สุดเหี้ยม ไอซิส อ้างรับผิดชอบ เหตุระเบิดฆ่าตัวตายกลางเวทีหาเสียงเลือกตั้งในปากีสถาน ตายสลด 128 ราย บาดเจ็บระนาว ขณะที่อดีตนายกฯ ชารีฟ พร้อมบุตรสาวโดนจนท.รวบคาเครื่องบินที่ลาฮอร์
เมื่อ 14 ก.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน กลุ่มติดอาวุธสุดโหด ‘รัฐอิสลาม’ หรือไอซิส ออกโรงอ้างความรับผิดชอบ อยู่เบื้องหลังก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายสุดเหี้ยม ส่งสมาชิกเดนตายปลดชนวนระเบิดกลางฝูงชนที่กำลังนั่งฟังการปราศรัยหาเสียงเลือกตั้ง ที่เมืองมัสทุง จังหวัดบาลูชิสถาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศปากีสถาน เมื่อวันศุกร์ที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตสลดอย่างน้อย 128 ศพ บาดเจ็บกว่า 150 คน จนนับเป็นเหตุระเบิดฆ่าตัวตายครั้งร้ายแรงที่สุดในปากีสถาน นับตั้งแต่ปี 2557 เลยทีเดียว
รอยเตอร์ระบุว่า เหตุระเบิดฆ่าตัวตายสุดโหดที่เมืองมัสทุง นับเป็นเหตุโจมตีรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งในปากีสถาน เป็นครั้งที่สอง ต่อจากเหตุระเบิดในระหว่างมีการหาเสียงเลือกตั้งที่เมืองบันนู ทางภาคเหนือ ดับ 4 ศพ โดยเหตุระเบิดทั้งสองครั้ง เกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียดในประเทศที่สูงขึ้น นับตั้งแต่อดีตนายกรัฐมนตรีนาวาซ ชารีฟแห่งปากีสถาน ตัดสินใจจะกลับประเทศ ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปในปากีสถานจะมีขึ้นในวันที่ 25 ก.ค.
...
บีบีซี แจ้งว่า หลังเกิดเหตุระเบิดสะเทือนขวัญที่เมืองมัสทุงตายเกลื่อนอย่างน้อย 128 ศพ ไม่นานนัก นายกรัฐมนตรีชารีฟ และบุตรสาว ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าควบคุมตัวถึงบนเครื่องบินโดยสาร หลังจากเครื่องบินได้ลงจอดที่สนามบินในเมืองลาฮอร์เมื่อคืนวันที่ 13ก.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายชารีฟและบุตรสาวขึ้นเครื่องบินเดินทางมายังกรุงอิสลามาบัด เมืองหลวง และเมื่อถึงแล้ว เจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวอดีตนายกรัฐมนตรีชารีฟและบุตรสาวคุมขังในเรือนจำทันที
ทั้งนี้ นายนาวาซ ชารีฟ อดีตนายกรัฐมนตรีปากีสถานได้ถูกศาลตัดสินจำคุก 10 ปี ในข้อหาคอร์รัปชัน เมื่อวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา พร้อมกับยังถูกปรับเงิน 8 ล้านปอนด์ (ประมาณ 351 ล้านบาท) จากข้อหาซื้ออพาร์ตเมนต์หรู 4 แห่ง ในกรุงลอนดอน ซึ่งจะต้องถูกยึดด้วย อย่างไรก็ตาม นายชารีฟ อดีตนายกรัฐมนตรี 3 สมัย ไม่ได้มาปรากฏตัวที่ศาล รับฟังคำพิพากษา ก่อนจะตัดสินใจเดินทางกลับมาและถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวส่งเข้าเรือนจำในที่สุด