ชาวนาคือกระดูกสันหลังของชาติ ทุกข์ของชาวนาคือทุกข์ของแผ่นดิน เป็นปัญหาอมตะนิรันดร์กาล วันนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของรัฐบาล คสช. ประกาศว่ามีแนวความคิดให้เกษตรกรเป็นอาชีพที่มั่นคงเทียบเท่าข้าราชการ หรือลูกจ้างเอกชนที่มีสวัสดิการรองรับ โดยใช้กองทุนสวัสดิการตาม พ.ร.บ.กองทุนสงเคราะห์เกษตรกร 2554

รัฐมนตรีเกษตรฯชี้แจงว่า ในปัจจุบันมีเงินในกองทุนอยู่กว่า 2,900 ล้านบาท และในแต่ละปีรัฐบาลทุ่มเงินช่วยเหลือเกษตรกรที่มีปัญหาถึง 2 แสนล้านบาท แต่กองทุนสวัสดิการเกษตรกรน่าจะใช้งบน้อยกว่า และเชื่อว่าจะแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน ปัญหาของเกษตรกรได้แก่การลงทุนสูง แต่รายได้ตอบแทนต่ำ ราคาสินค้าตกต่ำ สภาพดินฟ้าอากาศ ผลผลิตไม่ตรงกับที่ตลาดต้องการ

กองทุนจะให้ความช่วยเหลือเกษตรกร หากมีปัญหาราคาตกต่ำ หรือประสบภัยพิบัติ เพื่อเป็นแรงจูงใจให้เกษตรกรปลูกพืช ตามแผนของกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งเป็นการผลิตที่ตรงกับความต้องการของตลาด และไม่ใช่กระทรวงเกษตรฯเท่านั้น แม้แต่กระทรวงพาณิชย์ก็ประกาศแผนอุ้มชาวนาในด้านสินเชื่อ เพื่อดึงข้าวออกจากระบบ 9.5 ล้านตัน เพื่อรักษาระดับราคา

ย้อนหลังกลับไปเมื่อหลายทศวรรษก่อน เกษตรกรเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ และเกษตรกรส่วนใหญ่คือชาวนา จึงมีคำกล่าว “ชาวนาเป็นกระดูกสันหลังของชาติ” และ “ทุกข์ของชาวนาคือทุกข์ของแผ่นดิน” แต่ปัจจุบันเกษตรกรไม่ใช่ประชากร ส่วนใหญ่ของประเทศ เพราะมีประมาณ 25 ล้านคน จากประชากรทั้งหมดราว 66 ล้านคน เกษตรกรจึงเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุด

แต่เกษตรกรเป็นกลุ่มที่มีรายได้ต่ำ เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มอาชีพอื่นๆในวงการอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม หรือภาคบริการ และชาวนาไทยมีผลผลิตข้าวต่อไร่เพียง 448 กก.ต่อไร่ ส่วนชาวนาเวียดนามมีผลผลิตข้าว 862 กก.ต่อไร่ ผลผลิตข้าวของไทยต่ำกว่าผลผลิตเฉลี่ยของโลก คือ 680 ต่อไร่ ซ้ำยังราคาตกต่ำ แต่ก็มีทั้งชาวนาจน และชาวนารวยเป็นส่วนน้อย

...

ทุกรัฐบาลต่างพยายามแก้ปัญหาชาวนา โดยเฉพาะปัญหาราคาข้าวตกต่ำ เนื่องจากชาวนามีอยู่ถึงประมาณ 18 ล้านคน 4.8 ล้านครอบครัว เป็นเกษตรกรกลุ่มใหญ่สุด รัฐบาลใช้ทั้งนโยบายพยุงราคาข้าว ประกันราคาข้าว หรือรับจำนำข้าว แม้แต่รัฐบาล คสช. ก็ใช้นโยบายรับจำนำยุ้งฉาง แต่ทุกนโยบายไม่สามารถแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน หาเสียงมากกว่า

รัฐบาล คสช.ชอบประกาศนโยบายที่ห้าวหาญ เช่น รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ประกาศว่าคนจนจะหมดไปจากประเทศไทย ภายในปี 2561 จนถึงขณะนี้ล่วงเลยมากว่าครึ่งปีแล้ว ไม่ทราบว่ายังยืนยันอยู่หรือเปล่า ขณะที่รัฐมนตรีเกษตรฯ ประกาศจะทำให้เกษตรกรเป็นอาชีพที่มั่นคงเทียบเท่าข้าราชการ ขอให้ประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหาทุกข์ของแผ่นดิน.