น้ำโขงหนุนลำห้วยล้นเส้นทางไปด่านกระทบขนส่งผ่านแดนและการเกษตรที่บึงกาฬ จากฝนที่ตกต่อเนื่องหนุนลำน้ำสาขา ไม่สามารถระบายออกแม่น้ำโขงได้ทำให้ 4 อำเภอติดน้ำโขงท่วมมากว่า 2 สัปดาห์...
เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 29 ส.ค. 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระดับน้ำในแม่น้ำโขงทรงตัวเท่าเดิม อยู่ที่ 13.35 เมตร ห่างจากจุดวิกฤติ 0.65 เมตร ประกอบกับฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ ตั้งแต่พายุ เซินติญ เคลื่อนเข้าปกคลุม จนทำให้มีมวลน้ำสะสม ส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน ในหลายพื้นที่ของจังหวัดบึงกาฬ มีน้ำท่วมขังเป็นบริเวณกว้าง เนื่องจากฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องทุกวัน และระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่ยังสูงอยู่ หนุนลำน้ำสาขา ห้วย หนอง คลองต่างๆ จนเอ่อล้น ไม่สามารถระบายลงสู่แม่น้ำโขงได้ โดยเฉพาะพื้นที่ 4 อำเภอที่มีพื้นที่ติดกับแม่น้ำโขง ถูกน้ำท่วมมากว่า 2 สัปดาห์แล้ว เกษตรกรหวั่นหากน้ำยังไม่ลดลงมีหวังต้นข้าว ยางพารา และปาล์ม ยืนตายเป็นจำนวนมากอย่างแน่นอน
ขณะที่บริเวณหน้าวัดป่าบ้านพันลำ ต.วิศิษฐ์ อ.เมืองบึงกาฬ ที่เป็นทางผ่านไปยังด่านศุลกากรบึงกาฬแห่งใหม่ รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ เพราะน้ำท่วมสูงเกือบ 1 เมตร ทำให้ส่งผลกระทบต่อการขนส่งสินค้าข้ามแดนระหว่างไทย สปป.ลาว ล่าช้า รถขนส่งสินค้า และประชาชน ต้องอ้อมไปใช้เส้นทางสาย 212 บึงกาฬ–หนองคาย แทน ซึ่งไกลขึ้นกว่าเดิมเป็น 10 กิโลเมตร
...
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดบึงกาฬ โดยรวมยังไม่คลี่คลาย มีพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมแล้วทั้ง 8 อำเภอ 44 ตำบล 340 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับผลกระทบ 7,026 ครัวเรือน 25,923 คน พื้นที่การเกษตรทั้งนาข้าว พืชสวน พืชไร่ บ่อปลา สวนยางพารา สวนปาล์ม รวม 42,127 ไร่ ซึ่งบางพื้นที่ได้รับผลกระทบตั้งแต่ 20 ก.ค. เป็นต้นมา รวมแล้วกว่า 1 เดือน.