สื่อมะกันแฉ อีลอน มัสก์ ยังโจมตี เวิร์น อันส์เวิร์ธ หนึ่งในนักดำน้ำอังกฤษผู้ช่วยชีวิตทีมหมูป่าจากถ้ำหลวงไม่เลิก ล่าสุดกล่าวหาเป็นพวกข่มขืนเด็ก บอกเชียงรายเป็นแหล่งค้ากาม...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 5 ก.ย. ว่า อีลอน มัสก์ ซีอีโอบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง เทสลา และ สเปซเอ็กซ์ ยังคงโจมตี นายเวิร์น อันส์เวิร์ธ หนึ่งในนักดำน้ำชาวอังกฤษ ที่มีส่วนช่วยสมาชิกทีมฟุตบอล ‘หมูป่าอะคาเดมี’ 13 ชีวิต ออกจากถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน ในจังหวัดเชียงรายทางเหนือของประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดโจมตีว่าเป็นพวกข่มขืนเด็ก โดยไม่มีหลักฐานยืนยันใดๆ เหมือนเดิม
เมื่อเดือนสิงหาคม นายมัสก์ เพิ่งออกมากล่าวหา นายอันส์เวิร์ธ วัย 63 ปี โดยไม่มีหลักฐานว่า เป็นพวกชอบมีเพศสัมพันธ์กับเด็ก (pedophilia) หลังฝ่ายหลังตั้งคำถามถึงความสามารถของยานดำน้ำที่สเปซเอ็กซ์สร้างเพื่อใช้ช่วยทีมหมูป่าจากถ้ำหลวง อย่างไรก็ตาม ฝ่ายทนายความของนายอันส์เวิร์ธ ระบุว่า พวกเขากำลังพิจารณาเรื่องการฟ้องร้องนายมัสก์ เมื่อสัปดาห์ก่อนสื่อออนไลน์ของสหรัฐฯ อย่าง ‘BuzzFeed’ จึงส่งอีเมลไปถามความเห็นของนายมัสก์เกี่ยวกับเรื่องนี้
...
อย่างไรก็ตาม ในอีเมลตอบกลับของนายมัสก์ซึ่งมี 2 ฉบับ เขาโจมตีนายอันส์เวิร์ธอย่างรุนแรง ฉบับแรกนายมัสก์ระบุว่า “ผมขอแนะนำให้คุณโทรศัพท์ไปหาคนที่คุณรู้จักในไทย หาดูว่าจริงๆ เกิดอะไรขึ้น และหยุดปกป้องพวกข่มขืนเด็กได้แล้ว ไอ้พวก******** เขาเป็นชาวอังกฤษผิวขาว อายุมากและยังโสด ที่เดินทางไปหรืออาศัยอยู่ในไทยมา 30-40 ปี ส่วนใหญ่อยู่ที่หาดพัทยา จนกระทั่งย้ายไปเชียงรายเพื่อหาเมียเด็ก ที่ตอนนั้นอายุแค่ 12 ขวบ”
“มีเหตุผลเดียวที่คนไปหาดพัทยา มันไม่ใช่ที่ที่คุณไปเพื่อสำรวจถ้ำ แต่เป็นที่ที่คุณไปเพื่อสิ่งอื่น เชียงรายเป็นที่รู้จักดีในเรื่องการค้าประเวณีเด็ก” นายมัสก์ ระบุในอีเมลฉบับแรก โดยโพสต์ลิงก์ผลการค้นหาจากเว็บไซต์กูเกิลเกี่ยวกับเรื่องการค้าประเวณีในเชียงรายด้วย และระบุต่อว่า “ส่วนเรื่องคำขู่ดำเนินคดี ซึ่งปรากฏขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์หลังจากผมขุดประเด็นนี้ขึ้นมา ผมโคตรหวังให้เขาฟ้องผมเลย”
ส่วนอีเมลฉบับที่ 2 นายมัสก์ ระบุว่า “อันสเวิร์ธยังบอกว่า รัฐบาลไทยขอให้ผมกลับไป ซึ่งไม่เป็นความจริงอย่างสิ้นเชิง นายกรัฐมนตรีไทยขอบคุณผมเป็นการส่วนตัวผ่านเอกสารแนบ ผมเดินทางไปจนถึงพื้นที่โซน 3 พร้อมกับทีมซีลของไทย ซึ่งเป็นคนที่สุดยอดมาก แต่ตลอดทางไม่เห็นตัวอันส์เวิร์ธเลย มีคนบอกผมว่าเขาถูกแบนไม่ให้เข้าพื้นที่”
มัสก์ ระบุต่อว่า “เป็นเรื่องไร้สาระสิ้นดีที่บอกว่าเรือดำน้ำจิ๋วผ่านเข้าถ้ำไม่ได้ มันถูกออกแบบและสร้างโดยข้อมูลจำเพาะที่สแตนตันและทีมดำน้ำตัวจริงมอบให้ผมโดยตรง เหตุผลเดียวที่มันไม่ถูกใช้งานก็เพราะพวกเขาสามารถดูดน้ำในถ้ำได้เกือบหมด พื้นที่ที่อยู่ใต้น้ำจึงมีระยะทางสั้นมาก และมรสุมก็มาช้ากว่าที่คาดการณ์เอาไว้”
ด้าน นายแอล. ลิน วูด ทนายความของนายอันส์เวิร์ธ บอกกับสถานีโทรทัศน์ ซีเอ็นบีซี ว่า นายมัสก์จะถูกฟ้อง “ข้อกล่าวหาอันเป็นเท็จและชั่วร้ายอย่างต่อเนื่องของอีลอน มัสก์ เป็นเรื่องที่ควรประณาม มัสก์หวังว่าจะโดนฟ้อง ซึ่งเขาสมควรโดน และเขาจะถูกฟ้อง”
...
ทั้งนี้ นักดำน้ำหลายคนที่ร่วมในปฏิบัติการช่วย 13 ชีวิตทีมหมูป่าออกจากถ้ำหลวงบอกกับ BuzzFeed ว่า นายอันส์เวิร์ธร่วมปฏิบัติหน้าที่ในการกู้ภัยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ ริค สแตนตัน หนึ่งในสองนักดำน้ำอังกฤษที่พบทีมหมูป่าซึ่งติดในถ้ำหลวงเป็นทีมแรก กล่าวว่า “อันสเวิร์ธเป็นกำลังหลักของปฏิบัติการนี้ทั้งหมด”
ขณะที่ นายริชาร์ด แฮร์ริส และ นายเครก แชลเลน นักดำน้ำชาวออสเตรเลียและอังกฤษ ที่รัฐบาลไทยเชิญมาช่วยเหลือในปฏิบัตการช่วยทีมหมูป่าก็ปฏิเสธคำกล่าวอ้างของอีลอน มัสก์ “เวิร์นเป็นคนที่ยอดเยี่ยมและมีความสัมพันธ์อย่างยิ่งยวดต่อภารกิจ” นายแฮร์ริส ซึ่งเป็นวิสัญญีแพทย์ด้วยกล่าว “คุณต้องจำเขาสลับกับใครบางคนแน่นอน เขาเป็นกำลังหลักเพราะความรู้เกี่ยวกับถ้ำ และการกู้ภัยคงไม่เกิดขึ้น หากเขาไม่ได้แนะนำให้เรียกทีมนักดำน้ำอังกฤษมา”
BuzzFeed ยังได้สัมภาษณ์ น.ส.วรนัน รัตรวิภักกุล ภรรยาวัย 40 ปี ของนายอันส์เวิร์ธ ซึ่งเธอระบุว่า เธอคบหากับนายอันส์เวิร์ธมานานกว่า 7 ปีแล้ว และโพสต์รูปภาพเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ลงบนโลกออนไลน์เป็นจำนวนมากด้วย