จี้ ร.ร.สร้างความเป็นผู้นำให้เด็ก โวอีก 5 ปีหลังเลือกตั้งไทยเข้มแข็ง

เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มีพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือ “การสร้างวัฒนธรรมการมีส่วนร่วมด้านการศึกษา” โดยโครงการสานพลังประชารัฐด้านการศึกษา ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษ “การศึกษาไทยกับการเตรียมคนในอนาคต” ตอนหนึ่งว่า ความร่วมมือทางการศึกษาของประชารัฐถือว่ามาถูกทาง เพราะการศึกษาเป็นปัจจัยสำคัญของการพัฒนาประเทศ การเตรียมคนไทยไม่ว่าอดีต ปัจจุบัน และอนาคตพัวพันกันไปหมด แต่เราต้องเดินไปข้างหน้า เพื่อต่อสู้กับความไม่รู้ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาเล่าเรียน ซึ่งต้องปรับประเทศให้พร้อมกับทุกสถานการณ์ของโลกที่เปลี่ยนแปลงทุกวัน รองรับอุตสาหกรรมของการเป็นประเทศไทย 4.0 ต้องสร้างความเข้มแข็งด้วยการวางรากฐานตั้งแต่ระบบการศึกษา ทำอย่างไรที่จะผลิตคนในอนาคตอีก 20 ปีข้างหน้าว่าคนจะมีอาชีพอย่างไร ทำงานอะไร

นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า โครงการประชารัฐด้านการศึกษาจะต้องทำให้ครอบคลุมทุกกลุ่มจังหวัดตามแผนยุทธศาสตร์ชาติของรัฐบาลด้วย เพราะการค้าและการลงทุนต้องผูกติดกับการศึกษาแทบทั้งสิ้น ต้องสอนคนให้รักแผ่นดินในทางที่ถูกต้อง พร้อมกับลดความเหลื่อมล้ำให้ได้ อีกทั้งโลกโซเชียลมีเดียรวดเร็วมาก คนแสดงความคิดเห็นทั้งที่รู้จริงบ้างไม่จริงบ้าง กระทรวงศึกษาธิการต้องไปสร้างหลักคิดที่ถูกต้อง สร้างภูมิคุ้มกันให้เด็กและประชาชน ไม่ใช่ครูเปิดหนังสือแล้วสอนอย่างเดียว สถานศึกษาต้องมีส่วนสร้างความเข้าใจให้เด็กได้รู้จักท้องถิ่นของตัวเอง เป้าหมายการพัฒนาคนไทยทำได้ไม่ง่าย สถานศึกษา ต้องไปคิดการผลิตผู้เรียนให้เพียงพอต่อการพัฒนาประเทศ ไม่ใช่จัดการเรียนการสอนพอเด็กเรียนจบออกมาแล้วไม่มีงานทำก็มาด่ารัฐบาล ต้องสอนเด็กให้เรียนรู้ว่าเรียนแล้วจะไปทำงานอะไร ชีวิตในโลกการทำงานเป็นอย่างไร

...

“ผมทราบว่าเด็กหลายคนไม่ชอบเรียนอะไรยากๆ เช่น วิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ เป็นต้น และพบว่าอาชีพที่ทุกคนอยากเป็นส่วนใหญ่ก็ทหาร หมอ ตำรวจ หรือเด็กบางคนก็อยากเป็นนายกรัฐมนตรี จึงขอฝากโรงเรียนประชารัฐไปดูการสร้างความเป็นผู้นำด้วยจะทำอย่างไร ผมเห็นว่าเรามีโรงเรียน มหาวิทยาลัย สถาบันการศึกษาหลากหลายจำนวนมากแต่ทำไมคนไม่เก่งสักที เรื่องนี้ก็ต้องไปดูแก้ไขกันต่อไป แต่ผมเชื่อว่าอีก 5 ปีข้างหน้านับจากวันประกาศเลือกตั้งประเทศไทยจะเข้มแข็งมากอย่างแน่นอน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ด้าน นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า โครงการโรงเรียนประชารัฐเกิดขึ้นมากว่าสองปีแล้ว จนถึงปัจจุบันมี 3,351 แห่ง จากเป้าที่ตั้งไว้ 7,000 แห่ง ในระยะที่ 2 จะดำเนินการอีก 4,600 แห่ง มีเอกชนเข้ามา ช่วยรัฐบริหารจัดการอย่างมืออาชีพ.