีมากนัก แนะนำให้ลองไปค้างคืนที่นี่สัก 1-2 คืน คุณจะได้ผ่อนคลายไปกับวิวทิวเขาสลับซับซ้อนที่มีให้เห็นทุกวันจากที่พักแบบโฮมสเตย์ 

แถมยังมีจุดชมวิวสวยๆ อยู่ตลอดทางในหมู่บ้าน มีร้านกาแฟที่มีที่นั่งยื่นออกไปจากหน้าผา ชมวิวทะเลหมอกได้อย่างใกล้ชิด มีร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขาที่มีวิวสวยงามไม่แพ้กัน และก็อย่าลืมแวะไปเดินตลาดถนนคนเดินของชาวบ้านในตัวอำเภอปางมะผ้าด้วยละ สตรอว์เบอรรี่สดๆ หวานฉ่ำ ราคาถูกเว่อร์!

6. ดอยเสมอดาว จ.น่าน

ดอยเสมอดาว ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติศรีนาน จ.น่าน ครอบคลุม 3 อำเภอ คือ อ.นาหมื่น อ.นาน้อย และ อ.เวียงสา มีเทือกเขาสูงสลับซับซ้อนสวยงาม มีแม่น้ำน่านทอดตัวผ่านกลางอุทยานฯ ตั้งแต่เหนือสุดจนถึงใต้สุดยาวกว่า 60 กิโลเมตร

ไฮไลต์ที่ควรไปเที่ยวและเช็กอินให้ได้ในหน้าหนาวปีนี้ ก็คือ ผาหัวสิงห์และดอยเสมอดาว อยู่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 16 สายนาน้อย-ปางไฮ จากบนนี้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้ 360 องศา ชมวิวอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกสวยงามอร่ามตา ชมทิวทัศน์ทั้งสองฝั่งแม่น้ำน่าน และยังสามารถชมวิวพระอาทิตย์ตกได้อีกด้วย แถมยังมีพื้นที่กางเต็นท์สำหรับคนอยากนอนนับดาว 

7. ภูลังกา-ปัว จ.พะเยา

วนอุทยานภูลังกา เป็นผืนป่าที่ยังมีความอุดมสมบูรณ์อยู่มาก เต็มไปด้วยพืชพรรณดอกไม้ป่าพันธุ์ไม้หายาก เช่น ชมพูภูพาน เนียมแดง เอื้องสีตาล เทียนธารา สัตฤาษี รวมถึงสัตว์ป่าที่มีอยู่กว่า 100 ชนิด

สถานที่ท่องเที่ยวบนภูลังกาที่น่าสนใจ หน้าหนาวปีนี้ควรไปชมให้ได้สักครั้ง ได้แก่ จุดชมวิวทะเลหมอกแห่งเดียวของเมืองพะเยา จากยอดภูที่มีความสูง 1,700 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง และทุ่งดอกโคลงเคลงซึ่งจะบานราวเดือนกรกฎาคม-ธันวาคมของทุกปี

8. ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์

ภูทับเบิก เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดเพชรบูรณ์มาได้สักระยะหนึ่งแล้ว แถมยังโด่งดังเรื่องผู้คนแห่มาเที่ยว จนทำเอารถติดกันเป็นแถว แต่ก็ยังถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจสำหรับปี 2018 อยู่ดี

ด้วยความสูงจากระดับทะเลปานกลางประมาณ 1,768 เมตร จึงทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดของเพชรบูรณ์ แวดล้อมไปด้วยทัศนียภาพแบบทะเลภูเขา และมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะนิยมมาชมทะเลหมอกของที่นี่ เพราะสวยงามอลังการมากๆ สามารถชมได้ทั้งช่วงหน้าฝนและหน้าหนาว

แต่ในหน้าหนาวจะมีอีกหนึ่งไฮไลต์ให้เที่ยวชม นั่นคือ ถ้าไปเที่ยวในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม คุณจะได้ชมดอกซากุระเมืองไทย หรือดอกนางพญาเสือโคร่งสีชมพูบานสะพรั่งไปทั้งภูเขา สวยงามโรแมนติกมากๆ ปีนี้อย่าพลาด พาคนข้างๆ ไปเที่ยวด้วยกันนะจ๊ะ

9. ทุ่งดอกคอสมอส จ.ชัยภูมิ

น้อยคนนักจะรู้ว่า จ.ชัยภูมิ มีทุ่งดอกคอสมอสที่สวยงาม ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะมาเที่ยวชมความงามของดอกกระเจียว ในช่วงหน้าฝนกันซะมากกว่า แต่เราบอกเลยว่าช่วงหน้าหนาวที่นี่ก็สวยไม่แพ้ใคร

ทุ่งดอกคอสมอสที่ว่านี้ ตั้งอยู่ในเขตบริเวณของฟาร์มแกะร็อคกี้แลนด์ ต.บ้านไร่ อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ ที่นี่มีลักษณะเป็นหุบเขา ล้อมรอบไปด้วยภูเขาน้อยใหญ่สวยงามๆ กลางหุบเขาจะมีทุ่งคอสมอสสีชมพูสวยออกดอกเต็มพื้นที่หลายสิบไร่

โดยทุ่งดอกคอสมอสของที่นี่ มีอยู่หลายทุ่งที่ผลัดกันออกดอกในระยะเวลาไล่เลี่ยกัน เริ่มชุดแรกบานมาตั้งแต่เดือนกันยายน หลังจากชุดแรกหมดไป ก็จะมีชุดต่อๆ มา ทยอยบานเรื่อยไปจนถึงช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม ของทุกปี