เทือกเย้ย พท.อดเป็นรัฐบาล

ปชป.โต้เดือดสมคบคิดขบวนการล้มล้างรัฐบาล “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” เฉ่งยับศิษย์เก่าทรยศเผาบ้าน ไม่ใช่ลูกผู้ชาย ท้าลั่นโชว์หลักฐานเอี่ยวทหารยึดอำนาจ “วรงค์” แช่งคนหักหลังเพื่อนจบท้ายต้องติดคุก “นคร” เมินคำขู่เชิญฟ้องรอเปิดหลักฐานในศาล ย้อน “มาร์ค-ชวน” กล้าไหมประกาศให้ชัดไม่หนุน “บิ๊กตู่” พท.ชี้ประชาชนได้ประโยชน์เลือกข้างง่าย “สามารถ” คุยภาคเหนือแข็งโป๊ก ปลื้มได้ 2 อดีตลูกหม้อคู่กัดมาเสริมแกร่ง “สุพล” โผล่สาวไส้ต้นสังกัดเก่า บ่นติดหล่มความขัดแย้ง พัวพันสารพัดเรื่องทุจริตบี้พรรคไม่ปฏิรูปก็ต้องโบกมือลา “ปู” ยิ้มร่าพาอดีต ส.ส.ทัวร์ลอนดอน “วรวัจน์” ออกตัวไม่มีถกนอกรอบปมการเมือง “สุเทพ” ปิดปากไม่พาดพิงรังเก่า บลัฟ พท.ไม่มีทางได้เป็นรัฐบาล “สามมิตร” ปัดโชว์ดูดปั่นราคา “ภิรมย์” โม้แหลกชนะขาดทั้งภาคอีสาน-เหนือ-กทม.

หลังจากพรรคประชาธิปัตย์ขู่จะฟ้องดำเนินคดีนายนคร มาฉิม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ที่ออกมาแฉขบวนการล้มล้างรัฐบาลสองพี่น้องนายทักษิณและ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จนกลายเป็นศึกวิวาทะทางการเมือง โดยพรรคประชาธิปัตย์เรียกร้องให้เปิดเผยหลักฐาน อย่ากล่าวหาพรรคต้นสังกัดเก่าด้วยความเท็จ ขณะที่นายนครท้าชน รอเปิดหลักฐานในชั้นศาล

...

ปชป.ฉะยับ “นคร” ไม่ใช่ลูกผู้ชาย

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 29 ก.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีนายนคร มาฉิม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กถึงขบวนการล้มล้างสองพี่น้องตระกูลชินวัตรว่า ข้อกล่าวอ้างของนายนคร มาฉิม กล่าวให้ร้าย ล้วนแล้วแต่เป็นความเท็จทั้งสิ้น ให้ร้ายตุลาการ ทรยศต่อบ้านเก่าที่เคยซุกหัวนอน ละทิ้งซึ่งอุดมการณ์ ไร้จริยธรรม ลูกผู้ชายคนดีๆไม่ทำกัน พรรคเคยให้โอกาสเปรียบเสมือนผู้ให้กำเนิด วันนี้กลับมาด่าผู้ให้กำเนิด มนุษย์ดีๆไม่ทำกัน แต่มีข้อเท็จจริงที่จำเป็นต้องชี้แจงว่า 1. นายนครลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคไปแล้ว 2.ที่กล่าวว่าพวกเราร่วมกับเครือข่ายนายทุนกลุ่มขุนศึก กลุ่มศักดินาอำมาตย์และเครือข่ายข้าราชการ ได้ใช้สรรพกำลังทำลายทักษิณและยิ่งลักษณ์ว่ารวยแล้วโกง โกงทั้งโคตร ทุจริตเชิงนโยบาย ถ้าเป็นลูกผู้ชายออกมายืนยันให้ชัดว่าพวกเราหมายถึงพรรคประชาธิปัตย์ เพราะว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยใช้วิธีการต่างๆเหล่านี้

ปัดสมคบคิดทหารท้าลั่นโชว์หลักฐาน

นายราเมศกล่าวต่อว่า 3.ที่กล่าวว่าฝ่ายตุลาการระดับสูงบางคน ร่วมกันขย้ำทักษิณและยิ่งลักษณ์ตายคามือ ยึดอำนาจด้วยปืน คุณต้องกล้ายืนยันว่าตุลาการระดับสูงคนนั้นเป็นใคร 4. ที่กล่าวหาว่าพวกเรา สมคบคิด วางแผนการจะต้องให้ทหารยึดอำนาจนาย นคร ต้องกล้ายืนยันว่าคุณอยู่และรับรู้เหตุการณ์ตอนไหน เพราะพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้สมคบคิด เพื่อให้ทหารออกมายึดอำนาจตามที่กล่าวหา แต่นายนครกำลังสมคบคิดกับระบอบทักษิณและพรรคเพื่อไทย ทำลายพรรคประชาธิปัตย์ ทำลายอำนาจตุลาการ ทรยศต่อความยุติธรรม ตนรับผิดชอบทุกคำพูด จะเวทีไหนนัดมา “ผมคงไม่ใช้คำไม่สุภาพเช่นคุณนครที่ใช้คำว่าไม่มึงก็กูอยู่กันไม่ได้ไปข้างหนึ่ง แต่จะบอกด้วยคำสุภาพว่าพี่ครับข้างนอกกับข้างในคุก อยู่ตรงไหนในอนาคต ให้เลือกที่อยู่ได้สบายนะ”

แช่งคนทรยศหักหลังเพื่อนจบที่คุก

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กว่า นายนคร มาฉิม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ใช้คำว่า “พวกเรา” เพื่อให้สังคมเข้าใจผิดว่า ตนเองเป็นเบอร์ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์ แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่ มีเพื่อนน้อย ไม่มีบทบาท ผลของจดหมายของนายนคร นายทักษิณและเครือข่าย ได้ประโยชน์เต็มๆ แต่ความจริงคือความจริง นอกจากนี้ จะมีผลต่อการเลือกตั้งของนายนครแน่ โดยเฉพาะการที่พยายามสร้างภาพว่าตัวเองมีจุดยืนมีอุดมการณ์ แต่เปลี่ยนถึง 3 พรรค ทำให้คิดได้ว่าใช้เงินเป็นตัวตั้ง ชาวพิษณุโลกไม่ยอมรับ การแปรพักตร์ของนายนครไม่เหมือนอดีต ส.ส.ทั่วไป ทิ้งบอมบ์ไปสู่กลุ่มเป้าหมาย เป็นที่ถูกใจนายทักษิณและเครือข่ายมาก คนทั่วไปถือว่าทรยศต่อพี่ หักหลังเพื่อน เผาบ้านทิ้งครั้งรุนแรง คนที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ นายทักษิณคงมองออก ไม่รู้ว่าอนาคตจะทำกับพรรคเพื่อไทยเช่นนี้หรือไม่ คาดว่าสิ่งที่นายนครได้รับ ถ้าเป็นรัฐบาลต้องให้เป็นรัฐมนตรี แต่สุดท้ายคงจบด้วยการติดคุกเหมือนอีกหลายคน ถ้านายนครหมดประโยชน์ สุดท้ายต้องประหาร (ทางการเมือง) เพราะคงไม่กล้าส่งเสริมให้ดูแลพรรคแน่นอน

สับ “ณัฐวุฒิ” สุมหัวใส่ความ

นายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า กรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. กล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์เป็นไส้ศึกทำลายประชาธิปไตยนั้น หลังจากฟังนายนคร มาฉิม แล้วเห็นภาพ ถ้าไม่ชี้แจงก็จะทำให้พรรค ประชาธิปัตย์เสียหาย พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยสนับสนุนหรือสมคบคิดกับใครให้มีการยึดอำนาจ พรรค จึงไม่ใช่ไส้ศึกประชาธิปไตยที่สนับสนุนให้มีการยึดอำนาจอย่างที่นายณัฐวุฒิใส่ความแต่อย่างใดทั้ง 2 ครั้งที่มีการยึดอำนาจ ฝ่ายยึดอำนาจจะอ้างว่า มีการทุจริตคอร์รัปชันอย่างรุนแรงทั้งรัฐบาลไทยรักไทยและเพื่อไทย แถมประชาชนคนไทยส่วนใหญ่ ก็เห็นคล้อยตาม เป็นเรื่องรัฐบาลของพวกนายณัฐวุฒิ เองลุแก่อำนาจ โกงจนมองไม่เห็นหัวประชาชน ทฤษฎีสมคบคิดทางการเมืองที่นายณัฐวุฒิพูดถึงน่าจะเป็นการสมคบคิดกันระหว่างนายนครกับนายณัฐวุฒิ เพื่อหาเหตุใส่ความพรรคประชาธิปัตย์มากกว่า ประมาณว่านครชง ณัฐวุฒิตบ สมคบกันใส่ความ พรรคประชาธิปัตย์

“นคร” ท้าฟ้องรอเปิดหลักฐานในศาล

นายนคร มาฉิม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์ท้าทายให้แสดงหลักฐานว่าใครร่วมกันล้มสองพี่น้องตระกูลชินวัตรว่า ตนยืนยันทุกอย่างจริง จะเปิดต้องไปเปิดที่ศาล เห็นเขาขู่จะฟ้อง พร้อมเปิดทุกอย่างในชั้นศาล ฝากไปถึงพี่น้องฝ่ายการเมือง พี่ๆน้องๆผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเคารพรักเหมือนเดิมว่า ปลายลูกธนูของตนต้องการพุ่งเป้าไปที่ใจกลางของระบอบเผด็จการ ไม่ต้องการมาเสียเวลาสาละวนโต้เถียงไปมา นี่ขนาดปิดช่องว่างเอาไว้ ไม่เปิดทั้งหมดเขาจะมาเล่นตนด้วย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์อีก ที่ถามว่า ทหารคนไหน ตุลาการคนไหน ใครบ้าง พวกเขารู้อยู่แก่ใจ ถ้าไม่อย่างนั้นจะนำไปสู่กระบวนการยึดอำนาจได้อย่างไร ถามกลับย้อนไปว่า ทำไมพรรค ถึงบอยคอตการเลือกตั้ง หลักฐานถ้าอยากจะได้ ที่ขู่ร่ำๆจะฟ้องให้ฟ้องมา จะขอหมายศาลออกหมายเรียกไปทุกกลุ่มทุกฝ่ายเอาประวัติศาสตร์การเมืองมากางกันบนโต๊ะเลยว่าใครทำอะไรต่างๆ มันปรากฏชัดอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เคยถูกทหารเชิญไปปรับ ทัศนคติ 2 ครั้ง ขอนำสื่อเข้าไปด้วย แต่ไม่ได้รับอนุญาต และให้นายทหารโทร.มาขอยกเลิกนัด ที่ผ่านมา มีทหารตำรวจมาค้นบ้าน ทหารได้บอกผ่านทีมงาน ตนว่า อยากให้กลับไปอยู่ในสังกัดพรรคเดิม ไม่ต้อง ไปต่อสู้โต้แย้ง กลับไปเป็นพวกเดียวกันกับรัฐบาล แต่ถ้าไปอยู่ฝ่ายเพื่อไทยเป็นฝ่ายตรงข้ามก็เหนื่อยหน่อย

ท้า “มาร์ค–ชวน” ประกาศไม่หนุน “ตู่”

นายนครกล่าวอีกว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายชวน หลีกภัย ในฐานะผู้มีบารมีในพรรค กล้าประกาศต่อสาธารณะ และกล้ายืนยันชัดๆไหมว่า เลือกตั้งครั้งหน้า อย่างไรก็จะไม่เอานายกฯคนนอก ไม่เอาพวก คสช. มาเป็นนายกฯ เอาให้ชัดได้ไหมว่าอย่างไรก็จะล้างระบอบเผด็จการด้วยกัน ไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. มาเป็นนายกฯ มาร่วมกัน ล้างมรดกบาปด้วยกัน กล้าประกาศต่อสาธารณะหรือไม่ ถ้ากล้าประกาศประชาชนจะให้โอกาสประชาธิปัตย์ รวมถึงตนจะยอมคำนับให้ แต่หากไม่กล้าประกาศ เท่ากับทรยศประชาชน มันมีอะไรแฝงถึงไม่กล้า ถ้าอ้ำๆอึ้งๆกั๊กๆ มันไม่แฟร์กับประชาชน แล้วเหตุผลอะไรประชาธิปัตย์บอยคอตการเลือกตั้งมาสองครั้ง แล้วทั้งสองครั้งถูกทหารยึดอำนาจทุกครั้ง อะไรมันคือคำตอบล่ะ ประชาธิปัตย์ต่างหากที่จะต้องมาชี้แจง

พท. บอกทฤษฎีสมคบคิดช่วยเลือกข้าง

นายชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีตรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายนคร มาฉิม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ เปิดโปงทฤษฎีสมคบคิดล้มล้างรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่า ประชาชนที่ทราบข่าวน่าจะเชื่อไปแล้วระดับหนึ่ง เพราะผู้เปิดเผยเคยเป็นคนใน ยิ่งถ้าจะมีการฟ้องร้องนายนคร ความจริงลึกๆคงจะถูกเปิดเผยในศาลมากกว่านี้ เท่าที่เคยฟังนายนครมีข้อมูลลึกกว่านี้มาก เช่น กรณีการสร้างเหตุการณ์ความวุ่นวายในสภาฯ มีการมอบหมายแบ่งงานกันทำ คนนี้ลากเก้าอี้ประธานสภาฯ คนนั้นขว้างแฟ้มเหตุความวุ่นวายไม่ได้เกิดอย่างปัจจุบันทันด่วน แต่เป็นเรื่องที่เตี๊ยมกันมาก่อนทั้งสิ้น นอกจากนี้ นายนครยังชี้เบาะแสว่ามีการส่อทุจริตในโครงการขุดลอกคูคลองของ อผศ.ใน จ.พิษณุโลก พิสูจน์ความตั้งใจจริงในการปราบปรามการทุจริต ของนายนคร และทำให้ต้องเข้าค่ายหลายครั้งในช่วงนั้น ทั้งนี้ การเปิดโปงทฤษฎีสมคบคิดดังกล่าวประชาชนจะได้ประโยชน์อย่างยิ่งในการตัดสินใจทางการเมือง ที่จะต้องเลือกระหว่างฝ่ายประชาธิปไตยกับฝ่ายเผด็จการ

ลั่นฐานเสียงภาคเหนือยังแข็งโป๊ก

นายสามารถ แก้วมีชัย อดีต ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเตรียมการสำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไปในพื้นที่ภาคเหนือว่า ขณะนี้ทางพรรคยังไม่สามารถจัดการประชุมอย่างเป็นทางการได้ แต่จากการพูดคุยเบื้องต้น ภาคเหนือตอนบนเรามีอดีต ส.ส.แทบทุกเขต ตอนนี้ทุกคนยืนยันสมาชิกเป็นเรียบร้อยแล้วจึงวางตัวอดีต ส.ส. เป็นผู้สมัครในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ส่วนภาคเหนือตอนล่างที่มีอดีต ส.ส. ไม่ครบทุกเขต เขตไหนมีอดีต ส.ส.ก็จะให้เขาลงสมัคร ส่วนเขตไหนไม่มีอดีต ส.ส.ก็จะให้อดีตผู้สมัครเดิมที่ยังมั่นคงกับพรรค รวมถึงคน หน้าใหม่ที่เข้ามาร่วมอุดมการณ์เป็นว่าที่ผู้สมัคร โดยจะสอบถามความคิดเห็นประชาชนเพื่อเลือกตัวผู้สมัคร จึงยืนยันได้ว่าภาคเหนือของพรรคเพื่อไทยมีความพร้อม

โอ่ได้ “ประดิษฐ์-นคร” เสริมแกร่ง

เมื่อถามถึงกระแสข่าวนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ อดีต รมช.คลัง เข้าร่วมพรรคเพื่อไทยจะทำให้พรรค เข้มแข็งขึ้นหรือไม่ นายสามารถตอบว่าการได้นายประดิษฐ์ และนายนคร มาฉิม อดีต ส.ส.พิษณุโลก ประชาธิปัตย์ เข้ามาจะทำให้ภาคเหนือตอนล่างที่เรามีอดีต ส.ส.ไม่ครบแข็งแรงขึ้นแน่นอน ยืนยันไม่มีอดีต ส.ส.ภาคเหนือของพรรคเพื่อไทยออกจากพรรค มีแต่จะมีผู้สมัครเพิ่ม เพราะทุกคนรู้ใจประชาชนดี แม้แต่ภาคอีสานที่มีข่าวคนย้ายพรรคเยอะ แต่ถึงเวลาเชื่อว่าจำนวนจะไม่มากตามที่เป็นข่าว เพราะทุกคนมีประสบการณ์จากการไปร่วมพรรคทหารที่มีโอกาสสอบตกสูง

ซัด รบ.รีดภาษีเพิ่มปล้น ปชช.

นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้รัฐบาลใช้เงินในการตั้งงบ ประมาณและงบขาดดุลสูงมากถึง 2 ล้านล้านบาท ขณะเดียวกันยังใช้เทคนิคการเรียกเก็บภาษีจากประชาชนเพิ่ม โดยการประเมินใหม่ แล้วออก พ.ร.ฎ.เร่งด่วน หักค่าลดหย่อนภาษีรายได้ให้น้อยลงจากเดิม ลดหย่อนร้อยละ 80 เหลือร้อยละ 60 เท่ากับต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว ไม่เป็นธรรมและสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน โดยเฉพาะเกษตรกรผู้เลี้ยงหมู ไก่ วัว และจะส่งผลกระทบเป็นทอดๆไปจนถึงคนทั่วไป ต่อไปราคาอาหารจะเพิ่มขึ้นตาม เพิ่มภาระให้ประชาชน เนื่องจากรัฐบาลหาเงินไม่ได้ ไม่มีการเพิ่มเงินในกระเป๋าให้ประชาชน ไม่สามารถสร้างผู้ประกอบการเพิ่มให้ได้มากเท่าที่ควร จึงไปขุดเงินจากบ่อเดิม ถอนขนหน้าแข้งจากคนเดิมๆ ชาวบ้านมีแต่ตายกับตาย คนกำลังยากจนเดือดร้อน แต่ยังไปรีดภาษีเพิ่ม คนที่ใช้อาวุธใช้ปืนมาบริหารประเทศ บริหารการเงิน แบบนี้จะถือเป็นการปล้นประชาชนหรือไม่

“สุพล” รอค่ายใหม่ตั้งเสร็จก่อนถึงชิ่ง

ด้านนายสุพล ฟองงาม อดีต รมต.ประจำสำนักนายกฯ และอดีต รมช.มหาดไทย ในฐานะอดีต ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการแถลงข่าวอนาคตทางการเมืองที่มีกระแสข่าวมาตลอดว่าจะย้ายไปร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า จะมีการตัดสินใจทางการเมืองในเร็วๆนี้แน่นอน แต่ต้องรอการปลดล็อกจาก คสช.ก่อน และพรรคการเมืองที่กำลังจดจัดตั้งอยู่ ต้องเป็นพรรคการ เมืองที่ชอบและถูกต้องตามกฎหมายโดยสมบูรณ์ก่อน แล้วถึงจะตัดสินใจในตอนนั้นว่าจะอยู่หรือไปจากพรรคเพื่อไทย ขอให้สถานการณ์ตกผลึก หากจะไปต้องมีเหตุผลที่จะไป หรือถ้าจะอยู่ต้องมีเหตุผลที่จะอยู่

บ่นบ้านเก่าจมปลักขัดแย้งพัวพันทุจริต

เมื่อถามว่า เหตุผลที่จะทำให้ตัดสินใจอยู่ต่อหรือไปจากพรรคเพื่อไทยคืออะไร นายสุพลตอบว่าต้องยอมรับว่าพรรคเพื่อไทยมีปัญหาอะไรตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี เช่น 1.ปัญหาความขัดแย้งที่เป็นภาพลักษณ์ติดกับพรรค 2.พรรคต้องปฏิรูปให้เป็นสถาบันการเมือง ไม่ควรอยู่ภายใต้อิทธิพลหรือการตัดสินใจของคนใดคนหนึ่ง หรือครอบครัวใดครอบครัวหนึ่งกลไก ของพรรคควรได้ทำงาน 3.พรรคมีปัญหาเรื่องภาพลักษณ์ของการทุจริตคอร์รัปชัน คนของพรรคไปเกี่ยวข้องกับการทุจริตค่อนข้างหลายคนที่ติดคุกติดตะราง

บี้พรรคไม่ปฏิรูปต้องตัดสินใจลา

“ฉะนั้น พรรคควรปฏิรูปเรื่องนี้ หากไม่มีการปฏิรูปผมก็ต้องตัดสินใจ ที่ผ่านมามีผู้ใหญ่ในพรรคโทร.มาหาบ้าง แต่ได้เรียนไปว่าขณะนี้ยังเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยอยู่ และได้เรียนถึงปัญหาต่างๆว่าเรามีความรู้สึกอย่างไร และถ้าจะตัดสินใจอะไรก็ต้องไปมาลาไหว้ ส่วนที่นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ ระบุว่าได้คุยกับผมในขณะลง ครม.สัญจรที่ จ.อุบลราชธานี เป็นเพียงการทักทายกันที่สวนสัตว์เท่านั้น” นายสุพลกล่าว เมื่อถามว่า นายสนธิรัตน์ ได้ชวนมาทำการเมืองด้วยหรือไม่ นายสุพล กล่าวว่า “ท่านจะชวนไปไหน ในเมื่อพรรคท่านยังไม่มี พรรคท่านจด ทะเบียนแล้ว แต่ยังไม่สมบูรณ์ ไม่ใช่หรือ”

“ปู” ยิ้มรื่นพาอดีต ส.ส.ทัวร์ลอนดอน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทยว่า หลังจากแกนนำและอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ร่วมงานฉลองวันเกิดอายุ 69 ปี ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มอดีต ส.ส.ที่ใกล้ชิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ยังใช้เวลาพักผ่อนอยู่ต่อที่ประเทศอังกฤษกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดย น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย โพสต์อินสตาแกรมสตอรี่ เป็นภาพ น.ส.ยิ่งลักษณ์พากลุ่มอดีต ส.ส.ที่ใกล้ชิด อาทิ น.ส.ขัตติยา น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ อดีต ส.ส.กทม. นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีต รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เดินเล่นใจกลางกรุงลอนดอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีสีหน้ายิ้มแย้มพร้อมกับกล่าวว่าคิดถึงทุกคน

“วรวัจน์”ออกตัวไม่มีคุยการเมือง

นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีต รมว.วิทยาศาสตร์ ให้สัมภาษณ์ว่า การเดินทางไปร่วมงานวันเกิดนายทักษิณในครั้งนี้ นอกจากเรื่องการเมืองที่นายทักษิณพูดในคลิปวิดีโอที่มีการเผยแพร่กันแล้ว ไม่ได้มีการพูดเรื่องการเมืองกับกลุ่มอดีต ส.ส.ที่เดินทางไป ส่วนใหญ่เป็นการพูดเรื่องทั่วไป อวยพรวันเกิด สอบถามสารทุกข์สุขดิบกัน ไม่มีเรื่องการเมือง เพราะบรรยากาศไม่เอื้ออำนวย เราไปร่วมงานวันเกิดนายทักษิณเท่านั้น

“เทือก” บลัฟ พท.ไม่ได้เป็นรัฐบาลแน่

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) และอดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่าวันที่ 5 ส.ค. เวลา 09.00 น. ที่โรงแรมแลนด์มาร์ค ถนนสุขุมวิท พรรครปช. จะประชุมผู้ร่วมก่อตั้งพรรค 500 คน เพื่อเลือกคณะกรรมการบริหารพรรค หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค เพื่อจะยื่นเรื่องต่อ กกต.รับรอง ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ามีชื่อนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ และ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล อดีต รมว.คลัง เป็นแคนดิเดตหัวหน้าพรรคไม่เป็นความจริง ต้องให้ที่ประชุมคัดเลือก มั่นใจว่าพรรค รปช.จะได้เป็นรัฐบาลแน่นอน เลือกตั้งครั้งนี้จะไม่มีพรรคใดได้เสียงข้างมากเด็ดขาดพรรคเดียว ต้องเป็นพรรครัฐบาลผสม พรรคการเมืองที่มีเสน่ห์ที่สุดและเป็นตัวแทนของประชาชนแท้จริง ขณะนี้มีเพียงพรรคเราพรรคเดียว ใครก็อยากจะเชิญไปร่วมรัฐบาลมากที่สุด เมื่อถามว่า การเลือกตั้งครั้งหน้าถ้าพรรคเพื่อไทยได้เสียงมากที่สุด พรรค รปช.จะไปร่วมตั้งรัฐบาลด้วยหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่าขอยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยจะไม่ได้เป็นรัฐบาลอย่างแน่นอน ส่วนที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ระบุว่าพรรคเพื่อไทยจะชนะยิ่งกว่าแลนด์สไลด์ นายสุเทพ กล่าวว่า นั่นนายทักษิณพูด แต่ตอนนี้คือนายสุเทพพูด

ไม่ขอพาดพิงรังเก่าเหมือน “นคร”

เมื่อถามย้ำว่า หากพรรคประชาธิปัตย์ได้เสียงข้างมาก พรรค รปช.จะไปร่วมหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่าไม่ขอพูดถึงพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ใช่นายนคร มาฉิม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ที่ออกจากพรรคไปแล้วก็พูดให้เขาเสียหายสะเทือนใจ ตอนนี้ไม่ได้อยู่พรรคประชาธิปัตย์แล้ว จึงไม่อยากจะไปแก้ตัวแทนเขา รู้จักนายนครดี เคยเป็นเลขาธิการพรรค จึงรู้จักลูกพรรคทุกคนดี และไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ใคร เพราะมาอยู่พรรค รปช.แล้ว และตกลงกันแล้วว่าไม่ควรพูดถึงพรรคอื่นที่ทำให้เขาเสียหาย

“ภิรมย์” ปัดสามมิตรโชว์ดูดปั่นราคา

ช่วงบ่ายที่ตลาดเทิดไท อ.เมืองนครราชสีมา นายภิรมย์ พลวิเศษ แกนนำกลุ่มสามมิตร อดีต ส.ส.นครราชสีมาพรรคพลังประชาชน พร้อมทีมงานลงพื้นที่พบปะประชาชนที่กำลังจับจ่ายสินค้า นายภิรมย์กล่าวว่า วันก่อนได้หารือกับแกนนำ นปช.หรือเสื้อแดง จ.กาฬสินธุ์ ได้แลกเปลี่ยนกับนายชิงชัย มงคลธรรม รมว.ศึกษาธิการ และนายโสภณ เพชรสว่าง อดีตรองประธานสภาฯ แต่ในอนาคตไม่รู้ว่าจะมาร่วมกับกลุ่มสามมิตรหรือไม่ แต่เห็นตรงกันว่าแนวทางของสามมิตรมาถูกทิศทางแล้ว ที่พรรคเพื่อไทยโจมตีว่าเราเอาการปรองดองบังหน้า แท้จริงมีวาระซ่อนเร้น แต่ละวันที่ไปพบปะกลุ่มอาชีพตอบรับหมด นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ประธาน นปช.โจมตีเราเดินสายดูดเพื่อปั่นราคาสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯต่อไป เหมือนทำลายชาติ จะทำลายชาติอย่างไร ไม่ได้พูดสักครั้งว่าสนับสนุนเผด็จการ แต่จะสนับสนุนนายกฯที่ทำความดีให้พี่น้องประชาชน เรื่องปากเรื่องท้องรัฐบาลมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่กลุ่มเรายังต่อยอดอีกจะให้ลูกหลานคนจนเรียนหนังสือต่อ โดยไม่ต้องกู้ กยศ. ต่อไปจะใช้รูดเรียนฟรีถึงปริญญา

โวชนะขาดทั้งอีสาน-เหนือ-กทม.

“เราไม่มีวาระซ่อนเร้น ไม่ทำลายชาติ มีแต่ทำให้ประเทศชาติสามัคคีกัน คนอีสานเขารักทักษิณ แต่เขาก็รักนายกฯประยุทธ์เหมือนกัน นโยบายข้อไหนที่ชาวบ้านได้ประโยชน์จากรัฐบาล เขาก็รักบิ๊กตู่เหมือนกัน วันนี้ยังไม่มีการเลือกตั้ง พวกผมยังไม่ได้ตั้งพรรคกันเลย พูดถึงว่าจะเดินหน้าอย่างไรให้ประชาชน ถ้าเกิดรัฐบาลทำงานดี อย่าว่าเป็นนายกฯเลย บิ๊กตู่อาจเป็นนายกฯตลอดชีวิตก็ได้ พวกผมเกิดทางการเมืองเมื่อวันที่ 4 เม.ย.61 ถึงวันที่ 29 ก.ค.61 เดินได้ขนาดนี้ทำให้เรตติ้ง พล.อ.ประยุทธ์ เป็นอันดับหนึ่งของประเทศ เป็นรองกระแสพรรคเพื่อไทยไม่ถึง 10% โดยยังไม่ตั้งพรรคเลย ถ้าเดินอีก 2-3 เดือน หรือ 4-5 เดือนก่อนเลือกตั้ง อย่าว่าจะไม่ได้ ส.ส.สักคน มั่นใจว่ากลุ่มสามมิตรที่หนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ อาจจะชนะขาดพรรคเพื่อไทยก็ได้ ส่วนที่นายทักษิณระบุหลังเลือกตั้งปี 62 พรรคเพื่อไทยจะชนะแบบแลนด์สไลด์ คำว่าแลนด์สไลด์ไม่อยู่ที่จำนวน ส.ส.พรรคใดพรรคหนึ่ง แต่วัดที่ประชาชนต้องการอะไรเมื่อมีการเลือกตั้ง วันนี้ไม่รู้หรอกว่าใครจะแลนด์สไลด์ ถ้าให้มีเวทีเดิน แลกเปลี่ยนกับพี่น้องประชาชนว่าอย่าว่าแต่ภาคอีสานเลย กรุงเทพฯ ภาคเหนือ มั่นใจเพื่อไทยแพ้กลุ่มสามมิตรแน่นอน”

ชาวบ้านชี้เลือกตั้งเป็นสิ่งจำเป็น

วันเดียวกัน ซุปเปอร์โพล เปิดเผยผลสำรวจ “ประชาชนคิดอย่างไรต่อการเลือกตั้งและคุณสมบัติของ ส.ส.ที่ดี” จาก 1,147 ตัวอย่าง เมื่อวันที่ 20-28 ก.ค. พบว่าส่วนใหญ่หรือร้อยละ 81.9 ระบุการเลือกตั้งเป็นเรื่องจำเป็น ขณะที่ร้อยละ 18.1 ระบุไม่จำเป็น เมื่อถามถึงความเหมาะสมของช่วงวันเลือกตั้ง เกินครึ่งหรือร้อยละ 54.8 ระบุช่วงต้นปีหน้า ร้อยละ 30.1 ระบุช่วงกลางปีหน้า และร้อยละ 15.1 ระบุช่วงปลายปี ที่น่าเป็นห่วงคือส่วนใหญ่หรือร้อยละ 90.3 ยังไม่เข้าใจวิธีการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบใหม่หรือไพรมารีโหวต มีเพียงร้อยละ 9.7 เข้าใจ เมื่อถามถึงคุณลักษณะของ ส.ส.ที่ดี ร้อยละ 66.8 ระบุเข้าถึงประชาชน แก้ปัญหาชาวบ้านได้ดี ร้อยละ 64.9 ซื่อสัตย์สุจริต ร้อยละ 61.1 ระบุช่วยทำบ้านเมืองสงบสุข ร้อยละ 58.3 คลุกคลีเป็นกันเองกับชาวบ้าน ร้อยละ 57.4 รักประชาธิปไตย ร้อยละ 52.7 กล้าตัดสินใจ ร้อยละ 50.9 มีวิสัยทัศน์ ร้อยละ 46.3 เป็นคนทันสมัย

ไม่มั่นใจจะเลือกซ้ำ ส.ส.ย้ายพรรค

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็น “ประชาชนคิดอย่างไร? กรณีผู้สมัคร ส.ส.ย้ายพรรค” จากกลุ่มตัวอย่าง 1,096 คน ระหว่างวันที่ 24-28 ก.ค.พบว่าร้อยละ 47.04 เห็นเป็นเรื่องปกติทางการเมือง มีให้เห็นช่วงเลือกตั้ง ร้อยละ 31.19 ถูกจับตามองน่าจะเกี่ยวกับการดูด ส.ส. และ ร้อยละ 30.28 เป็นสิทธิของผู้สมัครที่มีอิสระจะย้ายพรรค เมื่อถามว่าระหว่างตัวผู้สมัคร ส.ส. กับพรรค การเมือง ประชาชนให้ความสำคัญอะไรมากกว่ากัน ร้อยละ 38.69 เห็นว่าพอๆกัน ร้อยละ 33.3 ระบุตัวผู้สมัครมากกว่า และร้อยละ 28.01 ระบุพรรคที่สังกัดมากกว่า เมื่อถามว่าทำไมผู้สมัคร ส.ส.จึงย้ายพรรค 3 อันดับแรก ร้อยละ 38.90 เป็นเรื่องผลประโยชน์ มองหาความมั่นคงและโอกาสที่ดีกว่า ร้อยละ 32.89 มีความขัดแย้งภายในพรรค ไม่มีเสถียรภาพ และร้อยละ 24.87 อุดมการณ์ การทำงานไม่ตรงกัน อย่างไรก็ตาม ถ้าผู้สมัคร ส.ส.ที่เคยเลือกเมื่อการเลือกตั้งครั้งที่แล้วย้ายพรรค ประชาชนจะยังเลือกผู้สมัครคนนี้อีกหรือไม่ ร้อยละ 50.91 ไม่แน่ใจ ต้องรอดูว่าย้ายไปพรรคไหน ร้อยละ 27.28 เลือก เพราะดูที่ตัวบุคคล และร้อยละ 21.81 ไม่เลือก เพราะผิดหวัง ไม่เชื่อมั่น เหมือนเป็นคนขาดอุดมการณ์ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน

“สุเทพ” อวย “บิ๊กตู่” ยกเครื่อง ตร.

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่อาคารทูแปซิฟิคเพลส มูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศ (มปท.) จัดเสวนาการปฏิรูปประเทศไทย เรื่องการปฏิรูปตำรวจ มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิ มปท.และผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) กล่าวเปิดการเสวนาว่า ประชาชนต้องการเห็นตำรวจเป็นมืออาชีพ แต่สภาพที่เป็นอยู่ มีการโยกย้ายข้ามกันไปมา เหมือนตำรวจคนหนึ่งทำงานได้ทุกเรื่อง ประชาชนต้องการให้ตำรวจเป็นของประชาชน ไม่ใช่เครื่องมือของผู้มีอำนาจ จึงมีเสียงเรียกร้องอย่างนี้ทั่วประเทศ น่ายินดีที่รัฐธรรมนูญบัญญัติการปฏิรูปตำรวจไว้ชัดเจน โดยเฉพาะการโยกย้ายที่ต้องใช้หลักอาวุโส ต้องขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ที่เมื่อได้รับทราบแนวทางการปฏิรูปตำรวจของ พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ได้ส่งให้กรรมการชุดใหม่ไปปรับปรุงแก้ไข มีการยกเครื่องใหม่ทั้งหมด

ไม่ปฏิรูปหวั่นซ้ำรอยลุงโดดตึก

นายบรรเจิด สิงคะเนติ อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ สถาบันพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวว่า การปฏิรูปตำรวจเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมและเชื่อมโยงถึงประชาชนโดยตรง ถ้ากระบวนการนี้ไม่โปร่งใส ยิ่งจะสร้างความทุกข์ให้กับคนจนมากขึ้นไปอีก อาทิ ลุงที่กระโดดตึก สะท้อนปัญหากระบวนการยุติธรรม กระบวนการสอบสวน ถ้าไม่แก้ไขก็จะมีการ เดิมพันด้วยชีวิตอีก ถ้า ผบ.ตร.ซึ่งเป็นยอดพีระมิดอยู่ใต้การเมือง ที่เหลือก็จะอยู่ใต้การเมือง การเข้าสู่ตำแหน่งในบางพื้นที่มีต้นทุนสูงมาก กระบวนการสอบสวนเดินหน้าไม่ได้ เป็นปัญหาที่ไม่มีใครเข้าไปถ่วงดุลการแก้ไขปัญหาจะต้องเน้นไปที่โครงสร้างกระบวนการสอบสวนภายใต้หลักการสากล ต้องให้อัยการและตำรวจเข้ามาร่วมกันแสวงหาข้อเท็จจริง เฉพาะคดีที่มีความสำคัญ ถ้ากระบวนการนี้ถูกสถาปนา ขึ้นมาได้จริง จะทำให้เกิดความโปร่งใส ถ้าทศวรรษนี้เรายังแก้ไขไม่ได้ เชื่อว่าจะเกิดการพลีชีพอีก

พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติใกล้เสร็จแล้ว

ขณะที่นายคำนูณ สิทธิสมาน กรรมการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า คณะกรรมการพิจารณาร่างกฎหมายตำรวจแห่งชาติ ที่มีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธาน และมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯมาร่วมด้วย ร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติเสร็จสิ้นในกระบวนการของกฤษฎีกาแล้ว เหลือเพียงบางประเด็น เมื่อประกาศบังคับใช้แล้ว ประชาชนจะได้ตำรวจที่ไม่ต้องอาศัยระบบอุปถัมภ์ กระบวนการสอบสวนคดีอาญาในชั้นตำรวจเป็นอิสระ แต่การโยกย้ายตำรวจปีนี้ไม่น่าจะทัน ต้องกลับไปใช้การโยกย้ายตำรวจตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มาตรา 260 วรรค 3 ที่กำหนดให้ใช้หลักอาวุโส โดยให้ ครม.ไปออกระเบียบและประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา ขณะนี้มีนักกฎหมายตีความกันว่าจะใช้หลักอาวุโสอย่างเดียว หรือจะนำหลักอื่นมาพิจารณาด้วย จึงอยากให้สังคมช่วยกันติดตาม

นายกฯวอนคนไทยใช้ภาษาให้ถูก

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช.ให้ความสำคัญของวันภาษาไทยแห่งชาติ 29 ก.ค. เพราะเรามีภาษาของตัวเองเป็นมรดกทางวัฒนธรรม โดยวันนี้ในอดีตพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดชบรมนาถบพิตร มีพระราชดำรัสเกี่ยวกับการใช้ภาษา ไทยเพื่อให้คนไทยได้รักษาและใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องชัดเจนเหมาะสม ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงสภาพสังคมเศรษฐกิจในปัจจุบัน การหลั่งไหลเข้ามาของวัฒนธรรมต่างชาติส่งผลกระทบต่อการใช้ภาษาไทยอย่างมาก รัฐบาลจึงมีนโยบายเพื่ออนุรักษ์ฟื้นฟูเผยแพร่ภาษาไทยและภาษาถิ่น เพื่อส่งเสริมให้ตระหนักถึงคุณค่าของความเป็นไทยและภาคภูมิใจที่เรามีสมบัติอันล้ำค่า แม้ภาษาไทยจะเปลี่ยนแปลงไปบ้างตามสมัยนิยม แต่อยากให้เด็กเยาวชนคนไทยเรียนรู้รากเหง้าที่แท้จริง ร่วมกันอนุรักษ์และใช้อย่างถูกต้องเหมาะสม และกระตุ้นให้คนรอบข้างเห็นความสำคัญเพราะเราเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในโลก ที่มีภาษาเป็นของตนเองอย่างสมบูรณ์

ตุลาการฯของบสร้างบ้านพักใหม่

นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหาการก่อสร้างบ้านพักข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 บนพื้นที่ป่าเชิงดอยสุเทพ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ว่า คณะกรรมการเพื่อฟื้นฟูสภาพแวดล้อมและคณะกรรมการดำเนินการกับสิ่งก่อสร้าง เพื่อให้พื้นที่เป็นป่าสมบูรณ์ดังเดิม กำลังจะสรุปผลการประชุมส่งมาที่คณะกรรมการแก้ไขปัญหาโครงการก่อสร้างบ้านพักข้าราชการตุลาการฯ คณะกรรมการส่วนกลาง ได้ส่งผู้ตรวจราชการสำนักนายกฯไปลงพื้นที่ดูแลการแก้ปัญหาและประสานงานกับสำนักงานศาลยุติธรรม ได้ขอให้สำนักงานศาลยุติธรรมจัดทำการขอรับการจัดสรรงบประมาณเพื่อนำไปใช้ก่อสร้างบ้านพักข้าราชการตุลาการฯแห่งใหม่ ทราบว่ากำลังจะไป สำรวจ ดูพื้นที่ใหม่อยู่ เมื่อถามว่าเครือข่ายภาคประชาชนกังวลต่อการที่สำนักงานศาลยุติธรรมไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร นายสุวพันธุ์กล่าวว่า บางเรื่องอาจเกี่ยวพันกับเรื่องสัญญาต่างๆ คงตอบแทนฝ่ายศาลไม่ได้ ต้องให้เวลานายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าฯเชียงใหม่คนใหม่ ได้พูดคุยกับภาคประชาชนก่อน แต่ถ้ามีปัญหาอะไรอย่างไร ตนพร้อมลงพื้นที่ไปพูดคุยด้วยอยู่แล้ว