ทนายเจมส์ แจง เรื่องกฎหมายค้ำประกัน ชี้ การเซ็นสัญญาค้ำประกันเมื่อไหร่ไม่สำคัญ แต่อยู่ที่ว่าลูกหนี้ผิดชำระหนี้เมื่อไหร่...

จากกรณี ครูวิภา ยอมเป็นผู้ค้ำประกัน กยศ. ให้ลูกศิษย์ 60 คน ได้มีการศึกษา แต่สุดท้ายกลับโดนทรยศกว่าครึ่ง ต้องถูกยึดบ้านเป็นหนี้เกือบล้าน (อ่านข่าว-ครูวิภา มีเมตตา ค้ำประกันกยศ. ให้นักเรียน 60 คน สุดท้ายถูกยึดบ้าน )

ทางด้าน ทนายเจมส์ นิติธร แก้วโต เปิดเผยกับไทยรัฐออนไลน์ว่า เท่าที่อ่านเชื่อว่าคนนี้มีจิตวิญญาณของความเป็นครูเยอะมาก ไม่น่าโดนแบบนี้ ขณะที่เบื้องต้นกฎหมายค้ำประกันนั้น สัญญาค้ำประกันเซ็นเมื่อไหร่ก็แล้วแต่ไม่สำคัญ แต่สำคัญที่ว่าลูกหนี้ผิดชำระหนี้เมื่อไหร่

"เนื่องจากสัญญาค้ำประกันจะมีผลบังคับก็ต่อเมื่อ ลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้แล้วเท่านั้น เพราะฉะนั้นต้องดูว่าลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้เมื่อไหร่ ถ้าลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้หลังจากพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับแล้ว เจ้าหนี้จะต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติตามกฎหมายค้ำประกันอันใหม่ของปี 2558"

อย่างไรก็ตาม กฎหมายค้ำประกันฉบับใหม่ปี 2558 มีสาระสำคัญ คือ 1.ห้ามใช้คำว่า 'ลูกหนี้ร่วม' ในสัญญา 2.การค้ำประกันต้องเขียนกำหนดวงเงิน หากไม่กำหนดวงเงินสัญญาถือเป็นโฆษะ 

สำหรับ กฎหมายค้ำประกันฉบับใหม่ยังมีสิ่งที่น่าสนใจ คือ ลำดับของการชำระหนี้ เนื่องจากในสัญญากู้เงินต่างๆ จะเขียนว่ายอมรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วม แต่สัญญาค้ำประกันฉบับใหม่ ห้ามใส่คำว่า 'ลูกหนี้ร่วม' ในสัญญาค้ำประกัน หากมีถือเป็นโฆษะทันที ซึ่งผลของคำว่าลูกหนี้ร่วม ทำให้เจ้าหนี้มีสิทธิที่จะเลือกว่าจะยึดทรัพย์ใครก่อนหลังได้ เพราะฉะนั้นกฎหมายฉบับใหม่ประกาศใช้ กลายเป็นคำว่า ลูกหนี้ร่วม ห้ามใส่ ผลคือต้องบังคับชำระหนี้เป็นลำดับชั้น นั้นคือต้องบังคับชำระหนี้จากลูกหนี้ก่อน ถ้าลูกหนี้ไม่มีทรัพย์ให้ยึด ค่อยยึดทรัพย์ของผู้ค้ำประกัน

...

ส่วนอีกกรณี หากลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้ เจ้าหนี้ต้องแจ้งให้ผู้ค้ำประกันทราบภายใน 60 วัน ถือเป็นหน้าที่ของเจ้าหนี้ เนื่องจากกฎหมายไม่ต้องการให้ผู้ค้ำประกัน รับผิดชอบเรื่องของดอกเบี้ยเยอะ ซึ่งหากรู้เรื่องก่อนก็จะไปชำระหนี้ก่อนโดยที่ดอกเบี้ยยังน้อย เพราะฉะนั้นหากเจ้าหนี้ไม่บอกให้ผู้ค้ำประกันทราบภายใน 60 วัน เจ้าหนี้จะมีสิทธิได้ดอกเบี้ยจากผู้ค้ำประกันแค่ 60 วัน ดอกเบี้ยที่เลยจะไม่มีสิทธิได้รับ

นอกจากนี้ คุณครูสามารถเอาผิดจากนักเรียนได้หมดทุกคน แต่ต้องย้อนกลับไปดูก่อน ว่าการผิดนัดชำระหนี้มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ หากผิดนัดชำระหนี้ก่อนกฎหมายฉบับใหม่ใช้บังคับ แล้วมีการฟ้องคดีกัน สามารถที่จะบังคับหนี้ใครก่อนก็ได้ แต่ถ้าเกิดเป็นกฎหมายฉบับเก่าต้องแสดงหลักฐานให้ได้ก่อน ว่าคุณยึดอายัดทรัพย์ของลูกหนี้ชั้นต้นไม่ได้ จึงมายึดทรัพย์ของผู้ค้ำประกัน ซึ่งหากมายึดทรัพย์ของผู้ค้ำประกันโดยที่ไม่มีสิทธิ สามารถร้องขอให้เพิกถอนการยึด จนกว่าจะตามยึดทรัพย์ของลูกหนี้ชั้นต้นให้เป็นที่พอใจศาลว่าไม่มีจริง จึงจะมีสิทธิกลับมายึดทรัพย์ของผู้ค้ำประกันขายทอดตลาดได้.