เริ่มวันนี้ สงครามการค้าสหรัฐฯกับจีน ประเดิมด้วยการ ขึ้นภาษีสินค้านำเข้า 25% ทั้งสองฝ่าย มูลค่าฝ่ายละ 34,000 ล้านดอลลาร์ 1.122 ล้านล้านบาท และจะเพิ่มเป็นฝ่ายละ 50,000 ล้านดอลลาร์ 1.65 ล้านล้านบาท เกจิการค้าโลกวิเคราะห์กันว่า อาจจะบานปลายไปถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ 33 ล้านล้านบาท ถ้า ประธานาธิบดีทรัมป์ ผู้นำที่เสียสติของสหรัฐฯ ยังไม่ลดความบ้าคลั่งลงมา ประเทศไทยก็หนีผลกระทบไม่พ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม แต่ กระทรวงพาณิชย์ ก็ยังเงียบเฉย ไม่ได้เตรียมรับมืออะไรเลย

สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน-ยุโรป-แคนาดา-เม็กซิโก ที่ ประธานาธิบดีทรัมป์ ก่อขึ้นรอบตัวครั้งนี้ ผมยกให้เป็น “มหาภารตะยุทธทางการค้า” ที่มีแต่ผู้แพ้ ไม่มีผู้ชนะ ประเทศที่จะพังมากที่สุดก็คือสหรัฐอเมริกา รากหญ้าอเมริกันจะลำบากกันถ้วนหน้า

เจ.พี.มอร์แกน สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่สหรัฐฯวิเคราะห์ว่า “Trumponomics” ระบบเศรษฐกิจแบบทรัมป์ ที่ยึดเอา “สหรัฐฯเป็นศูนย์กลางของโลก” เป็นนโยบายที่อันตราย เฉพาะ “มิถุนายน” เดือนเดียว นับตั้งแต่ทรัมป์ประกาศสงครามการค้ากับจีน มูลค่าหุ้นในสหรัฐฯหายไปแล้วกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ กว่า 33 ล้านล้านบาท นับตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา ได้ส่งผลกระทบเชิงลบต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯถึง 4.5% แปลงเป็นมูลค่าหุ้นของบริษัทสหรัฐฯที่หายไปสูงถึง 1.25 ล้านล้านดอลลาร์ 41.25 ล้านล้านบาท

สงครามมหาภารตะยุทธการค้าจีนสหรัฐฯ แค่กระบวนท่าแรกเศรษฐกิจการเงินสหรัฐฯก็พังไปแล้วกว่า 41 ล้านล้านบาท ยังไม่รู้อนาคตสหรัฐฯจะมีทางชนะสงครามนี้หรือไม่

นสพ.ไฟแนนเชียลไทม์ ของอังกฤษวิเคราะห์ว่า สงครามการค้าที่ ประธานาธิบดีทรัมป์ ก่อขึ้นครั้งนี้ อาจมีมูลค่าสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ 33 ล้านล้านบาท คิดเป็นมูลค่า 1 ใน 4 ของมูลค่าการค้าที่สหรัฐฯค้าขายกับทั่วโลกในปี 2017 ซึ่ง สหรัฐฯค้าขายกับทั่วโลก 3.9 ล้านล้านดอลลาร์ 128.7 ล้านล้านบาท คิดเป็น 6% ของมูลค่าการค้าโลกปี 2017 ที่มีมูลค่า 17.5 ล้านล้านดอลลาร์ 577.5 ล้านล้านบาท (ข้อมูลจากองค์การการค้าโลก)

...

แม้สงครามการค้ายกแรก สหรัฐฯกับจีนจะขึ้นภาษี 25% ในสินค้านำเข้า มูลค่า 34,000 ล้านดอลลาร์ แต่ในอนาคตจะเพิ่มเป็น 50,000 ล้านดอลลาร์ ตามเป้าที่ประกาศไว้ และเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ประกาศจะขึ้นภาษีสินค้าจีนอีก 200,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อตอบโต้จีนที่ตอบโต้สหรัฐฯ และจะเพิ่มอีก 200,000 ล้านดอลลาร์ ถ้าจีนยังตอบโต้อีก รวมแล้ว ประธานาธิบดีทรัมป์ ผู้นำที่บ้าคลั่งของสหรัฐฯจะขึ้นภาษีสินค้าจีน 450,000 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทยเวลานี้ก็ตกประมาณ 14.85 ล้านล้านบาท

ปี 2017 สหรัฐฯนำเข้าสินค้าจากจีนทั้งสิ้น 505,500 ล้านดอลลาร์ และ ส่งออกไปจีน 129,900 ล้านดอลลาร์ ถ้าสหรัฐฯขึ้นภาษีสินค้าจีน 450,000 ล้านดอลลาร์ จีนคงไม่ส่งสินค้าไปขายให้สหรัฐฯเลย ผมเชื่อว่าสหรัฐฯจะพังก่อนจีน เพราะเป็นเศรษฐกิจเสรี แต่จีนยังพยุงเอาตัวรอดได้ เพราะเป็นระบบคอมมิวนิสต์ รัฐบาลคุมทุกอย่าง

นสพ.ไฟแนนเชียลไทม์ ยังได้วิเคราะห์ถึง สงครามรถยนต์ Auto Wars ที่ ประธานาธิบดีทรัมป์ ประกาศจะ ขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์และชิ้นส่วน เปิดศึกกับ ยุโรป ญี่ปุ่น จีน รวมทั้ง ประเทศไทย สงคราม Auto Wars ครั้งนี้ แม้ผู้นำสหรัฐฯตั้งใจจะเล่นงานเยอรมนี แต่ก็ส่งผลกระทบต่อ ญี่ปุ่น จีน แคนาดา เม็กซิโก รวมทั้ง ไทย ที่ส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนไปขายสหรัฐฯด้วย

ทรัมป์ คงลืมไปว่า ปีที่แล้วสหรัฐฯนำเข้ารถยนต์ รถกระบะ อุปกรณ์ชิ้นส่วนรถยนต์มูลค่ารวม 334,800 ล้านดอลลาร์ มากกว่าที่สหรัฐฯผลิตได้เองทั้งประเทศ ถ้าไม่มีใครส่งรถยนต์ไปขายให้สหรัฐฯ ชาวอเมริกันที่ต้องพึ่งรถยนต์เป็นขาไปไหนมาไหน จะเป็นอย่างไร

ฟิทช์ เรตติ้ง บริษัทจัดอันดับยักษ์ใหญ่ประเมินว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับประเทศคู่ค้า ที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จะส่ง ผลกระทบต่อการค้าโลกกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ 66 ล้านล้านบาท ถ้ารัฐบาลไทยยังไม่เตรียมตัว ก็รอความหายนะได้เลย.

“ลม เปลี่ยนทิศ”