พลเมืองดีประสานหน่วยงานเข้าช่วยเหลือเด็กสาวอายุ 17 ปี ถูกพ่อแท้ๆ ข่มขืน ทุกข์ทรมานมาตลอด 5 ปี ซ้ำร้ายแม่รู้เห็นเป็นใจ...

ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชลิดา วัฒนะ สาวจิตอาสาพลเมืองดี โพสต์บอกเล่าเรื่องราวที่แสนหดหู่เรื่องหนึ่ง หลังร่วมกับผู้เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือสาววัยรุ่นที่ถูกพ่อแท้ๆ ข่นขืนตั้งแต่อายุ 12 ปี จนกระทั่งปัจุบันอายุ 17 ปี พร้อมทั้งอ้างว่าผู้เป็นแม่ก็รู้เห็นมาโดยตลอด อีกทั้งไม่ให้เรียนหนังสือ ถ้าพ่อไม่อยู่บ้านก็จะจับน้องขังไว้

“น้องอยู่กับตายายตั้งแต่เกิด แต่พ่อแม่เอาลูกมาเลี้ยงตอนอายุ 12 แล้วน้องก็โดนพ่อแท้ๆ ขืนใจมาโดยตลอด ตบตี ข่มขู่ จนน้องทนไม่ไหว หนีออกมาจากกระท่อมปลายนาที่พักอาศัยอยู่ด้วยกัน มาหาอาน้องสาวพ่อ ขอร้องให้อาช่วย แรกๆ อาไม่เชื่อ แต่หลานร้องไห้หนัก และมีท่าทางหวาดกลัว จึงเชื่อหลาน จนพ่อเด็กมาตามหาแล้วก็บุกเข้าไปตบตีน้องปากแตก เนื้อตัวบอบช้ำ อาเลยโทรแจ้งความข้อหาบุกรุกทำร้ายร่างกาย ทางเรารู้ข่าวก็ติดต่อไปหน่วยงานรัฐให้เข้ามาช่วยเหลือน้อง เราพาน้องไปตรวจร่างกาย และแจ้งความดำเนินคดีข้อหากระทำชำเรา และพาน้องเข้าไปพบเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องจนเสร็จเรียบร้อย”

ทั้งนี้ พลเมืองดีโพสต์เพิ่มเติมว่า คนเป็นพ่อนั้นโดนฝากขังแล้ว สภ.เมืองสกลนคร คัดค้านการประกันตัว พรุ่งนี้ สภ.อีกพื้นที่ ที่รับเรื่องจะไปยื่นคัดค้านอีกรอบ 2 ไม่ให้ประกันตัวออกมาได้อีก ส่วนแม่เด็กพยายามจะประกันตัวพ่อออกมาให้ได้ และโกรธแค้นลูก ที่ลูกแจ้งความผู้เป็นพ่อ รวมทั้งวันนี้ (9 ต.ค.) ช่วงบ่าย จะพาน้องอัยการไปสอบสวนชั้นอัยการ

“เราพร้อมจะช่วยให้ดีที่สุดค่ะ เด็กบอกแล้ว ถ้าผู้เป็นพ่อและแม่โดนจับก็ขอให้โดนจำคุกให้นานที่สุด น้องทุกข์ทรมานมา 5 จะ 6 ปี ทั้งร่างกายและจิตใจ หลุดพ้นสักทีนะลูก”

...

ทางด้านผู้ใช้เฟซบุ๊ก พัทธนันท์ ทาเงิน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในพลเมืองดีมาแสดงความคิดเห็นใต้โพสต์ว่า การเข้าไปช่วยเหลือไม่ได้มีเจตนาที่จะทำเพื่อเอาหน้า ช่วยเหลือโดยปราศจากผลประโยชน์ ช่วยเด็กคนหนึ่งที่กำลังทุกข์และทรมานทั้งทางร่างกายและจิตใจที่เจอมา 5 ปี เหตุที่ได้โพสต์ลงทางโซเชียลอยากให้สะท้อนเห็นว่าสังคมทุกวันนี้มันช่างโหดร้ายและน่ากลัว อันตรายมากที่สุดคือ ปัญหาการกระทำที่มาจากบุพการีทำต่อลูกแท้ๆ สัญญาว่าจะพาน้องและอาสู้จนถึงวินาทีสุดท้าย จะต้องให้พ่อได้รับผลกรรมที่ตัวเองได้กระทำชั่วในครั้งนี้ให้สาสม ขอบคุณทุกๆ กำลังใจที่มีให้น้องด้วย วันนี้จะเข้าไปหาน้องเพื่อที่จะพาน้องและอาเข้าไปให้ปากคำที่อัยการ

ขณะที่ชาวเน็ตต่างเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งให้กำลังใจผู้เสียหาย และเป็นกำลังใจให้กับพลเมืองดีที่ทำให้สังคมน่าอยู่ขึ้น.

(ขอบคุณเฟซบุ๊ก ชลิดา วัฒนะ, พัทธนันท์ ทาเงิน)