เรื่องราวความผูกพันในถ้ำ ระหว่าง 13 หมูป่า กับหมอภาคย์ และพี่ๆ ซีล ตลอด 9 วัน เหมือนครอบครัว กินนอนด้วยกัน เด็กๆ สุดช็อกรู้ข่าวจ่าแซม เหมือนเป็นต้นเหตุทำให้ครอบครัวจ่าแซมต้องเดือดร้อน...
เมื่อช่วงเย็นวันที่ 18 ก.ค. ในการแถลงข่าวเป็นครั้งแรกของทีมหมูป่าทั้ง 13 คน ผ่านรายการเดินหน้าประเทศไทย “ตอนส่งหมูป่ากลับบ้าน” ซึ่งมีช่วงหนึ่ง พ.ท.นพ.ภาคย์ โลหารชุน หรือหมอภาคย์ เปิดเผยถึงแผนการพา 13 หมูป่าออกจากถ้ำหลวง หลังพบเจอตัว ว่า ได้ให้ทางกองอำนวยการวางแผนพาออกไป ไม่คิดว่าจะพาออกทางหน้าถ้ำที่เข้ามา ในตอนแรกอยากให้เจาะโพรง ซึ่งน่าจะปลอดภัยกว่า
ส่วนความทรงจำระยะ 9 วันที่อยู่ด้วยในถ้ำ ต้องมีการแบ่งปันดูแลซึ่งกันและกัน และตนก็มีลูก จึงรู้สึกเอ็นดูเด็กๆ โดยอยู่ด้วยกันเหมือนครอบครัว
ขณะพี่ใบเตย หนึ่งในซีล เข้าไปช่วยดูแลเด็กพร้อมหมอภาคย์ กล่าวว่า ในการทำงานต้องดำเนินการต่อไปเรื่อยๆ เพราะ ผบ.หน่วยซีล บอกว่าถ้าไม่ได้ก็ไม่ต้องออกมา และตนคิดว่าภารกิจนี้ต้องสำเร็จ เมื่อเจอเด็กๆ จึงรีบไปเข้าไปอย่างเร็ว มีการทดสอบกำลังใจเด็กๆ ว่าสู้หรือไม่ หลังจากนั้นได้แก้ผ้า เพราะในเสื้อมีพาวเวอร์เจล มีผ้าห่มฟอยล์ ยารักษาโรค ไฟฉาย รวมทั้งถ่านทั้งหมด เพื่อแจกจ่ายผ้าห่มฟอยล์ให้เด็กๆ ห่ม ซึ่งต้องนำมาปูพื้นด้วย ถ้าไม่มีอะไรมารองจะนอนไม่ได้ เพราะพื้นถ้ำชื้น จึงให้ของเด็กๆ ทั้งหมด ส่วนตัวเองนำฟอยล์ส่วนหนึ่งทำเป็นชุดเกาะอก
ด้านโค้ชเอก กล่าวว่า ช่วงที่อยู่ในถ้ำกับหมอภาคย์และหน่วยซีล มีความผูกพันเหมือนครอบครัว กินก็กินด้วยกัน นอนก็นอนด้วยกัน เช่นเดียวกับเด็กๆ ในทีมหมูป่าบอกว่า มีความรู้สึกว่าพี่ใบเตยเหมือนพ่อ เพราะเรียกพวกตนว่าลูก รู้สึกดีกับพี่ใบเตย มีการหาอะไรให้ทำ มีการเล่าเรื่อง เล่นหมากฮอสด้วยกัน
...
ส่วนเรื่องจ่าแซมเสียชีวิต โค้ชเอกกล่าว รู้สึกเสียใจ และประทับใจจ่าแซมที่ยอมเสียสละชีวิตเพื่อปกป้องหมูป่าทั้ง 13 คน และตอนแรกเมื่อรู้ว่ามีคนสละชีวิตให้เรา ซึ่งทุกคนมีอาการช็อกและเสียใจมาก เหมือนเป็นต้นเหตุทำให้ครอบครัวจ่าแซมต้องเดือดร้อน และได้มีการเขียนข้อความบนภาพวาดจ่าแซมถึงความในใจถึงครอบครัวจ่าแซม เพื่อแสดงความเสียใจ ขอให้จ่าแซมสู่สุคติ ขอขอบคุณที่เสียสละ ขอให้จ่าแซมหลับให้สบาย.