ทีมแพทย์ สกาย ดอกเตอร์ นำ ฮ. บินรับตัวเด็ก 7 ขวบ ป่วยไข้สูง-ชักเกร็ง พ่อต้องแบกข้ามเขา 1 วัน มาขอหมอ บ้านเลตองคุ จ.ตาก ช่วย ก่อนประเมินอาการ แล้วพาตัวออกจากพื้นที่อีก 10 ชม. มาขึ้น ฮ.ส่ง รพ. ...
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 24 กรกฎาคม 2561 ทีมแพทย์และพยาบาลชุดสกาย ดอกเตอร์ (sky doctor) โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้รับการประสานขอเฮลิคอปเตอร์ พร้อมทีมแพทย์ เพื่อไปรับตัวผู้ป่วยฉุกเฉิน เป็นเด็กชายชาวกะเหรี่ยง วัย 7 ปี ที่บิดาพาเดินลุยป่าข้ามเขามา 1 วัน มาขอความช่วยเหลือ ที่สุขศาลาพระราชทาน บ้านเลตองคุ ต.แม่จัน อ.อุ้มผาง จ.ตาก ซึ่งตั้งอยู่แนวชายแดนไทยเมียนมา ติดกับรัฐกะเหรี่ยงของเมียนมา
ทั้งนี้ เด็กชายคนดังกล่าว มีอาการป่วยมาประมาณ 10 วัน โดยมีอาการอาเจียน มีไข้ อ่อนเพลีย ไม่มีแรง ช่วง 3 วันที่ผ่านมา อาการหนักขึ้น จนชักเกร็ง ผู้ปกครองจึงอุ้มแบก ลัดเลาะมาตามไหล่เขา ใช้เวลานานกว่า 1 วัน เพื่อมาขอรับการรักษาที่ สุขศาลาพระราชทานบ้านเลตองคุ
จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ประจำสุขศาลาฯ ได้แจ้งอาการผู้ป่วยไปยัง รพ.อุ้มผาง เพื่อประเมินอาการ ก่อนจะนำผู้ป่วยเด็กรายนี้ออกจากพื้นที่ โดยใช้รถไถพันโซ่ที่ล้อ เพื่อลุยออกมาจากป่า ใช้เวลานานมากกว่า 10 ชั่วโมง เนื่องจากขณะนั้นมีฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้เส้นทางในป่าถูกตัดขาดมานาน กว่า 1 เดือน
...
ในการดำเนินการครั้งนี้ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และแพทย์อำนวยการปฏิบัติการฉุกเฉิน (พอป.) ซึ่งเป็นแพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉิน ได้ประสานสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ และหน่วยบินตำรวจจังหวัดตาก นำเฮลิคอปเตอร์ รุ่นเบล แบบ 205 A-1 หมายเลขเครื่อง 1721 มี พ.ต.ท.นครินทร์ ทองอินทร์ และ ร.ต.อ.สุรเชษฐ์ กุศลธรรมรัตน์ นักบินที่ 1 และที่ 2 พร้อมด้วยช่างเครื่อง 2 นาย พาทีมสกายดอกเตอร์
ประกอบด้วย พญ.ศิวนาฏ พีระเชื้อ แพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉิน นายพิทักษ์ ย้อยดี พยาบาลวิชาชีพ และนายณรงค์ ชนชีวารัตน์ เจ้าพนักงานเวชกิจฉุกเฉิน ยกตัวจาก หน่วยบินตำรวจตาก อ.เมือง จ.ตาก บินข้ามเทือกเขานถนนธงชัย ผ่านผืนป่าอุ้มผาง ไปยังบ้านเลตองคุ ชายแดนไทยเมียนมาด้าน อ.อุ้มผาง จ.ตาก ใช้เวลาบินเต็มกำลัง เพื่อหลีกเลี่ยงกลุ่มเมฆฝนที่กำลังก่อตัว ใช้เวลาไปกลับ 90 นาที กระทั่งลำเลียงผู้ป่วยมาถึงยังสนามกีฬา อบจ.ตาก โดยมีทีมกู้ชีพ อบจ.ตาก รอรับ พร้อมส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ในความดูแลของ แพทย์เฉพาะทางด้านกุมารเวชกรรมอย่างใกล้ชิดตามหลักมนุษยชนต่อไป.