สื่อต่างชาติเผย สตูดิโอผู้สร้างภาพยนตร์ฮอลลีวูดลงพื้นที่บริเวณถ้ำหลวง เพื่อเก็บข้อมูลสำหรับใช้สร้างภาพยนตร์แล้ว หลังจากเด็กๆ และโค้ชทั้ง 13 ชีวิตได้รับความช่วยเหลือออกจากถ้ำอย่างปลอดภัย...
เว็บไซต์ข่าว โกลบอลนิวส์ (globalnews) ของประเทศแคนาดา รายงานในวันที่ 10 ก.ค. ว่า ปฏิบัติการช่วยเหลือนักฟุตบอลเยาวชนทีม ‘หมูป่าอะคาเดมี’ 12 คนและโค้ชอีก 1 คน ออกจากถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน ในอ.แม่สาย จ.เชียงราย ประสบความสำเร็จแล้วในวันอังคาร หลังจากเป็นข่าวที่ทั้งโลกจับตามองมาตลอดกว่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ล่าสุดมีแววว่าเหตุการณ์นี้อาจถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ด้วย เหมือนเหตุการณ์คนงานเหมืองชาวชิลี 33 คนติดอยู่ใต้ดินนานถึง 69 วันเมื่อปี 2553 ซึ่งถูกทำเป็นภาพยนตร์ในอีก 5 ปีต่อมาในชื่อ ‘The 33’ นำแสดงโดย อันโตนิโอ แบนเดอราส เจ้าของบทบาท ‘หน้ากากโซโร’ ผู้โด่งดัง
...
นายไมค์ เมดาวอย ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ The 33 กล่าวว่า เหตุการณ์ที่ถ้ำหลวงแสดงให้เห็นความกล้าหาญในชีวิตจริงต่อหน้าสถานการณ์อันเลวร้าย และเป็นไปได้ที่เรื่องราวนี้จะถูกเปลี่ยนเป็นภาพยนตร์หรือซีรีส์ทางโทรทัศน์ ณ ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง
ขณะเดียวกันสำนักข่าว AAP ของออสเตรเลีย รายงานด้วยว่า ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์หลายคนจากสตูดิโอ ‘Pure Flix’ ซึ่งชำนาญการสร้างภาพยนตร์แนวครอบครัวและศาสนา ได้ลงพื้นที่ถ้ำหลวงเพื่อสัมภาษณ์หาข้อมูลสำหรับการสร้างภาพยนตร์ในเบื้องต้นแล้ว “ผมมองเห็นเรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ฮอลลีวูดฟอร์มใหญ่ ที่มีดาราเกรดเอ (A) มาร่วมแสดง” นายไมเคิล สกอตต์ หุ้นส่วนผู้จัดการของ Pure Flix บอกกับ AAP
อย่างไรก็ตาม การนำเหตุการณ์ที่ถ้ำหลวงไปสร้างเป็นภาพยนตร์ทางผู้สร้างต้องเผชิญความท้าทายหลายอย่าง เช่นการขอความยินยอมจากพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กๆ ทุกคนซึ่งมีอายุระหว่าง 11-16 ปี, ความยินยอมจากโค้ช และทีมกู้ภัยทุกคนที่พวกเขาต้องการระบุถึงในภาพยนตร์เพื่อให้ได้ข้อมูลเรื่องสิ่งที่เกิดขึ้น นอกจากนี้การจำลองฉากกู้ภัยในถ้ำก็อาจต้องใช้งบประมาณมากด้วย เพราะฉากดำน้ำมักใช้เงินเยอะเสมอ