นายขวัญชัย สาราคำ หรือที่รู้จักกันในนาม ขวัญชัย ไพรพนา เป็นชาวอำเภอเดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี เคยเป็นผู้จัดรายการวิทยุเชียร์นักร้องลูกทุ่ง ที่เสียงสามยอด จังหวัดขอนแก่น และยังเป็นอดีตเจ้าของสถานีวิทยุ “คลื่นมวลชนสัมพันธ์” ก่อนจะเข้ามามีบทบาทในรัฐบาล นายทักษิณ ชินวัตร และรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ชุดอื่นๆ ถูกตั้งเป็นประธานชมรมคนรักอุดร ขึ้นสู่ตำแหน่งแกนนำคนสำคัญ นปช. ที่สามารถระดมคนเสื้อแดงมาร่วมชุมนุมครั้งใหญ่ได้หลายหมื่นคนเมื่อปี 2553
แต่สำหรับเหตุการณ์ที่ทำให้ นายขวัญชัย กลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในกลุ่มคนเสื้อแดง ภายหลังตกเป็นจำเลย ขณะเมื่อวันที่ 24 ก.ค. 2551 ได้นำมวลชนคนเสื้อแดงเข้าทำร้ายร่างกายกลุ่มพันธมิตรฯ จ.อุดรธานี ที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม เขตเทศบาลนครอุดรธานี จนเป็นมูลเหตุให้ศาลตัดสินจำคุก นายขวัญชัย 2 ปี ไม่รอลงอาญา และปรับนายประกัน 5 แสนบาท จนเพิ่งได้รับการปล่อยตัววันที่ 6 ก.ค. 2561
อีกหนึ่งเหตุการณ์ที่โด่งดังสะเทือนขวัญ ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเช้า วันที่ 22 มกราคม 2557 เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนอาก้ายิงถล่ม 50 นัด สถานีวิทยุชมรมคนรักอุดรฯ จ.อุดรธานี 97.5 เมกะเฮิรตซ์ หมู่ 11 ต.สามพร้าว อ.เมือง จ.อุดรธานี ขณะนั่งดื่มกาแฟอ่านหนังสือพิมพ์ ที่โต๊ะหน้าบ้านพัก ซึ่งเป็นทำเลที่ตั้งของ นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำเสื้อแดง กระสุนถูกนายขวัญชัย 2 นัด เข้าที่หัวไหล่และขาขวา ได้รับบาดเจ็บสาหัสบาดเจ็บปางตาย เป็นอัมพฤกษ์ซีกซ้าย และตาซ้ายมองไม่เห็น
...
ตำรวจสามารถแกะรอยทราบกลุ่มมือปืน และได้หลักฐานอาวุธปืนอาก้า 3 กระบอก รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับ “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” หลังเกิดเหตุตำรวจจับกุมตัวคนร้าย อัยการส่งฟ้องประกอบไปด้วย ร.ต.หรือ นายปรัชญา จันทร์รอดภัย, จ.ส.อ.หรือ นายมาวิน ยางบัว, จ.ส.ท.หรือ นายวิโรจน์ พิมพ์สิงห์, ส.อ.หรือ นายชานนท์ ทับทิมทอง, จ.ส.อ.หรือ นายจุฑาทร เนียมทอง ทหารสังกัด พล.ร.9 และ นายมะดือนัง หรือ มะตือนัง มะแซ อส.จังหวัดนราธิวาส เดินทางมารับฟังคำพิพากษา พร้อมทนายความ หลังจากที่ นายขวัญชัย ได้เป็นโจทก์ร่วมฟ้องในคดี “เจตนาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” และฟ้องเรียกค่าเสียหาย 2,879,403 บาท ซึ่งศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ ได้มีคำพิพากษายกฟ้อง ทั้ง 2 ศาล
กระทั่งเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 18 กันยายน ที่ศาลจังหวัดอุดรธานี นายขวัญชัย สาราคำ หรือ ไพรพนา อดีตประธานชมรมคนรักอุดร พร้อม นายกรวีร์ สาราคำ บุตรชายนายขวัญชัย เดินทางมารับฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ซึ่งก็ได้มีคำพิพากษายกฟ้องยืนตามศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์
ทางด้าน นายขวัญชัย ให้สัมภาษณ์เปิดใจ ยอมรับในคำพิพากษา หลังจากนี้จะใช้ชีวิตตามปกติกับครอบครัว ทำบุญไหว้พระ และต้องรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บที่ถูกยิงต่อเนื่อง ซึ่งหลังจากออกจากเรือนจำ ก็ไม่ได้จัดรายการวิทยุแล้ว ต่อไปนี้ก็คงออกงานสังคม พบปะสมาชิกชมรมคนรักอุดรบ้าง.