"ผู้ว่าเมืองกาญจน์" ห่วงน้ำท่วมสังขละบุรี รุดดูความแข็งแรง “สะพานมอญ” เร่งช่วยเหลืออพยพชาวบ้านเสน่ห์พ่อง 300 ครัวเรือน พร้อมประกาศเป็นเขตภัยพิบัติแล้ว
ความคืบหน้าน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่อำเภอสังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 20 ก.ค.61 นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมนางรชยา ภูมิสวัสดิ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี เดินทางลงพื้นที่ อำเภอสังขละบุรี เพื่อแก้ไขสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่จำนวนมาก โดยมี พ.อ.พิเชษฐ์ หัสดีผง รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า และ นายปกรณ์ กรรณวัลลี นายอำเภอสังขละบุรี ร่วมรายงานสถานการณ์ผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลากเข้าพื้นที่ต่างๆ
ต่อจากนั้น นายจีระเกียรติ ได้เดินทางเข้าดูสภาพน้ำท่วมบริเวณสะพานรันตี และรีบเดินทางไปที่สะพานไม้อุตตมานุสรณ์ (หลวงพ่ออุตตมะ) หรือ สะพานมอญ ที่มีปริมาณขยะและกอสวะขนาดกว้าง 40-50 เมตร ปริมาณน่าจะเกิน 20 ตัน ที่ลอยตามกระแสน้ำมาติดที่ตอม่อสะพานจำนวนมากจนชาวบ้านหวั่นจะเกิดปัญหาต่อความมั่นคงแข็งแรงของสะพาน ซึ่งนายจีระเกียรติสั่งการให้หน่วยงานต่างระดมกำลังคน และเรือหางยาวช่วยกันขนย้ายขยะเพื่อเปิดทางย้ำมิให้กระทบกับตอม่อสะพาน ซึ่งคาดว่าใช้เวลาไม่น้อยกว่า 5 ชั่วโมง
...
นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า สาเหตุของการเกิดอุทกภัยน้ำป่าไหลหลากขึ้น เนื่องจากหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่อ่อนกำลังลงจากพายุดีเปรสชั่น “เซินติญ” ปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน แต่ยังส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ขณะที่ จ.กาญจนบุรี มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ในพื้นที่หมู่ 2, 3, 4, 5, 6, 8 และ 10 ต.หนองลู และหมู่ 1, 2 และ 3 ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งทำให้บ้านเรือน ทรัพย์สิน และพื้นที่การเกษตรของประชาชนได้รับความเสียหาย
เบื้องต้นจึงประกาศให้พื้นที่ดังกล่าวข้างต้นเป็นเขตให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน เพื่อให้ส่วนราชการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กระทรวงการคลังกำหนด ทั้งนี้ต้องไม่เกิน 3 เดือน นับแต่วันเกิดภัย
นายจีระเกียรติ กล่าวต่อว่า เบื้องต้นได้ประชุมเตรียมความพร้อม รวมทั้งแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เตรียมความพร้อม เพื่อเข้าช่วยเหลือเหตุอุทกภัยและดินถล่ม พร้อมทั้งให้ถือปฏิบัติตามแนวทางของแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด โดยสรุปเบี้องต้นสถานที่เกิดอุทกภัย หมู่ที่ 2,3,4,5,6,8,10 ต.หนองลู และ หมู่ที่ 1,2,3, ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ราษฎรได้รับความเสียหาย 400 ครัวเรือน พื้นที่และทรัพย์สินทางการเกษตร 300 ไร่ ถนนเสียหาย 2 สาย และตนจึงเดินทางมาอำนวยการช่วยเหลือในพื่นที่อำเภอสังขละบุรีด้วยตนเอง
ซึ่งสภาวะที่กังวลต้องเร่งแก้ช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่หมู่ที่ 1 บ้านเสน่ห์พ่อง ต.ไล่โว่ ,หมู่ 4 บ้านห้วยกบ ,หมู่ 6 บ้านห้วยมาลัย และหมู่ 8 บ้านซองกาเรีย ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี พบมีบ้านเรือนราษฎรได้รับความเดือดร้อนหลายร้อยหลังคาเรือน ทาง ปภ.จังหวัด ได้ลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือแล้ว
ขณะที่น้ำได้เข้าท่วม 2 ตำบล คือ ต.หนองลู และ ต.ไล่โว่ รวมทั้งสิ้น จำนวน 9 หมู่บ้าน และดินถล่มกีดขวางเส้นทางการจราจร 10 จุด และไม่สามารถเดินทางผ่านได้ 4 จุด
ส่วน นายปกรณ์ กรรณวัลลี นายอำเภอสังขละบุรี เปิดเผยว่า ได้สั่งให้ประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวงดท่องเที่ยวบนสะพานมอญชั่วคราวพร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่นำเชือกไปขึง พร้อมให้เจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดงเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งขอความร่วมมือนั่งท่องเที่ยวงดกิจกรรมท่องเที่ยวทางน้ำทุกประเภท เพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุและความสุขเสีย เนื่องจากช่วงนี้กระแสน้ำแรง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเมื่อเวลา 21.30 น. พ.อ.เรืองศักดิ์ อรรคทิมากูล รอง ผบ.กกล.รส.จว.ก.จ.(มทบ.17) พร้อม จ.ส.อ.สมชาย รักษาวงค์ และ ชป.อ.สังขละบุรี ประสาน ส่วนราชการ อ.สังขละบุรี เทศบาลตำบลวังกะ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม และชมรมเรือบริการท่องเที่ยว ร่วมมือในการปฏิบัติภารกิจนำซากเศษไม้ออกจากสะพานไม้อุตตมานุสรณ์ เนื่องจากในกรณีเกิดฝนตกหนักติดต่อกันมาหลายวัน ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก จากต้นน้ำซองกาเรีย และได้พัดพาซากเศษไม้และต้นไม้มาติดบริเวณสะพาน ซึ่งขณะนี้ทุกส่วนได้ระดมกำลังกันอย่างเต็มที่ ซึ่งผลการปฏิบัติ จากการร่วมมือกันนำซากเศษไม้ออกได้จำนวนหนึ่ง แต่ยังมีเศษไม้ท่อนใหญ่มาเป็นระยะๆ ซึ่งยังต้องเฝ้าระวังและติดตามอย่างต่อเนื่องต่อไป.