นายกฯ นำขรก. ร่วมถวายสัตย์ ชวนประชาชนทำดีด้วยหัวใจ
พสกนิกรทั่วหล้าพร้อมใจทำดีถวายเป็นพระราชกุศล และร่วมจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 66 พรรษา 28 ก.ค.2561 อย่างพร้อมเพรียง ขณะที่ 3 เหล่าทัพ “บก-เรือ-อากาศ” จัดยิงสลุตหลวง 21 นัด ด้าน “นายกฯตู่” นำข้าราชการ ประชาชนทำบุญ พร้อมกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน รวมถึงเชิญชวนคนไทยน้อมนำแนวพระราชดำริจิตอาสา ทำความดี ด้วยหัวใจ ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต ประพฤติตนตามคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของจิตอาสาที่ดี 7 ประการ
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร 66 พรรษา 28 ก.ค. พสกนิกรทั่วประเทศ ต่างพร้อมใจออกมาทำบุญตักบาตร ทำกิจกรรมดีๆ ถวายเป็นพระราชกุศล และร่วมถวายพระพรชัยมงคลอย่างพร้อมเพรียง ทั้งนี้ เมื่อเวลา 17.49 น. วันที่ 28 ก.ค. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ มายังพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง ทรงเปลี่ยนเครื่องทรงฤดูร้อนพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร เป็นทรงเครื่องสำหรับฤดูฝน โดยมีพสกนิกรสวมเสื้อเหลือง รอเฝ้ารับเสด็จสองฟากถนนราชดำเนินใน และบริเวณรายรอบพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พร้อมใจกันเปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ” ดังกึกก้องไปทั่ว และหลังจากทรงประกอบพิธีเสร็จสิ้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปทรงพระสุหร่ายน้ำพระพุทธมนต์แก่ข้าราชการที่เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทภายในพระอุโบสถ และทรงพระสุหร่ายน้ำพระพุทธมนต์สรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรแก่ประชาชนที่มาเฝ้ารับเสด็จอยู่โดยรอบพระอุโบสถ จากนั้นเสด็จฯ ไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินต่อไปยังวัดบวรนิเวศวิหาร ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลเนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา ณ วัดบวรนิเวศวิหาร
...
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตลอดวันประชาชนทุกหมู่เหล่าร่วมใจออกมาทำบุญถวายเป็นพระราชกุศล และถวายพระพร เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยจุดหลักยังคงที่บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.และนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา นำ ครม. พร้อมคู่สมรส และเหล่าข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ประชาชนกว่า 3,500 คน ทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระสงฆ์ จำนวน 670 รูป โดยมีสมเด็จพระวันรัต เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์
พร้อมกันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังเป็นประธานในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์พร้อม ครม.และคู่สมรส ผู้นำเหล่าทัพ ประธานศาลฎีกา ประธานสภานิติบัญญัติ ข้าราชการระดับสูง ผู้บริหารองค์กรอิสระ นักการเมือง ตลอดจนเอกอัครราชทูต และผู้แทนองค์กรระหว่างประเทศ ฯลฯ ร่วมลงนามถวายพระพร สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ ห้องแดง อาคารหน่วยราชการในพระองค์ 904 ภายในพระบรม มหาราชวัง
ในโอกาสนี้ นายกฯยังกล่าวเชิญชวนคนไทยน้อมนำแนวพระราชดำริจิตอาสา ทำความดีด้วยหัวใจของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตว่า จิตอาสา คือจิตแห่งการให้แก่เพื่อนมนุษย์ด้วยความเต็มใจ พร้อมจะเสียสละเวลา แรงกาย แรงสติปัญญา เพื่อสาธารณประโยชน์โดยไม่หวังผลตอบแทน และมีความสุขที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่น เป็นคุณลักษณะที่สำคัญของคนไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และอยากให้ประชาชนประพฤติตนตามคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของจิตอาสาที่ดี 7 ประการ คือมีความซื่อสัตย์ เสียสละ อดทน คำนึงถึงส่วนรวม มีศีลธรรม หวังดีต่อผู้อื่น รู้จักแบ่งปัน มีวินัยและความรับผิดชอบ เคารพกฎหมาย มีกิริยา วาจาสุภาพเรียบร้อย ไม่ดื่มสุราหรือใช้สารเสพติด มีจิตใจเข้มแข็งและมีทัศนคติที่ดีในการทำงานเพื่อส่วนรวม และรักษาวัฒนธรรมประเพณีไทยอันดีงาม ผู้น้อยรู้จักการเคารพผู้ใหญ่
สำหรับข้าราชการ นักธุรกิจ และคณะบุคคลจากหน่วยงานและองค์กรต่างๆ สำนักพระราชวัง เปิดให้ลงนามถวายพระพร ภายในศาลาสหทัยสมาคม และประชาชนลงนามถวายพระพรที่สนามหญ้าด้านข้างศาลาลูกขุน ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งตลอดวัน มีประชาชนที่พร้อมใจสวมเสื้อเหลือง พาลูกหลาน สมาชิกในครอบครัวมาลงนามถวายพระพรอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะเข้าสักการะพระแก้วมรกต ที่พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
ทั้งนี้ จากการสอบถามนายวุฒิ ขันกสิกรรม อายุ 54 ปี แต่งชุด อปพร.และสวมผ้าพันคอจิตอาสาเราทำความดี ด้วยหัวใจ แต่ใช้ไม้เท้าพยุงตัวบอกว่าเดินทางมาจากเขตภาษีเจริญ และเป็น อปพร.มา 10 กว่าปี รวมถึงทำหน้าที่เป็นตำรวจอาสา ส่วนที่ใช้ไม้เท้า เพราะก่อนหน้านี้ได้ประสบอุบัติเหตุ กระดูกขาซ้ายแตกจากขาถึงสะโพก รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกลาง กระทั่งวันที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรม ราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมาที่โรงพยาบาลกลาง ทางตำรวจได้ทูลเกล้าฯ ขอให้รับตนไว้เป็นผู้ป่วยในพระอุปถัมภ์ เป็นคนที่ทำความดีแต่ยากจน พระองค์ทรงรับไว้เป็นผู้ป่วยในพระอุปถัมภ์ รับสั่งกับตนว่า “ขอให้หาย ต้องหาย” ทำให้จิตใจฮึดสู้อีกครั้ง ยิ่งได้กำลังใจจากพ่อแม่ทำให้ตนกลับมาเดินได้อีกครั้ง แม้ต้องใช้ไม้พยุงบ้าง จนถึงทุกวันนี้ยังคงทำหน้าที่ตำรวจอาสาต่อไป นอกจากนี้ ยังดูแลคนเจ็บป่วยตามบ้าน เป็นหูเป็นตาให้รัฐ คิดว่าจะทำจนกว่าร่างกายจะไม่ไหว ทั้งหมดนี้เพื่อต้องการทำความดีถวายพระองค์ ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ
ด้านนางเอมอร จรัสโชติกุล อายุ 63 ปี ชาว จ.นครราชสีมา นำพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาถือไว้แนบอก พร้อมถือธงชาติไทย ธงตราพระ ปรมาภิไธยย่อ ว.ป.ร. กล่าวด้วยสีหน้าปลื้มปีติหลังลงนามถวายพระพรว่า อยากมาถวายพระพรให้พระองค์ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์ อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้เฝ้ารับเสด็จสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อยู่ที่บริเวณประตูวิเศษไชยศรี พระบรมมหาราชวัง เมื่อขบวนรถยนต์พระที่นั่งเคลื่อนผ่าน พวกเราพร้อมใจกันกล่าวคำทรงพระเจริญดังกึกก้อง ปรากฏว่าพระองค์ทรงโบกพระหัตถ์และแย้มพระสรวลให้ รู้สึกประทับใจมาก นอกจากนี้ตนและเพื่อนๆยังเป็นจิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจ ที่ผ่านมาได้ไปขุดลอกคูคลอง สอนทำดอกไม้จันทน์ พบว่าสิ่งที่ได้กลับมาคือความสุขและความภาคภูมิใจ เหมือนว่าได้ทำเพื่อประเทศชาติ ทำเพื่อพระองค์
...
ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 12.00 น.สามเหล่าทัพ พร้อมใจยิงสลุตหลวง 21 นัด เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา โดยกรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ (ป. 1 รอ.) กองทัพ บก ยิงสลุตหลวง ที่ท้องสนามหลวง กองทัพเรือ โดยฐานทัพเรือกรุงเทพ ยิงสลุตหลวง ที่ป้อมวิชัยประสิทธิ์ พระราชวังเดิม กองทัพเรือ เขตบางกอกใหญ่ ด้านกองทัพอากาศ โดยกรมทหารต่อสู้อากาศยานรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน ทำการยิงสลุตหลวงที่ลานอเนกประสงค์ โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช
ส่วนที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ถนนงามวงศ์วาน พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เป็นประธานเปิดโครงการคัดกรองมะเร็งเต้านมโดยเครื่องเอกซเรย์เต้านมเคลื่อนที่ (Mammogram) ให้ผู้ต้องขังหญิง เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดย พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวว่า ราชทัณฑ์ร่วมกับมูลนิธิกาญจนบารมี ผู้ให้การสนับสนุนด้านอุปกรณ์เครื่องเอกซเรย์เต้านมเคลื่อนที่ ให้ความรู้และคัดกรองเบื้องต้นในกลุ่มผู้ต้องขังหญิงที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป จากทัณฑสถานหญิงกลาง 1,841 คน ซึ่งถือเป็นบุคคลด้อยโอกาสทางสังคม พร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับสาเหตุของโรคมะเร็งเต้านมที่ชัดเจน
เช่นเดียวกับที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 8 ช่วงเย็น พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก.น.8 พ.ต.อ.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ รอง ผบก.น.8 นำข้าราชการตำรวจในสังกัดและประชาชนจิตอาสา ทำพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณและปลูกต้นรวงผึ้ง 2 ต้น บริเวณทิศเหนือกับทิศใต้ข้างเสาธงริมน้ำ ในพื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 8 เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยต้นรวงผึ้งนี้เป็นต้นไม้มงคลประจำรัชกาลที่ 10
ส่วนที่ท้องสนามหลวง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดช่วงเย็นเป็นต้นมา ประชาชนที่สวมเสื้อเหลือง จากทั่วทุกสารทิศพากันหลั่งไหลเข้ามาในมณฑลพิธีท้องสนามหลวง เพื่อร่วมพิธีจุดเทียนถวายพระ พรชัยมงคลกันอย่างล้นหลาม ระหว่างนั้นยังได้สักการะพระบรมสารีริกธาตุ 4 ยุค จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ และพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระองค์ในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเยี่ยมชมนิทรรศการภาพกิจกรรมจิตอาสา เราทำความดีด้วยหัวใจ ฝั่งตรงข้ามหน้าศาลฎีกา นอกจากนี้ มีริ้วขบวนอัญเชิญเครื่องราชสักการะ จากหน่วยงานราชการ สถาบันการศึกษามูลนิธิ และบริษัทเอกชนต่างๆ อย่างไรก็ตาม ก่อนพิธีจะเริ่มก็ได้เกิดฝนเทกระหน่ำลงมาอย่างหนัก ทั่วบริเวณพื้นที่จัดงาน แต่เมื่อใกล้ช่วงพิธีจะเริ่ม ปรากฏว่าสายฝนก็หยุดตก จนเป็นที่น่าอัศจรรย์ใจแก่ผู้อยู่ในพื้นที่อย่างมาก
...
กระทั่งเวลาประมาณ 19.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ตลอดจนประชาชนทุกหมู่เหล่ามาพร้อมกันที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง โดย พล.อ.ประยุทธ์ เดินมาที่หน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถวายคำนับ วางพานพุ่มทอง พุ่มเงิน เปิดกรวยกระทงดอกไม้ถวายเครื่องราชสักการะ และถวายคำนับ จากนั้นจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล นำกล่าวถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ และถวายพระพรชัยมงคล แล้วร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี 1 จบ เพลงสดุดีจอมราชา 2 จบ จากนั้น ผู้ร่วมพิธีพร้อมใจกันเปล่งเสียงทรงพระเจริญกันอย่างกึกก้อง ท่ามกลางแสงเทียนที่สว่างไสวไปทั่วบริเวณท้องสนามหลวง