ถ้าพูดถึง “สปป.ลาว” นอกจากจะดังเรื่อง “เบียร์ลาว” แล้ว ยังมี “ดาว คอฟฟี่” เป็นแบรนด์ประจำชาติ ที่สร้างชื่อเสียงระบือโลก ชนิดที่ว่าใครไปเยือนลาวก็ต้องหอบหิ้วกาแฟดาวติดไม้ติดมือกลับบ้านด้วย

เบื้องหลังความสำเร็จของ “ดาว คอฟฟี่” เกิดจากการปลุกปั้นของ “เหลื้อง ลิดดัง” เจ้ดาวเหลื้องสร้างตำนานลือลั่นไปทั่ว สปป.ลาว จากเด็กยากจนเรียนจบ ป.4 ต้องเร่ขายของตามโรงเรียนเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว ใช้ชีวิตปากกัดตีนถีบ กระทั่งวันหนึ่งสร้างเนื้อสร้างตัวได้ กลายเป็นผู้ส่งออกกาแฟรายใหญ่ที่สุด

ปีนี้ “เจ้ดาวเหลื้อง” อายุ 70 แล้ว แต่ยังขยันลุยไม่เลิก โดยมีลูกสาวคนโต “บุญเฮือง แครอล ลิดดัง” ช่วยแบ่งเบาภาระ ตามประสานักธุรกิจโลโปรไฟล์ ถือเป็นครั้งแรกที่เจ้าแม่จำปาสักยอมเปิดคฤหาสน์หลังใหญ่ ให้สื่อไทยได้สัมภาษณ์แบบเจาะลึก เจ้ยืนยันกับทีมข่าวหน้าสตรีไทยรัฐว่า แม้วันนี้จะรวยเป็นร้อยเป็นพันล้าน แต่บอกตรงๆว่ายังไม่เคยชินกับความรวยสักเท่าไหร่

“วันนี้ฉันก็ยังเป็นเหมือนเดิม ถือว่าธรรมดานะ แค่คิดว่าเรามีมากก็ช่วยเหลือเพื่อนฝูงได้มาก ใครลำบากมาฉันช่วยหมด พ่อฉันสอนว่า ถ้ามีกินแล้วเก็บไว้กินเองเดี๋ยวก็หมด แต่ถ้ารู้จักแบ่งให้คนอื่นกินยังไง ก็ไม่มีวันหมด เพราะวันหนึ่งคนที่เคยช่วยไว้จะกลับมาช่วยเรา วันไหนเหนื่อยวันไหนเจออุปสรรค ฉันก็ไม่ถอยนะ มีอาจารย์คนแก่ๆเคยดูดวงให้ ฉันถามว่าเมื่อไหร่จะสบาย เขาบอกไม่ต้องพูดคำว่าสบาย ก่อนจะเอาฝาโลงมาปิด เจ้ยังเปิดฝาโลงออกบอกอย่าเพิ่งปิด เพราะยังสั่งเสียไม่เสร็จ คือชีวิตนี้ไม่ต้องคิดหรอกว่าจะสบาย”

...

เคยเสียใจน้อยใจไหมที่เกิดมาจน และต้องใช้ชีวิตลำเค็ญ

พ่อแม่ฉันยากจน พ่อเป็นคนงานก่อสร้าง และเหยียบสามล้อ ฉันเป็นพี่คนโต มีน้อง 8 คน เรียนจบแค่ ป.4 ต้องมาทำงานหาเลี้ยงครอบครัว แต่ฉันไม่เคยเสียใจที่ไม่ได้เรียนหนังสือ อยากหาสตางค์ ใครจ้างอะไรทำหมด เคยรับจ้างซักรีดเสื้อผ้า หาบไอติมขาย หาบกล้วยปิ้งข้าวโพดปิ้งขาย

เริ่มลืมตาอ้าปากได้ตอนไหน

ตอนไปค้าขายที่เวียงจันทน์ เป็นแม่ค้าขายกับข้าวในตลาด ฉันคิดตลอดว่าพวกเราจนเกินไป ทำไมไม่มีสตางค์ พอมีเพื่อนชวนให้ส่งของใช้ของจำเป็นจากเวียงจันทน์ไปขายที่จำปาสักจึงลองทำดู สมัยนั้นเพิ่งเปิดประเทศใหม่ๆแขวงจำปาสักยังขาดแคลนทุกอย่าง หลังแต่งงานกับหมอผ่าตัด “ดร.ฮ่าว ลิดดัง” ตอนอายุ 32 ปี จึงมีโอกาสเรียนทำเบเกอรีที่กรุงเทพฯ และกลับมาอบขนมขายที่บ้านในจำปาสัก ทำอะไรก็ขายได้หมด

จากแม่ค้าธรรมดาๆ ประตูโอกาสเปิดกว้างให้ “เจ้ดาวเหลื้อง” ตอนไหน

ชีวิตหลังแต่งงานสุขสบายขึ้น แต่ด้วยความที่ฉันมีเพื่อนเยอะ จึงมีคนชวนให้เป็นยี่ปั๊วเปิดบริษัทนำเข้าของกินของใช้จากไทยมาขายที่จำปาสัก แรกๆไม่กล้าทำหรอก เพราะไม่มีความรู้ แต่เพื่อนข้าราชการช่วยเรื่องเอกสารทุกอย่าง และยืนยันว่าเธอเป็นคนเก่งคนสู้ชีวิตต้องทำได้ ตอนเปิดบริษัท “ดาวเฮือง อิมพอร์ตเอ็กซ์พอร์ต” เมื่อปี 1991 มีแค่ห้องแถวเดียวกับเงินทุนหลักแสน ฉันขายทุกอย่าง ตั้งแต่น้ำปลา, ผงชูรส, น้ำตาล, รองเท้าผ้าใบตราม้าดาว, น้ำอัดลม และเบียร์ สมัยนั้นสั่งของทีหนึ่ง 20-30 คันรถสิบล้อ ถือเป็นยี่ปั๊วรายใหญ่สุดของจำปาสักและลาวใต้ โอกาสมาถึงอีกครั้งตอนมีเพื่อนชวนเปิดดิวตี้ฟรี

กว่าจะได้เป็นเจ้าแม่ดิวตี้ฟรีเจออุปสรรคเยอะไหม

เปิดดิวตี้ฟรีแรกสำเร็จตอนปี 1996 เปิดใหม่ๆเจออุปสรรคเยอะ เพราะมีเจ้าใหญ่ทำอยู่แล้ว เราต้องเลี่ยงไปทำเทรดผ่านแดนแทน โดยนำเข้าสินค้าจากไทยผ่านลาวส่งออกไปขายประเทศที่สาม คือเวียดนาม จุดแรกทำด่านผ่านแดนที่ลาวกับเวียดนาม ใครสั่งอะไรมาเราก็ส่งไปขายหมด ตอนนี้เองมีโอกาสได้จับเงินล้าน

...

แล้วผันตัวมาเป็นผู้ผลิตผู้ส่งออกกาแฟรายใหญ่ของประเทศได้อย่างไร

ฉันนำเข้าสินค้าจากเมืองไทยมาขายในลาวเยอะ รัฐบาลลาวเลยขอให้หาสินค้าลาวส่งออกไปขายนอกประเทศเพื่อสร้างสมดุลการค้า ตอนนั้นฉันนึกถึงกาแฟ เพราะจำปาสักเป็นแหล่งปลูกกาแฟใหญ่ ตอนแรกๆไม่ได้คิดทำจริงจัง แค่ซื้อเมล็ดกาแฟจากชาวบ้านไปส่งออก ต่อมารัฐบาลขอให้ลงทุนปลูกกาแฟเองด้วย ฉันต้องกัดฟันทำ เริ่มจากจ้างชาวไร่ปลูกกาแฟปลูกไปได้เดือนสองเดือน เห็นต้นกาแฟแตกใบอ่อนๆก็รู้สึกรักต้นกาแฟแล้ว จึงตัดสินใจปลูกกาแฟจริงๆ ทำไปได้ 6-7 เดือน ลูกเห็บลงต้นกาแฟตายหมด ขาดทุนไปหลายแสนเหรียญยูเอส ฉันก็สู้ต่อเพราะรักต้นกาแฟไปแล้ว ปลูกไป 4-5 ปี ถึงจะได้เมล็ดกาแฟพร้อมส่งออก 100 กว่าตัน แต่ขายได้ราคากิโลละเหรียญ สงสารชาวบ้านมากปลูกแทบตายขายไม่ได้ราคา จึงคิดว่าต้องทำโรงงานผลิตกาแฟสำเร็จรูป แต่กว่าจะสร้างโรงงานสำเร็จต้องใช้เวลา 10 ปี ระหว่างนั้นฉันยังช่วยชาวบ้าน เอาต้นกล้ากาแฟอาราบิกาไปแจกให้ปลูกฟรีๆปีละล้านต้น แจกมาต่อเนื่องเป็น 10 ปี ฉันไม่เคยผูกขาด จะบอกตลอดว่าที่ไหนขายได้ราคาดีกว่าก็ไปขายเลย แต่ชาวบ้านก็ยังรักเรา เพราะเราให้ราคาดี และไม่เคยบีบบังคับ

...

ปัจจุบันอาณาจักร “ดาว คอฟฟี่” กว้างใหญ่ไพศาลขนาดไหน

ไร่กาแฟของเรามีพื้นที่ 1,500 ไร่ ตั้งอยู่บนที่ราบสูงโบลาเวน แขวงจำปาสัก ซึ่งเป็นดินภูเขาไฟ อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,200 เมตร เรายังรับซื้อผลผลิตจากชาวไร่ละแวกนั้นอีก 2,000 กว่าครัวเรือน ฉันไม่ได้คิดเรื่องรวยหรอก อยากเห็นเมล็ดกาแฟดีกินอร่อย กำไรหรือขาดทุนไม่สน

ความรู้น้อยเงินทุนก็น้อย ทำยังไงถึงประสบความสำเร็จไม่โดนโกง

ฉันรู้จักคนเยอะ ไปที่ไหนก็มีแต่คนรัก เวลาค้าขาย ฉันถือความซื่อสัตย์สำคัญที่สุด สมัยแรกๆฉันสั่งซื้อของจากยี่ปั๋วที่อุบลราชธานีต้องใช้เงินสดเท่านั้น มีอยู่ครั้งหนึ่งยี่ปั๊วทอนเงินเกินมาหมื่นบาท ฉันรีบเอาเงินไปคืนทันที ทำให้ยี่ปั๊วไว้ใจและตั้งแต่วันนั้นยอมปล่อยเครดิตให้ยาว

...

ถาม “แครอล” บ้างนะคะ ต้องสานต่อความฝันของคุณแม่ เป็นภาระที่หนักอึ้งเลยไหม

แครอลเข้ามาช่วยธุรกิจที่บ้านได้ 12 ปีแล้ว แม่ตั้งความหวังไว้เยอะ เราก็พยายามทำทุกอย่างจนเป็นภาพเดียวกับแม่ แต่ยอมรับว่าต้องใช้เวลากว่าจะไปถึงจุดนั้นได้ แม่สร้างอะไรไว้เยอะมาก ทุกวันนี้เรามีดิวตี้ฟรีในด่านสากลที่เชื่อมกับลาวทั้ง 6 ด่าน เราเป็นที่หนึ่งในธุรกิจทุกด้านที่ทำ และจนถึงขณะนี้กาแฟดาวสามารถสร้างรายได้ให้ประเทศปีละ 100 กว่าล้านเหรียญยูเอส เรามีส่วนมากพอสมควรที่ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของคนลาวใต้ดีขึ้นทุกปี ช่วยแก้ปัญหาความยากจนของคนจำปาสัก แม่ใช้ภูมิปัญญาของชาวไร่ดาวสร้างระบบนิเวศขึ้นมา ทำให้ไร่กาแฟดาวเป็นออร์แกนิกโดยสมบูรณ์ ขณะเดียวกัน ก็ควบคุมคุณภาพการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ผ่านกระบวนการผลิตด้วยเครื่องจักรทันสมัยที่สุด เพื่อให้ได้รสชาติกาแฟระดับพรีเมียม แครอลมั่นใจว่าเมล็ดกาแฟจากที่ราบสูงโบลาเวน มีรสชาติอร่อยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

สำหรับ “แครอล” แม่เป็นแบบอย่างด้านไหน

แครอลตามแม่ไปทำงานตั้งแต่เด็กๆ ทำให้ได้ซึมซับอะไรหลายอย่าง แม่เป็นคนสู้ชีวิตมาก เคยล้มหลายครั้ง แต่แม่ก็ไปต่อได้ เคยโดนติดหนี้ไม่มีเงินทุนซื้อของไปขาย แม่ก็ไม่ท้อหาอย่างอื่นทำไปก่อน แม่บอกตลอดว่าแม่เกิดมาไม่มีอะไรอยู่แล้ว ไม่มีอะไรต้องเสียแค่เริ่มใหม่ เวลาคิดอะไรไม่ตก แม่ให้คำตอบได้หมด

ในฐานะผู้บริหารยุคใหม่ อยากปลุกปั้น “ดาว คอฟฟี่” ให้เติบโตไปทิศทางไหน

แครอลภูมิใจมากนะ ทุกวันนี้ถ้าพูดถึงลาว คนจะนึกถึงกาแฟดาว ไม่เคยคิดว่าจะบูมขนาดนี้ เราแค่ทำหน้าที่ของเราเต็มที่ กาแฟดาวเป็นเอกลักษณ์ของประเทศไปแล้ว ในฐานะผู้ผลิตและผู้ส่งออกกาแฟรายใหญ่ที่สุดของลาว แครอลภูมิใจมากที่กาแฟดาวติดท็อปเทนของกาแฟโลก ในสายพันธุ์อาราบิกา และ สปป.ลาว จะเข้าเป็นสมาชิกองค์กรกาแฟระหว่างประเทศในเดือน ต.ค.นี้ ปัจจุบันดาวคอฟฟี่ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์จนได้รับรางวัลรับรองคุณภาพสินค้า GI จากรัฐบาล สปป.ลาว เพื่อการันตีคุณภาพของผลิตภัณฑ์ดาวคอฟฟี่ แครอลฝันว่าใน 5-10 ปีข้างหน้า นอกจากจีน, ไทย, เวียดนาม และกัมพูชา ซึ่งเป็นตลาดหลักของเราแล้ว ก็อยากให้คนทั่วโลกจดจำว่าประเทศลาวมีกาแฟคุณภาพ ซึ่งกาแฟคุณภาพของลาวก็ต้องดาวคอฟฟี่เท่านั้น.

ทีมข่าวหน้าสตรี