รัฐบาลจัดยิ่งใหญ่ 11 ริ้วขบวน “บรมธาตุพุทธศิลป์แผ่นดิน พระทรงธรรม” เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาส สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 66 พรรษา อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประดิษฐาน เคลื่อนจากลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ไปยังมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ในวันที่ 22 ก.ค.นี้
ที่กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) วันที่ 9 ก.ค.นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม กล่าวภายหลังประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดโครงการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ ว่า เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงเจริญพระชนมพรรษา 66 พรรษา 28 กรกฎาคม 2561 และเนื่องในสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา รัฐบาลได้มอบหมายให้ วธ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา ระหว่างวันที่ 22-28 ก.ค.นี้ โดยแสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองทางพระพุทธศาสนาในประเทศไทยที่ยาวนานถึง 1,400 ปี อีกทั้งน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระมหากษัตริยาธิราช ของไทยทุกพระองค์ ตลอดจนเทิดทูนสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงเป็นพุทธมามกะ และอัครศาสนูปถัมภก ทรงปกครองประเทศด้วยหลักทศพิธราชธรรม
รมว.วัฒนธรรมกล่าวอีกว่า กิจกรรมหลักที่จัดขึ้น เป็นการจัดริ้วขบวน “บรมธาตุพุทธศิลป์แผ่นดิน พระทรงธรรม” ซึ่งจำลองศาสนสถานที่สำคัญของประเทศ พร้อมอัญเชิญพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ พระบรมสารีริกธาตุ และสัญลักษณ์ทางพระพุทธศาสนาใน 5 ยุค เรียงตามระยะเวลาของยุคต่างๆ ได้แก่ ทวาราวดี ล้านนา สุโขทัย อยุธยา และรัตนโกสินทร์ มาประดิษฐานบนรถขบวน จำนวน 11 ริ้วขบวน เคลื่อนจากลานพลับพลา มหาเจษฎาบดินทร์ ถนนราชดำเนิน ไปยังมณฑลพิธี ท้องสนามหลวง ในวันที่ 22 ก.ค.นี้ ประกอบด้วย ขบวนที่ 1 ธรรมจักรยาตรา อัญเชิญธงธรรมจักร ธง ฉัพพรรณรังสี และวงล้อธรรมจักร ซึ่งแสดงถึงสัญลักษณ์ทางพระพุทธศาสนา ขบวนที่ 2 เทียนพรรษาเสริมศาสน์ ขบวนแห่เทียนพรรษาที่แกะสลักอย่างวิจิตรงดงามด้วยช่างฝีมือไทยชั้นเยี่ยม ขบวนที่ 3 บรมนาถทวาราวดี รถขบวนจำลองโบราณสถานวัดคูบัว จ.ราชบุรี ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่ค้นพบ โบราณสถานคูบัว และพระพุทธรูปประทับนั่งห้อยพระบาท ศิลปะยุคทวาราวดี รวมทั้งมีใบเสมาที่บอกเล่าเรื่องราวทางพุทธประวัติ
...
นายวีระกล่าวอีกว่า ขบวนที่ 4 เสริมศรีโคตรบูรณ์ รถขบวนจำลองพระธาตุพนม ประดิษฐานหลวงพ่อ พระใส วัดโพธิ์ชัย จ.หนองคาย ขบวนที่ 5 เจิดจำรูญศรีวิชัย รถขบวนจำลองเจดีย์พระบรมธาตุไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยนาคปรกวัดเวียง ขบวนที่ 6 ไตรภพลพบุรี รถขบวนจำลองพระปรางค์สามยอด จ.ลพบุรี ประดิษฐานพระพุทธรูปทรงเครื่องปางนาคปรก ขบวนที่ 7 ธรรมวิถีล้านนา รถขบวนจำลองพระธาตุลำปางหลวง จ.ลำปาง ประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์ จ.เชียงใหม่ และพระบรมสารีริกธาตุที่ค้นพบใน จ.ตาก ขบวนที่ 8 เชิดบูชาสุโขทัย รถขบวนจำลองเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ ภายในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย และประดิษฐานพระพุทธชินราช จ.พิษณุโลก และพระบรมสารีริกธาตุที่ค้นพบใน จ.สุโขทัย ขบวนที่ 9 เกษมสมัยอยุธยา รถขบวนจำลองเจดีย์พระศรีสรรเพชญ์ จ.พระนครศรีอยุธยา ประดิษฐานพระพุทธรูปทรงเครื่องวัดหน้าพระเมรุ และพระบรมสารีริกธาตุที่ค้นพบในวัดมหาธาตุ จ.พระนครศรีอยุธยา บรรจุในผอบ 7 ชั้น ขบวนที่ 10 ธรรมมารัตนโกสินทร์ รถขบวนจำลองพระศรีศากยะทศพลญาณ พระพุทธรูปปางลีลา จากพุทธมณฑล และพระศรีรัตนเจดีย์ ภายในพระศรีรัตนศาสดาราม และขบวนที่ 11 แผ่นดินศาสนูปถัมภก ขบวนเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 66 พรรษา ทั้งนี้ ในริ้วขบวนต่างๆ จะมีการแสดงระบำ โบราณคดี ที่ได้รับการฟื้นฟูขึ้นในแต่ละยุค ประกอบด้วย
“นับเป็นครั้งแรกที่มีการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมารวมกัน และเป็นการผสมผสานพุทธศิลป์ให้ประชาชนได้เรียนรู้ความเจริญรุ่งเรืองทางพระพุทธศาสนา ซึ่งสถาบันกษัตริย์และพุทธศาสนิกชนทำนุบำรุงและสืบทอดมาถึงปัจจุบัน ดังนั้น จึงขอเชิญชวนหน่วยงานต่างๆ และประชาชนตั้งโต๊ะหมู่บูชา ตลอดสองข้างทางที่ริ้วขบวนเคลื่อนผ่านจากลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ไปตามถนนราชดำเนิน สิ้นสุดที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง โดย วธ.จะประสานกับกรุงเทพมหานคร จัดพื้นที่ให้ประชาชนร่วมแต่งกายชุดสีขาว ร่วมสักการะริ้วขบวนต่างๆ พร้อมกันนี้ จะเปิดให้ประชาชนสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง จนถึงวันที่ 28 ก.ค. เพื่อน้อม สักการะถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองด้วย” รมว.วัฒนธรรมกล่าว