สาวชาวอเมริกันขับรถตกหน้าผาริมทะเลในแคลิฟอร์เนีย แม้เธอรอดชีวิตมาได้แต่ต้องติดอยู่ใต้ผานานถึง 7 วันก่อนจะมีคนมาเจอและช่วยเธอเอาไว้ได้...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า น.ส. แองเจลา เฮอร์นันเดซ ชาวรัฐโอเรกอน อายุ 23 ปี ขับรถยนต์จี๊ป เอสยูวี ของเธอเสียหลักตกลงไปจากหน้าผาริมทะเลแห่งหนึ่งในเมือง บิ๊กซูร์ รัฐแคลิฟอร์เนีย แต่เธอไม่ตาย และเอาชีวิตรอดมาได้ด้วยการดื่มน้ำประทังชีวิตที่ใต้หน้าผา จนกระทั่งมีคนมาพบตัวในอีก 7 วันต่อมา
เจ้าหน้าที่สำนักงานนายอำเภอเขต มอนเทอเรย์ เคาน์ตี บอกกับสำนักข่าวบีบีซีว่า น.ส.เฮอร์นันเดซรอดมาได้ด้วยการใช้หม้อน้ำจากรถของเธอ สูบถ่ายเทน้ำจากอ่าวเล็กๆ ที่อยู่ใกล้ๆ ก่อนที่ในวันศุกร์ (13 ก.ค.) นักเดินป่าจะเห็นรถของเธอในสภาพกึ่งจมในทะเล และพบเธออยู่ใต้หน้าผา โดยเธอยังมีสติและเดินได้ แต่มีบาดแผลที่ไหล่ รวมถึงมีอาการคล้ายสมองกระทบกระเทือน
...
น.ส. เฮอร์นันเอซบอกกับเจ้าหน้าที่สืบสวนว่า ในวันเกิดเหตุ เธอกำลังขับรถจากบ้านของเธอในเมืองพอร์ตแลนด์ไปหาพี่สาวที่นคร ลอสแอนเจลิส แต่เธอหักรถหลบสัตว์ตัวหนึ่งบนถนน ‘ไฮเวย์ 1’ ซึ่งเป็นถนนริมทะเลที่มีชื่อเสียงของแคลิฟอร์เนีย จนรถตกหน้าผา
ด้านนายจอห์น ธอร์นเบิร์ก โฆษกสำนักงานนายอำเภอเขต มอนเทอเรย์ ระบุว่าเฮอร์นันเดซโชคดีมากที่รอดชีวิตมาได้ “ปกติแล้วพวกเขาจะตายเพราะตกหน้าผา หรือไม่ก็น้ำทะเล แต่เธอโชคดีที่รอดมาได้ทั้ง 2 อย่าง”