นางงามป้ายแดงของเวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018 ปีนี้ บอกได้คำเดียวว่า โปรไฟล์เริ่ด! ความสามารถของ 5 สาวผู้คว้ามงกุฎ ต่างไม่แพ้กัน ทั้งด้านวิชาการและไหวพริบ สมกับเป็นสาวรุ่นใหม่ ที่สวยอย่างมีสมอง และมีพลังบวกที่จะให้ใจกับ “สังคม” ส่วนรวม นำทีมโดย “นิ้ง-โศภิดา กาญจนรินทร์” สาวสวย สมองดี จบปริญญาตรีคณะ Business administration สาขา Finance จากยูนิเวอร์ซิตี้ ออฟ เนวาดา ลาสเวกัส เกียรตินิยมอันดับ 2 ผู้ที่มงลง!! คว้ามงกุฎมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018 ไปครอง เธอเป็นสาวรุ่นใหม่ที่เดินตามฝัน มีความมุ่งมั่นจนชนะใจกรรม การ ได้เผยถึงความสำเร็จในชีวิตครั้งนี้ว่า “รู้สึกภูมิใจที่สามารถทำตามฝันในชีวิตได้ ซึ่งความสำเร็จนี้แสดงให้เห็นถึงความอดทน และความมุ่งมั่นของคน อยากให้ความพยายามของนิ้ง เป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนเห็นว่า นิ้งทำ ได้ ทุกคนก็ทำได้”
สร้างความฝันของตัวเองสำเร็จแล้ว มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ คนล่าสุดนี้ ยังอยากสร้างฝันให้แก่คนอื่น ด้วยการเป็นจิตอาสา สร้างแรงบันดาลให้กับคนพิการและเด็กๆ โดยบอกว่า “นิ้งอยากสร้างโอกาสให้กับผู้พิการ ด้วยการช่วยรณรงค์ให้มีการจ้างผู้พิการทำงานมากขึ้น หรือรณรงค์เรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับผู้พิการ นอกจากนี้ยัง อยากสร้างแรงบันดาลใจให้แก่เด็กๆ ในเรื่องการศึกษา อยากไปเป็นสปีกเกอร์ให้ตามโรงเรียน เพราะนิ้งเคยเป็นเด็กที่เรียนไม่เก่งมาก่อน นิ้งเคยเป็นเด็กนักเรียนแลกเปลี่ยนต่างประเทศ ได้ไปอยู่ฟลอริดา แต่ภาษาไม่ผ่าน แล้วอาจารย์ที่นั่นบอกว่า นิ้งไม่สามารถเรียนโรงเรียนนี้ได้ หรือโรงเรียนอื่นในสหรัฐฯ นิ้งเลยเอาคำพูดนี้มาเป็นแรงผลักดันให้สู้ ต้องทำให้ได้ ภาษาเราไม่ดี ต้องทำให้ดีให้ได้ จนประสบความสำเร็จ ได้รับเหรียญทองจากประธานาธิบดี บารัค โอบามา สมัยเรียนมัธยม เลยอยากเป็นกำลังใจให้น้องๆ ที่ไม่ประสบความสำเร็จในการเรียน แต่ก็สามารถประสบความสำเร็จในชีวิตได้” นอกจากนี้ เธอยังได้ฝากกำลังใจไปยังจิตอาสาและทีมงานที่ให้การช่วยเหลือน้องๆ ทีมหมูป่า พร้อมทั้งบอกว่า เหตุการณ์นี้ทำให้ได้รู้ว่า คนไทยกลมเกลียวกัน มีน้ำจิตน้ำใจช่วยเหลือกันแค่ไหนเวลามีปัญหา
...
ส่วนสาวสวย “นุ๊ก-ฐิตารีย์ เกษร” รองอันดับ 1 มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018 นักศึกษาปี 4 ศิลปกรรมศาสตร์ ออกแบบแฟชั่น มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ซึ่งอยากนำความรู้ด้านศิลปะของตนเองมาต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ของเด็กๆโดยเล่าว่า มีความประทับใจจากการเคยไปสอนศิลปะเด็กบนดอยอยู่ 1 สัปดาห์ ได้เรียนรู้วิถีชีวิตและได้เห็นเด็กๆบนดอย มีความมุ่งมั่นมาก ข้ามภูเขากันมาเรียนอย่างตั้งใจ ถ้ามีโอกาสก็อยากเอาสิ่งที่ตนถนัดมาช่วยสังคม เพราะศิลปะเป็นอย่างหนึ่งที่สามารถต่อยอดทั้งจินตนาการและอารมณ์ ให้เด็กๆได้กล้าคิดและมีความคิดสร้างสรรค์
อีกหนึ่งสาวสวยมากความสามารถ พูดได้ถึง 5 ภาษา “พลอย-วาเลนตินา จาร์ดุลโล” โดยครองตำแหน่งรองอันดับ 2 เป็นสาวจิตอาสาเต็มตัว โดยบอกว่า ที่บ้านทั้งพ่อและแม่จะสอนให้ทำตัวให้เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น ทุกปีที่กลับมาเยี่ยมคุณยายที่เมืองไทย ก็มักจะ ไปทำบุญ และมีโอกาสไปเยี่ยมเด็กๆตาบอด แต่ที่เป็นจริงจังเมื่อพลอยได้ไปช่วยคนเนปาล โดยบินไปกับพี่ชายและลุง เพื่อเอายาไปให้คนในหมู่บ้านที่เขาไม่มีน้ำดื่ม ยาจึงเป็นสิ่งจำเป็น ส่วนที่เมืองไทยเคยคุยกับ “นิ้ง” เหมือนกัน เราอยากกระตุ้นให้เด็กๆมีความรู้สึกอยาก อยากที่จะทำนั่นทำนี่ แล้วพลอยก็อยากรณรงค์เรื่องการศึกษาที่เท่าเทียมด้วย
ด้านสาวหน้าหวาน “จุ๊บจิ๊บ-พลิตา พุทธรัสสุ” สาวสวยที่มีดีกรีปริญญาโท ด้านธุรกิจ จากประเทศอังกฤษ ผู้ครองตำแหน่งรองอันดับ 2 ของเวทีอันทรงเกียรตินี้ บอกว่า อยากส่งเสริมการศึกษาให้เด็กที่เข้าไม่ถึงระบบการศึกษา โดยเฉพาะเด็กๆที่อยู่ในถิ่นทุรกันดาร
...
ปิดท้าย สาวหน้าคม หุ่นนางแบบ “วีนา-ปวีนา ซิงห์” บัณฑิตศิลปศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ที่คว้ามงกุฎรองอันดับ 2 มีความสนใจที่แตกต่างออกไป โดยบอกว่า วีนา สนใจเรื่องการคุกคามทางเพศ อยากเปลี่ยนทัศนคติของสังคม โดยเฉพาะเรื่องการแต่งกายของผู้หญิง ไม่ว่าผู้หญิงจะแต่งตัวอย่างไร คุณก็ไม่มีสิทธิที่จะมาคุกคาม (ทางเพศ) ของคนอื่น.