รุกตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงใหม่ เล็ง "สุภัทร" นั่งเป็นประธาน
เมื่อวันที่ 24 ก.ค. พล.ท.โกศล ประทุมชาติ ที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาทุจริตภายในกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ตามที่ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ ได้มอบหมายให้สำนักนิติการ สำนักงานปลัด ศธ.ไปทำหนังสือสรุปตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยผู้เกี่ยวข้องในโครงการก่อสร้างศูนย์ศึกษาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำหรืออควาเรียม ของวิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ จ.สงขลา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) หลังคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงอควาเรียมสงขลาได้ตรวจสอบทั้งสองเฟสเสร็จเรียบร้อยแล้วนั้น จากการหารือกับสำนักนิติการของ สป.ศธ.แล้วพบว่า ในขั้นตอนของการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยน่าจะยุ่งยาก เพราะมีผู้เกี่ยวโยงหลายหน่วยงาน และข้อมูลก็ไม่ได้โยงใยผู้กระทำความผิดอย่างชัดเจน จึงทำให้ไม่สามารถระบุผู้กระทำความผิดได้ ส่งผลให้การตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยไม่สามารถทำได้ เพราะไม่ได้มีการตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงไว้ตั้งแต่แรก ดังนั้น จึงมีทางออกในเรื่องนี้ 2 แนวทาง คือ ใช้อำนาจ รมว.ศธ.ในการชี้มูลความผิดโดยอาศัยข้อมูลจากสำนักนิติการ สป.ศธ. และอีกแนวทางหนึ่ง ให้มีการตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงใหม่
“ผมว่าเราน่าจะยอมนับหนึ่งใหม่ด้วยการตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงใหม่ โดยประธานคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงผมมอง ดร.สุภัทร จำปาทอง เลขาธิการ กกอ.เอาไว้ และจะให้เลือกกรรมการสืบสวนด้วยตัวเอง” ที่ปรึกษา รมว.ศธ.กล่าว
พล.ท.โกศล กล่าวอีกว่า แม้จะต้องนับหนึ่งใหม่ในการสืบสวนข้อเท็จจริง แต่ก็คาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน เพราะมีข้อมูลจากการตรวจสอบของคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงไว้แล้ว ส่วนจะใช้แนวทางไหนนั้นในวันที่ 25 ก.ค.จะนำเรื่องดังกล่าวหารือกับ รมว.ศธ.พิจารณาอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้วเมื่อสรุปผลการสืบข้อเท็จจริงเสร็จสิ้นแล้ว จะนำผลการสืบสวนข้อเท็จจริงที่ได้เสนอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อขอใช้อำนาจในการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย เนื่องจากมีบุคคลที่เกี่ยวข้องหลายสังกัดทั้งอยู่ในและนอก ศธ. โดยนายกฯ สามารถใช้อำนาจแต่งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยเป็นชุดเดียวทั้งหมด หรือจะแยกตามสังกัดก็ได้.
...