พ่อเมืองภูเก็ตแจงยอดเงินเยียวยาญาติผู้เสียชีวิตเหตุเรือล่มกลางอันดามันแล้วกว่า 61 ล้านบาท ที่เหลือรอพิสูจน์เอกสารจ่ายเงินเพิ่ม ด้านผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ร่วมตรวจท่าเทียบเรือผู้ประกอบการเรือโดยสาร เตรียมชงใช้ ม.44แก้ปัญหามาตรฐานความปลอดภัย หวังกู้ภาพลักษณ์เมืองท่องเที่ยว ขณะที่ทหารเรือผนึกกำลังนักดำน้ำจีนกู้ศพสุดท้ายติดซากเรือมรณะได้แล้ว หลังใช้ความพยายามมาเกือบ 10 วัน
จากโศกนาฏกรรมเรือ “ฟีนิกซ์ พีซีไดวิ่ง” ถูกคลื่นซัดอับปางกลางทะเลอันดามัน บริเวณเกาะเฮ อ.เมืองภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวชาวจีนเสียชีวิตถึง 47 ศพ หลังเกิดเหตุทีมกู้ภัยทางทะเลพบศพแล้ว 46 คน เหลืออีก 1ศพติดอยู่ใต้ซากเรือยังนำขึ้นมาไม่ได้ ขณะที่หลายหน่วยงานร่วมบูรณาการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น หวังกู้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตกลับคืนมา หลังมีนักท่องเที่ยวชาวจีนผวามาตรการความปลอดภัยยกเลิกจองห้องพักในช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค.กว่า 7,300 ห้อง ล่าสุดอธิบดีกรมเจ้าท่าสั่งย้ายผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ตที่มีหน้าที่รับผิดชอบออกจากพื้นที่
ต่อมาเวลา 10.00 น. วันที่ 15 ก.ค. ที่ศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยเรือล่มจังหวัดภูเก็ต ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายนรภัทร ปลอดทอง ผวจ.ภูเก็ต พร้อม พล.ร.ท.สมนึก เปรมปราโมทย์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 และ พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภ.จ.ภูเก็ต ร่วมกันแถลงถึงความคืบหน้าการกู้ศพผู้ประสบภัยที่เหลืออีก 1 ศพว่า การกู้ร่างผู้เสียชีวิตรายที่ 47 วันนี้หากกู้ได้จะนำมาขึ้นที่ท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต ก่อนนำไปพิสูจน์ยืนยันอัตลักษณ์บุคคล ส่วนอีก 46 ศพ ดำเนิน–การเสร็จหมดทุกขั้นตอนแล้ว
พล.ร.ท.สมนึกกล่าวว่า การปฏิบัติการกู้ร่างผู้เสียชีวิตจากใต้ท้องเรือฟีนิกซ์เมื่อวานนี้ได้นำทีมงานทั้งหมดทั้งกองทัพเรือของไทยและฝ่ายจีนไปดำเนินการตั้งแต่เช้า พบการดำน้ำมีข้อจำกัด สภาพแวดล้อมของทรายบริเวณใกล้ร่างผู้เสียชีวิตที่มีความอัดแน่น ทำให้ยากต่อการกู้ร่าง ต้องใช้เวลา แต่ยังมีความเชื่อว่าวันนี้ (15 ก.ค.) น่าจะดำเนินการสำเร็จ โดยจะทำอย่างเต็มที่ เมื่อเช้าไปให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ท่าเรือและพบกับทีมชุดดำน้ำของจีน ทัพเรือภาคที่ 3 ขอให้ความเชื่อมั่นว่าได้ดำเนินการอย่างเต็มที่ เต็มความสามารถจนกว่าจะกู้ร่างขึ้นมาได้
...
ด้านนายนรภัทรกล่าวถึงการเยียวยาผู้ประสบภัยเรือล่มว่า บริษัทกรุงเทพประกันภัยและบริษัทไทยศรีประกันภัยจ่ายเงินเยียวยาเรียบร้อยแล้ว 29 คน ประกอบด้วย ค่าสินไหมทดแทน โดยบริษัทกรุงเทพประกันภัยจ่ายให้กับญาติผู้เสียชีวิต 29 ราย รายละ 1 ล้านบาท เป็นเงิน 29 ล้านบาท และบริษัทไทยศรีประกันภัยจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับญาติผู้เสียชีวิต 29 ราย รายละ 1 แสนบาท นอกจากนี้ ในส่วนกองทุนเยียวยานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ (กรณีพิเศษ) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาให้ผู้ได้รับผลกระทบแล้ว 52 ราย เป็นเงิน 29,328,000 บาท แบ่งเป็นกรณีเสียชีวิตจ่ายให้ญาติ 29 ราย เป็นเงิน 29 ล้านบาท กรณีฟื้นฟูจิตใจจำนวน 12 ราย รายละ 20,000 บาท รวมเป็นเงิน 240,000 บาท และเงินช่วยเหลือเยียวยากรณีหยุดชะงักการเดินทาง 11 ราย เป็นเงิน 88,000 บาท รวมเงินค่าชดเชยทั้งหมด 61,228,000 บาท ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการรอเอกสารเพิ่มเติม
ต่อมาในช่วงสาย นายนรภัทร ปลอดทอง ผวจ.ภูเก็ต พล.ร.ต.สมนึก เปรมปราโมทย์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 นางศิรวี วาเล๊าะ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต และนายสาคร ปู่ดำ นักวิชาการขนส่งชำนาญการ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบท่าเทียบเรือรัษฎา เพื่อดูระบบความปลอดภัยของผู้ประกอบการเรือโดยสาร และเรือท่องเที่ยว โดย พล.ร.ท.สมนึกเปิดเผยว่า กองทัพเรือได้ส่งกำลังพลมาช่วยเจ้าหน้าที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ตในการดูแลอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวในพื้นที่ โดยจัดเรือใน ศรชล. เขต 3 รวมทั้งเรือของกองทัพเรือร่วมกันลาดตระเวน และประจำอยู่บริเวณที่มีนักท่องเที่ยวเพื่อแจ้งเตือนภัยให้เรือกลับเข้าฝั่ง
“ปัญหาที่พบขณะนี้คือ เรือมีหลายประเภท รวมทั้งไกด์เรือแต่ละลำมีไม่เท่ากัน จึงต้องกำหนดมาตรฐานเรื่องไกด์ที่จะควบคุมดูแลนักท่องเที่ยวให้สามารถดูแลนักท่องเที่ยวได้อย่างทั่วถึง เรื่องไกด์หรือล่ามจำเป็นมากสำหรับนักท่องเที่ยว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะประชุมกันเรื่องที่เกี่ยวกับกฎหมายและกำหนดมาตรการต่างๆต่อไป ส่วนมาตรการเร่งด่วนขณะนี้จะใช้อำนาจ ผวจ.ภูเก็ต ดำเนินการไปก่อนชั่วคราว โดยมีผมเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน ในขั้นต้นอำนาจใดที่ ผวจ.สามารถดำเนินการได้ก็ให้จัดการไปก่อนในรูปเฉพาะกิจ แต่หากมีปัญหาจริงๆจะเสนอส่วนกลาง หรือขอบังคับใช้มาตรา 44” ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 กล่าว
พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภ.จ.ภูเก็ต กล่าวถึงการดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องเหตุเรือล่มว่า หลังจาก น.ส.วรลักษณ์ ฤกษ์ชัยกาล อายุ 26 ปี กรรมการผู้จัดการเรือฟีนิกซ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต เข้ามอบตัวตามความผิดในข้อหา “กระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายโดยสาหัสและเสียชีวิต” และให้การปฏิเสธ พนักงานสอบสวนนำไปควบคุมไว้ที่ สภ.ฉลอง เพื่อเร่งสอบสวนหาความเกี่ยวโยงถึงบุคคลอื่นที่กระทำผิดร่วมด้วย หากหลักฐานพาดพิงถึงใครก็จะดำเนินคดีทั้งหมดไม่มีข้อยกเว้น และพรุ่งนี้ (16 ก.ค.) จะนำผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลจังหวัดภูเก็ต
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ชุดกู้ภัยทางทะเลทัพเรือภาคที่ 3 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของจีนนำทีมนักดำน้ำไปกู้ร่างผู้เสียชีวิตรายสุดท้ายที่ติดอยู่ใต้ซากเรือฟีนิกซ์เกือบ 10 วัน แต่ยังไม่สามารถนำศพขึ้นได้ เนื่องจากเจออุปสรรคคลื่นลมแรง ล่าสุดเจ้าหน้าที่ร่วมกันปฏิบัติการถึงเวลา 19.00 น. จึงนำศพที่ติดอยู่บริเวณหัวเรือขึ้นมาได้ เป็นนักท่องเที่ยวชายชาวจีน สภาพขึ้นอืด ก่อนนำกลับเข้าฝั่งเพื่อรอพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลต่อไป
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเรื่อง “ทัวร์ศูนย์เหรียญต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทย” ระหว่างวันที่ 10-12 ก.ค. จากประชาชนทุกภูมิภาคจำนวน 1,268 หน่วยตัวอย่าง พบร้อยละ 17.59 ระบุว่ามีผลกระทบมากที่สุด ร้อยละ 58.36 มีผลกระทบมาก ร้อยละ 14.91 ไม่ค่อยมีผลกระทบ และร้อยละ 7.96 ไม่มีผลกระทบเลย เพราะไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย นักท่องเที่ยวให้ความสนใจสถานที่ท่องเที่ยวมากกว่า ด้านความเชื่อมั่นต่อการบริหารจัดการภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต พบว่าร้อยละ 5.44 มีความเชื่อมั่นมากที่สุด ร้อยละ 51.03 มีความเชื่อมั่นมาก ร้อยละ 33.99 ไม่ค่อยมีความเชื่อมั่น ร้อยละ 5.91 ไม่มีความเชื่อมั่นเลย เพราะส่วนราชการไม่มีความโปร่งใส ละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่ ไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวม
...