การชิงชัยเก้าอี้แม่ทัพนครบาลคำสั่งแต่งตั้งนี้ เล่นเอาตำรวจน้อยใหญ่ตื่นเต้นเกินหน้าเกินตาเจ้าตัวที่ถูกเต็งรายชื่อลงสนามแข่งขัน นั่งตำแหน่ง "ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล" เรียกได้ว่า "ลูกพี่ใคร ลูกพี่มัน ลุ้นกันสุดชีวิต" เพราะอีกประมาณ 3 เดือน ก็จะมีการแต่งตั้งโยกย้ายโผนายพลสีกากีลอตใหญ่  

นี่ถือเป็นการปรับเปลี่ยนครั้งสำคัญของรัฐบาล คสช. ที่นำโดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.  การจัดกำลังพลสีกากีครั้งนี้ก็เพื่อเตรียมรับศึกเลือกตั้ง หลังจากมีการรัฐประหารได้ 4 ปีกว่า ตามที่เคยประกาศไว้ในโรดแม็ป คือ กุมภาพันธ์ 2562 จึงถือว่าสำคัญมากที่สุด ไม่น้อยกว่าตอนที่เข้ามารับตำแหน่งใหม่ๆ 

ทิศทางพิทักษ์ 1 จักรทิพย์ ชัยจินดา 

แน่นอนว่า “บิ๊กแป๊ะ” พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังคงแข็งโป๊ก อยู่ต่อได้เช่นเดิม แม้ที่ผ่านมาจะมีกระแสข่าวเรื่องการเปลี่ยนตัว ผบ.ตร. ออกมาเป็นระยะๆ แต่ บิ๊กแป๊ะ ยืนหยัดสู้ทุกกระแส สยบทุกข่าวลือ วางตัวนิ่งเฉยตั้งแต่มารับตำแหน่งใหม่ๆ จนถึงปัจจุบัน 

4 ตัวเต็ง ลุ้นนั่งเก้าอี้แม่ทัพนครบาล จับตาโผสีกากี รับ 'โรดแม็ป คสช.'

...

แต่สำหรับแคนดิเดตอีกคน ที่เคยมีชื่อว่าจะไต่บัลลังก์เจ้ากรมปทุมวันอย่าง พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หลังโดนกระแสข่าวโจมตีสะบักสะบอม พักหลังจึงดูแผ่วไปเยอะ รวมไปถึงความแข็งแกร่งยังไม่สามารถเบียด บิ๊กแป๊ะ ให้กระเด็นตกเก้าอี้ได้ เหตุนี้เองจึงเชื่อได้ว่า เก้าอี้พิทักษ์ 1 จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงในคำสั่งแต่งตั้งครั้งนี้ 

"บิ๊กหยม" แม่ทัพนครบาล หมดวาระ โบกมืออำลาตำแหน่ง 

หนึ่งในตำแหน่งหลัก “ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล”  เดือนกันยายน ปีนี้ “บิ๊กหยม” พลตำรวจโทชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ถึงวาระเกษียณอายุราชการ ซึ่งที่ผ่านมา พลตำรวจโทชาญเทพ มีความสนิทสนม ซี้ย่ำปึ้ก กับ พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา เส้นทางการรับตำแหน่งของ บิ๊กหยม จึงค่อนข้างปรู๊ดปร๊าด รวดเร็ว สตาร์ตนั่งเก้าอี้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ก่อนโยกมาเป็น ”ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1” และตำแหน่งสุดท้ายคือ “ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล” เรียกว่า “เกรดเอ” ทุกที่ได้รับความไว้วางใจจาก บิ๊กแป๊ะ เพื่อนซี้เป็นที่สุด

เมื่อเหลือบมองตำรวจที่โดดเด่น มีฝีมือ และมีพลังวังชาในห้วงเวลานี้ เห็นจะมีความเป็นไปได้จริงๆ แค่ 4 ตัวเลือกที่ล้วนแล้วแต่ "ไม่ธรรมดา" แบ็กอัพก็ดี ผลงานก็เด่น ที่สำคัญมีความสนิทสนมกับขั้วอำนาจยุคนี้สมัยนี้ดีเยี่ยม ...อีก 3 เดือนจากนี้ ทั้งหมดน่าจะถูกหยิบยกผลงาน ความรู้ ความสามารถ นำเสนอสู่ “ผู้มีอำนาจ” ชิงชัยเก้าอี้ ก่อนตัดสินในขั้นตอนสุดท้าย

4 ตัวเต็ง ลุ้นนั่งเก้าอี้แม่ทัพนครบาล จับตาโผสีกากี รับ 'โรดแม็ป คสช.'

คนแรก “บิ๊กบัว” พลตำรวจโทสุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.)

มาแรงแซงทุกโค้ง ตัวเก็งเต็งหนึ่ง “บิ๊กบัว” พลตำรวจโทสุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) หนึ่งในเพื่อนร่วมรุ่นคนสนิท "บิ๊กแป๊ะ" เพราะหลังจากขยับขึ้นเป็น “ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7” ครั้งล่าสุด ก็ได้ปรับย้ายมาในตำแหน่ง “ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง” ดูแลอาชญากรรมต่างชาติ คนต่างด้าว คุมด่านทั่วประเทศ รวมถึงสนามบินต่างๆ แต่นอกจาก ผบ.ตร.ต้องวางใจแล้ว  บิ๊กบัว ยังต้องผ่านด่าน ได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาลด้วยเช่นกัน จึงจะมีลุ้นขยับมาเป็น “แม่ทัพนครบาล”

"บิ๊กบัว" มีความสัมพันธ์อันดีกับตำรวจหลายหน่วยงาน เป็นพี่ชายที่ บิ๊กโจ๊ก พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล สนิทสนม ให้ความไว้วางใจ เป็นนายตำรวจมากฝีมือ ที่เพื่อนร่วม นรต.36 ยอมรับ และน่าจะมีเปอร์เซ็นต์ได้สิทธิ์ในการนั่งเก้าอี้ "แม่ทัพเมืองหลวง" มากสุดในเวลานี้ซะด้วยซ้ำไป  

4 ตัวเต็ง ลุ้นนั่งเก้าอี้แม่ทัพนครบาล จับตาโผสีกากี รับ 'โรดแม็ป คสช.'

...

คนที่สอง “บิ๊กโจ๊ก” พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว

ผลงาน-ชื่อเสียงในวงการสื่อ และยุทธจักรสีกากี เวลานี้ไม่มีใครไม่รู้จัก แม้ดีกรีความอาวุโสจะน้อยที่สุด เป็นนายร้อยตำรวจรุ่น 47 (นรต.47) แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า เขาคือดาวรุ่ง "นำรุ่น และแซงหลายๆ รุ่น" ในห้วงเวลานี้ผลงานการจับกุมทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แก๊งสกิมเมอร์ แก๊งคนดำ กวาดล้างจับคดีใหญ่ข้ามโลก  มีความสัมพันธ์อันดีกับตำรวจสากล และทูตนานาประเทศ มีบทบาทสำคัญถึงขั้นที่ว่าตำรวจสากลตบเท้าขอความช่วยเหลือบิ๊กโจ๊กกันหัวกระไดบ้านไม่แห้ง

แม้ “ตำรวจท่องเที่ยว” จะเพิ่งแยกตัวจากสอบสวนกลาง ก่อตั้งขึ้นเป็น “กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว” ได้ไม่นาน แต่ผลงานไม่น้อยหน้ากองบัญชาการใดๆ บิ๊กโจ๊ก กลับแข็งแกร่งยิ่งไปกว่า เพราะเป็นสายตรงของ “บิ๊กป้อม” พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี สนิทสุด ใกล้ชิดสุด และได้รับความไว้วางใจมากที่สุดในห้วงเวลานี้ ศึกชิงชัยนั่งเก้าอี้แม่ทัพเมืองหลวง แน่นอนว่าต้องมีชื่อ "พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล" เข้าร่วมลุ้นตำแหน่งอย่างแน่นอน

แต่หากให้พูดกันถึงความเป็นไปได้ ต่อให้ "บิ๊กโจ๊ก" จะอยู่ตำแหน่งไหน นั่งเก้าอี้ใดๆ อำนาจของเขาก็เต็มไม้เต็มมือ คุมทัพตำรวจหลายหน่วยงานไว้ด้วยกัน "โนสน โนแคร์ เก้าอี้แม่ทัพเมืองหลวง"... ที่สำคัญที่สุด พลตำรวจโทสาคร ทองมุณี ผู้บัญชาตำรวจท่องเที่ยว กำลังจะหมดวาระเดือนกันยายนนี้ แว่วมาว่า ประชาชนคนไทยเขาอยากจะให้ "บิ๊กโจ๊ก" ขึ้นเป็นผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ต่อเลยได้มั้ย เพราะผลงานที่ผ่านมาทำไว้ดีมากแล้ว

...

4 ตัวเต็ง ลุ้นนั่งเก้าอี้แม่ทัพนครบาล จับตาโผสีกากี รับ 'โรดแม็ป คสช.'

คนที่สาม บิ๊กปั๊ด พลตำรวจโทสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1

นักสืบรุ่นใหญ่ เพื่อนร่วมรุ่น นรต.36 ของบิ๊กแป๊ะอีกราย ลุยงานคดีใหญ่ เคียงบ่าเคียงไหล่กันออกสื่อเป็นระยะๆ "บิ๊กปั๊ด" ขึ้นผู้บัญชาการ จับงานความมั่นคงเป็น นั่งเก้าอี้ “ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล” ก่อนโยกมาคุมพื้นที่ดูแลปริมณฑลรอบกรุงเทพฯ ในตำแหน่ง “ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1” ที่สำคัญอย่างยิ่ง บิ๊กปั๊ด คุ้นเคยกับกองบัญชาการตำรวจนครบาลมาอย่างยาวนาน เคยเป็นผู้กำกับ สน.ลุมพินี และนั่งเก้าอี้ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลมาก่อน 

นอกจากนี้ บิ๊กปั๊ด ยังมีความสนิทสนมเป็นอย่างดีกับ “บิ๊กแดง” พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ ว่าที่ผู้บัญชาการทหารบก ที่เป็นตัวเต็งในขณะนี้ บิ๊กปั๊ด จึงมีคุณสมบัติพร้อมสรรพ กลายเป็นอีก 1 ผู้ท้าชิงรายชื่อคุมทัพเมืองหลวง ดีกรีพลัง ความสามารถ ก็เรียกได้ว่า เหมาะสมไม่น้อยหน้าใครๆ

คนสุดท้าย “รองหลวง” พลตำรวจตรีภาณุรัตน์ หลักบุญ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.)

...

นักเรียนนายร้อยรุ่น 41 คลุกคลีตีโมงในนครบาลมายาวนาน ตั้งแต่เป็น ผกก.สายตรวจ รอง ผบก.สปพ. จนขึ้นผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (ผบก.สปพ.) หรือ 191 ล่าสุดขึ้นนั่งเก้าอี้ รอง ผบช.น. ดูแลงานป้องกันปราบปราม และรับหน้าที่สำคัญคือ หัวหน้าศูนย์ ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ หรือ ศปจร.น.

4 ตัวเต็ง ลุ้นนั่งเก้าอี้แม่ทัพนครบาล จับตาโผสีกากี รับ 'โรดแม็ป คสช.'

"บิ๊กหลวง" สายตรง พลตำรวจเอกพัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. และถือเป็น 1 ในนายตำรวจที่ “บิ๊กแป๊ะ” ใช้งานอย่างต่อเนื่อง อาจจะดูมีเรี่ยวแรงน้อยกว่ารายอื่นๆ  แต่การลุ้นขึ้นผู้บัญชาการ “ตัวเลข” มีสิทธิ์ไม่น้อยทีเดียว คนมีความสามารถอย่าง บิ๊กหลวง จะภาค 1 ภาค 2 หรือ ภาค 5 ก็เชื่อเถอะว่าล้วนแล้วแต่สามารถทำประโยชน์ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติแทบทั้งสิ้น 

หากเทียบกับรองผู้บัญชาการรายอื่นๆ "บิ๊กหลวง" ถือเป็น "ขวัญใจสื่อมวลชนฟากฝั่งนครบาล" ทำงานประสานเข้าขากันดีกับสื่อมวลชน... นั่นน่ะสิ อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้  เพราะเอาจริงๆ ใครจะไปรู้ว่า "บิ๊กหลวง" อาจจะกลายเป็นม้ามืดตัวแรง แซงทุกตัวเก็ง และกลายเป็นหนึ่งเดียวที่ยึดครองเก้าอี้แม่ทัพนครบาลก็เป็นได้ 

**** นี่ถือเป็นแค่ 1 ใน 4 ตัวเลือกที่น่าสนใจกับเก้าอี้ “แม่ทัพเมืองหลวง” อาจจะเป็นในจำนวนนี้ หรืออาจมี “ม้ามืดกว่า” เพราะห้วงเวลา 3 เดือนจากนี้ไป เชื่อว่าผู้มีอำนาจจะเริ่มวางตัวผู้บัญชาการหลักๆ ไว้บ้างแล้ว.... เฮ้ออออ ลุ้นกันตัวโก่งตัวงอ และนี่ถือเป็นการจัดทัพสีกากีครั้งสุดท้าย ก่อนมีการเลือกตั้งตามโรดแม็ปกุมภาพันธ์ 2562 ตามที่รัฐบาล คสช.ประกาศไว้.

Police Community