เสมา 1 ฟันทิ้งพวกไม่กลัวกฎหมาย แจงแนวทางสางหนี้แม่พิมพ์

พล.ท.โกศล ประทุมชาติ ที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาทุจริตภายในกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ตนได้เดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ภาคอีสานตอนบน เพื่อไปติดตามความก้าวหน้าในการแก้ไขปัญหาทุจริตต่างๆของ ศธ.ตามที่ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ มอบหมายให้ดำเนินการ ซึ่งในพื้นที่ดังกล่าวบางจังหวัดก็มีการแก้ไขปัญหาทุจริตตามนโยบายของ ศธ.ด้วยดี แต่ก็ยังพบบางจังหวัดที่ปัญหาทุจริตยังมีอยู่และยังไม่ยอมแก้ปัญหา เหมือนกับไม่เกรงกลัวกฎหมาย ดังนั้น ตนจึงขอทำสัญญาใจกับพื้นที่ต่างๆ หากยังมีการทุจริตเกิดขึ้นอีกก็ให้ถือว่าเป็นศัตรูต่อกัน เพราะ นพ.ธีระเกียรติจริงจังกับเรื่องนี้มาก ซึ่งการทุจริตไม่ควรจะเกิดขึ้นในแวดวงการศึกษา เพราะถือว่าเราเป็นหน่วยงานบ่มเพาะเด็กและเยาวชนให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคตไม่ควรจะมีเรื่องทุจริตเกิดขึ้น

ที่ปรึกษา รมว.ศธ. กล่าวอีกว่า ตนยังได้ย้ำเรื่องการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูก่อนที่จะมีปฏิญญามหาสารคามเกิดขึ้นว่า ที่ผ่านมา ศธ.ได้เดินหน้าแก้ไขปัญหาหนี้สินครูไปแล้วอย่างไรบ้าง เช่น สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) และธนาคารออมสิน ได้ทำบันทึกข้อตกลงร่วมกันเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาหนี้สินของสมาชิกการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) และสมาชิกการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา ในกรณีคู่สมรสถึงแก่กรรม (ช.พ.ส.) ตามนโยบายของรัฐบาล โดยสำนักงาน สกสค.ขอไม่รับเงินสนับสนุนจากธนาคารออมสินตามข้อตกลงเดิม แต่ให้นำเงินดังกล่าวประมาณปีละ 2,000 กว่าล้านบาทไปลดอัตราดอกเบี้ยให้แก่ลูกหนี้ที่มีวินัยทางการเงินดี ซึ่งครูกว่า 4 แสนคนที่เป็นลูกหนี้ที่ดีจะได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยตั้งแต่เดือนมิ.ย.เป็นต้นไป

...

ดังนั้น การแก้ปัญหาหนี้ครูถือว่าเรากำลังเดินหน้าไปได้ด้วยดี อีกทั้งสมาชิก ช.พ.ค.จำนวน 450,000 คน ในจำนวนนี้มี 370,000 คน ได้เข้าโครงการแก้ปัญหาหนี้ครูไปแล้ว ส่วนจำนวนที่เหลือเป็นหนี้แบบไตรมาส คือ ค้างชำระหนี้ ซึ่ง ศธ.และธนาคารออมสินกำลังอยู่ระหว่างปรับโครงสร้างหนี้ให้ เพื่อจะได้ไม่ถูกฟ้องร้อง และเท่าที่ทราบก็มีกลุ่มครูเข้าไปติดต่อดำเนินการแล้ว แต่ก็มีบางกลุ่มไม่สนใจจะแก้ปัญหาตัวเอง ซึ่งก็คือกลุ่มที่ออกมาเรียกร้องในขณะนี้.