ตำรวจระดมกำลังหลายหน่วยลุยกวาดล้าง 8 เครือข่ายแสร้งรักออนไลน์ (Romance scams) ได้ผู้ต้องหาชาวไทยร่วมกับชาวไนจีเรียร่วมขบวนการออกอุบายหลอกสาวใหญ่ 48 คนผ่านเฟซบุ๊กให้หลงกลตกเป็นเหยื่อ ยินยอมโอนเงิน อ้างว่าเป็นค่าเสียภาษีแลกกับทรัพย์สินมีค่าที่กลุ่มผู้ต้องหาวางแผนไว้ ทำให้สูญเงินรวม 5.9 ล้านบาท “เดอะโจ๊ก” คุมเข้มชาวไนจีเรีย ที่พำนักในไทย พบอยู่เกินเวลากำหนดเกือบ 300 คน
รวบเครือข่ายแก๊งคนดำหลอกสาวไทยให้ตกเป็นเหยื่อยอมโอนเงินเซ่นรักลวง เปิดเผยขึ้นที่ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 15 ก.ย. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. แถลงผลการจับกุมของตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจ 191 และเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ร่วมกันจับกุมเครือข่ายแสร้งรักออนไลน์ (Romance scams) 8 เครือข่าย ได้ผู้ต้องหาชาวไนจีเรีย 5 คน และชาวไทย 12 คน ทั้งหมดทำหน้าที่กดเงินจากตู้เอทีเอ็ม มีผู้เสียหายรวม 48 คน รวมความเสียหาย 5,961,740 บาท โดยผู้เสียหายส่วนใหญ่เป็นหญิงวัยกลางคน ถูกกลุ่มผู้ต้องหาหลอกลวงผ่านเฟซบุ๊ก สื่อสารกันเป็นภาษาอังกฤษ ออกอุบายว่าจะส่งทรัพย์สินมีค่ามาให้ ก่อนจะให้หน้าม้าทำทีโทรศัพท์ไปหาเหยื่อว่าพัสดุที่ส่งมาต้องเสียภาษีและค่าขนส่ง กระทั่งผู้เสียหายหลงกลยอมโอนเงินไปยังเครือข่ายกลุ่มผู้ต้องหา
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวว่า สำหรับการจับกุม 8 เครือข่ายแสร้งรักออนไลน์ ประกอบด้วย เครือข่ายที่ 1 นางพันธ์วิรา คุ้มหอม อายุ 50 ปี นายปราโมทย์ คุ้มหอม อายุ 58 ปี นางมนตรา คุ้มหอม อายุ 34 ปี จับกุมได้ที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เหตุเกิดท้องที่ สภ.เมืองสกลนคร สภ.ผาขาวและ สภ.หนองบัวแดง เครือข่ายที่ 2 น.ส.เพ็ญนภา นวลปาน อายุ 30 ปี น.ส.อรยา จันทะเรือง อายุ 22 ปี นายเจมส์ ออนวูชูกูว์และนายชิเนดู ซิกซ์ทัส วาโอบิ ทั้งสองเป็นชาวไนจีเรีย จับกุมได้ที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เหตุเกิดท้องที่ สภ.พญาเม็งราย สภ.ชุมพวง สภ.เมืองสุรินทร์ สภ.เมืองหนองคาย สน.หัวหมากและ สภ.นครหลวง
...
รอง ผบช.ทท.กล่าวว่า เครือข่ายที่ 3 นายสราวุธ ประเสริฐศรี อายุ 39 ปี น.ส.ธีรดา วัชระพันธ์ อายุ 36 ปี จับได้ที่ อ.เมือง จ.ตราด เหตุเกิดท้องที่ สน.บางนา เครือข่ายที่ 4 น.ส.กนกกาญจน์ ชาญ–กล้า อายุ 25 ปี จับกุมได้ที่ย่านรามอินทรา กทม. เหตุเกิดท้องที่ สภ.ทุ่งสง เครือข่ายที่ 5 นายคลีเมนต์ ไอเฟียไมอิชูกู และนายไซมอน ชินไวก์ นักเว ชาวไนจีเรีย จับกุมได้ที่ อ.พัทยา จ.ชลบุรี เครือข่ายที่ 6 น.ส.จันทร์แรม เดชดิลก นายธัญญารัตน์เกษา และ น.ส.เพชร กองสินธ์ เหตุเกิดท้องที่ สภ.ธรรมศาลา สภ.คลองห้าและ สภ.ครบุรี เครือข่ายที่ 7 นายอิคิชุควู แมกซ์เวล ยูเชนดู อายุ 31 ปี ชาวไนจีเรีย ฉายา “โบโบ้” เหตุเกิดท้องที่ สภ.สำโรงใต้ และเครือข่ายที่ 8 น.ส.รัศมี สุระเสน เหตุเกิดท้องที่ สภ.ท่าศาลา ทั้งหมดถูกดำเนินคดีข้อหาร่วมกันมีไว้เพื่อนำออกใช้และใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบฯ ขณะที่ผู้ต้องหาชาวไนจีเรียมีความผิดในข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตอีกด้วย
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวว่า นอกจากนี้ชุดสืบสวนทำการตรวจสอบชาวไนจีเรียที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย พบว่าพำนักเกินกว่าที่ได้รับอนุญาต โดยไม่มีการขออนุญาตอยู่ต่อ (Over stay) 267 คน จับกุมผู้ต้องหาได้ 3 คน กล่าวหาว่า อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด มีชาวไนจีเรียพำนักอยู่อย่างถูกต้อง 833 คน ทำการเพิกถอนวีซ่า 7 คน ดำเนินคดีผู้ไม่แจ้งย้ายที่พัก 6 คน ดำเนินคดีกับผู้ปลอมใบเสร็จสรรพากร 1 คน ปลอมหน้าวีซ่า 1 คน และไม่อนุมัติวีซ่า 1 คน เมื่อพบประวัติต้องโทษจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร