พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาค 4 ฮึ่ม “สุเทพ เทือกสุบรรณ” หลังประกาศจัดคาราวานพบประชาชน ชี้ หากทำผิดกฎหมาย จับหมดทุกกลุ่ม

เมื่อวันที่ 8 ส.ค. ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.ทภ.4) กล่าวถึงสถานการณ์การเคลื่อนไหวทางการเมืองในพื้นที่ภาคใต้ ว่า ขณะนี้กลุ่มการเมือง และพรรคการเมืองในพื้นที่เริ่มเคลื่อนไหวมากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จ.นราธิวาส จ.ปัตตานี และจ.ยะลา ทั้งนี้ ทางทหารเราจะพยายามดูแลสถานการณ์ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีความสงบ แต่ถ้านักการเมืองกลุ่มใดก็ตาม หากถูกคุกคาม หรือมีอะไรต่างๆ เกิดขึ้น ก็สามารถร้องขอให้เราไปช่วยเหลือได้ ซึ่งตนขอย้ำว่าทหารในพื้นที่ กองทัพภาคที่ 4 จะไม่ไปเดินตามหลังนักการเมือง เพราะเราเป็นกลางทางการเมือง

พล.ท.ปิยวัฒน์ กล่าวต่อว่า สำหรับการเคลื่อนไหวทางการเมืองในพื้นที่นั้น ที่นี่ก็เหมือนกับภาคอื่นๆ ทุกครั้งที่มีการแข่งขันทางการเมือง ย่อมต้องมีการคุกคาม ข่มขู่ บาดเจ็บล้มตายเป็นธรรมดา เพราะการเมืองท้องถิ่นบ่อยครั้งมักจะเกิดเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนั้นเสมอ ดังนั้นทางเราก็ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์การแข่งขันทางการเมืองด้วย

“ผมไม่มั่นใจว่าจะคุมสถานการณ์การแข่งขันทางการเมืองได้หรอก แต่ตัวนักการเมือง ชาวบ้าน ร่วมมือช่วยกันด้วย ซึ่งเราเป็นเพียงเจ้าหน้าที่รัฐก็ต้องสนับสนุนประชาชน แต่เราจะพยายามทำให้ดีที่สุด เพื่อให้มีความสงบเรียบร้อยให้ได้” พล.ท.ปิยวัฒน์ กล่าว

เมื่อถามว่ากรณี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) จัดขบวนคาราวานพบปะประชาชน จะเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ เพราะคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยังไม่มีคำสั่งปลดล็อกทางการเมือง พล.ท.ปิยวัฒน์ กล่าวว่า “ขอย้ำว่าทุกคนต้องปฏิบัติตามกรอบกฎหมายเดียวกัน เพราะนโยบายของผม จะใช้การเมืองนำ ทหารตาม การเมืองขยาย แต่ถ้าใครก็ตามที่กระทำผิดกฎหมาย ผมก็จะจับหมด ถ้าไม่ผิดก็ทำไป”

...

เมื่อถามย้ำว่า หากนายสุเทพ ลงพื้นที่ภาคใต้ แล้วเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ผิดคำสั่งคสช.ก็จะจับหรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า ยืนยันว่า ไม่ว่าจะเป็นพวกใด กลุ่มใดก็ตาม ถ้าเป็นคนไทยทำผิดกฎหมายตนก็จับหมด ตั้งแต่หัวสุดยันท้ายสุด

“ผมไม่อยากจะไปเตือนอะไรกับใครว่าจะต้องปฏิบัติอย่างไรตามกรอบกฎหมายหรือไม่ เพราะพวกนักการเมืองย่อมรู้หลักกฎหมายดีกว่าผมเสียอีก ก็ขอเพียงทำในสิ่งที่ถูกต้อง ทำภายใต้กฎหมาย และหลักสิทธิมนุษยชนเท่านั้น” พล.ท.ปิยวัฒน์ กล่าว