เปิดศึกวิวาทะเดือด สนั่นโซเชียลเลยทีเดียว สำหรับกรณี ต้าร์ นาวิน เยาวพลกุล หรือ นาวิน ต้าร์ และ น้ำหวาน พัสวี พคัยฆบุตร ภรรยา ผุดโครงการ “นมจากเต้าเราให้ฟรี” แบ่งปันให้เด็กๆ ยากไร้ที่ไม่มีน้ำนม จนเกิดกระแสดราม่า ถูกด่ายับจากหมอผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน รวมทั้งคนทั่วไปที่เฮโลกันด่าว่าเป็นถึง ดร. ไม่รู้เรื่อง ปัญญาอ่อน น้ำหวานทนไม่ไหวออกมาซัดกลับจัดหนัก มีจิตวิญญาณความเป็นแม่ และไม่ได้โง่

ล่าสุดนาวิน ต้าร์ ก็ทนไม่ไหว ออกมาโพสต์ข้อความแสดงจุดยืนร่ายยาวผ่านอินสตาแกรมจวกกลับคนวิจารณ์สักแต่พูด แต่ตนและภรรยามุ่งเน้นการกระทำมากกว่าพูด ย้ำที่ผ่านมาเห็นใจเมียต้องแบกภาระ และความเจ็บปวดของพ่อแม่ไม่ใช่การมีเงิน แต่เป็นการที่เราไม่สามารถเลี้ยงลูกให้อิ่มท้องและเจริญเติบโต ย้ำว่าไม่มีอะไรที่ไม่มีความเสี่ยง แต่ตนคัดกรองทั้งผู้ให้และผู้รับ อย่าสักแต่ด่าสังคมอุดมดารา เพราะทำงานไม่หวังกำไร ก้าวต่อไปจะปรับปรุงให้มีการรับบริจาคนมจากแม่ที่มีน้ำนมเหลือเยอะ
...
"อย่างแรก ผมอยากให้เห็นถึงเจตนารมณ์ของคนที่ริเริ่มโครงการแบ่งปันน้ำนมแม่นะครับ ครอบครัวของเราอาจโชคดีที่มีคุณแม่ที่มีน้ำนมเยอะ
ผมอาจโชคดีที่ภรรยาผมเป็นคุณแม่ที่เสียสละยอมทุ่มเทพลังกายและพลังใจเพื่อลูกของผม บอกตามตรงเลยว่าผมเห็นใจภรรยาและรู้สึกอยากแบกภาระนี้แทนด้วยซ้ำ
แต่ทั้งหมดนี้มันทำให้ผมได้เรียนรู้ว่าความเจ็บปวดที่มากไปกว่าการไม่มีเงินทองเอาไว้ใช้มันก็คือการที่เราไม่สามารถเลี้ยงดูลูกให้อิ่มท้องเพื่อให้เค้าแค่เจริญเติบโตได้ตามวิถีธรรมชาติของเค้าเองเท่านั้น และทำให้ผมพลอยเห็นใจคุณพ่อคุณแม่ที่ไม่มีน้ำนมที่ติดต่อมาทางเราด้วย
อย่างที่สอง ผมอยากให้ทราบกันว่าเราริเริ่มโครงการนี้มาด้วยการคิดที่รอบคอบ แต่แน่นอนว่าไม่มีอะไรที่ไม่มีความเสี่ยง ทุกครั้งที่มีการบริจาคเราได้มีมาตรการด้านความปลอดภัยโดยการตรวจคัดกรองทั้งในด้านผู้ให้และผู้รับ โดยแพทย์ของเราที่สถาบันคลีนิคฟิลอก้าก็มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับการตรวจเลือดและตรวจสอบภาวะของภูมิแพ้ที่ปฏิบัติอยู่เป็นประจำในการทำงานทุกวันอยู่แล้ว
เพียงแต่ว่าคุณหมอของเราไม่ได้ชอบใช้เฟสบุ๊ค ในตอนนี้เราอาจจะกล่าวได้ว่า เราเป็นธนาคารนมเอกชนรายเดียวของประเทศไทยก็เป็นได้ ทางคุณพ่อคุณแม่ที่ติดต่อมาทางเราก็มีหลายท่านที่รู้จักธนาคารนมของรัฐที่โรงพยาบาลรามาธิบดี แต่ก็ยังเลือกที่จะรับความช่วยเหลือจากเราอยู่ดี
อย่างที่สาม ส่วนตัวผมคิดว่าหลายครั้งผมต้องทำหน้าที่หลายอย่างตามที่สังคมมอบหมายให้ทำ ผมไม่ได้ตัดสินใจเองด้วยซ้ำ เราไม่ได้โฆษณาให้คุณพ่อคุณแม่ติดต่อเข้ามา แต่ทุกคนเป็นคนติดต่อเข้ามาขอความช่วยเหลือเอง ทางเราเองก็ทำในส่วนของเราให้ดีที่สุด
การที่สังคมจะแห่แหนไปทางไหนผมว่าเราโทษใครไม่ได้นะครับ ผมติดตรงคำพูดเหน็บแนมว่าสังคมไทยเป็น “สังคมอุดมดารา” ผมคิดว่าไม่มีสังคมไหนหรอกครับที่ขาดคนที่ดังกว่าคนทั่วไปอยู่หน่อย ผมว่าเรื่องที่สำคัญกว่ามันอยู่ที่ว่าคนดังเหล่านี้มีจิตสำนึกที่ดีต่อสังคมจริงหรือเปล่า และก็ไม่แปลกและและไม่ใช่เรื่องใหม่และไม่ใช่เรื่องผิดที่มีดาราหลายท่านที่อุทิศตนเพื่องานทางด้านสังคมโดยไม่หวังกำไร
คนที่วิจารณ์ก็ได้แต่ยุ่งกับการ “พูด” แต่พวกเราแค่กำลังยุ่งอยู่กับการ “ทำ” ก็แค่นั้น ผมรู้และมั่นใจว่ากำลังทำสิ่งที่ถูก แน่ใจมากๆครับ
อย่างสุดท้าย ทางโครงการแบ่งปันนมแม่ อยากจะบอกว่าเรากำลังปรับปรุงให้มีการรับบริจาคนมจากคุณแม่ที่มีน้ำนมเหลือเยอะด้วย นั่นจะเป็นก้าวต่อไปที่เราจะร่วมกันช่วยเหลือแบ่งเบาปัญหานี้ได้โดยการจับคู่แม่ที่เหลือเข้ากับแม่ที่ขาด เราตั้งใจจะทำงานนี้จริงจังโดยถ้าหน่วยงานของรัฐต้องการความช่วยเหลือทางด้านใดเรายินดี"


...

ทั้งนี้ หนุ่มนาวิน ต้าร์ ยืนยันว่าคลินิกฟิลอก้า ถือว่าเป็นธนาคารนมเอกชนรายเดียวของประเทศไทย ตั้งใจทำด้วยความคิดที่รอบคอบ มีจุดยืนที่จริงจัง ถ้าหน่วยงานของรัฐต้องการความช่วยเหลือทางด้านใดก็พร้อมยินดีช่วยเหลือเสมอ
ซึ่งหลังจากที่เจ้าตัวได้ชี้แจงถึงเรื่องนี้ก็มีแฟนๆ เข้ามาแสดงความคิดเห็นและให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก โดยส่วนมากชื่นชมที่ริเริ่มโครงการดีๆ และเข้าใจถึงเจตนาของทั้งคู่ที่อยากแบ่งปันเพื่อสังคมด้วย.

...