คดีตำรวจท่องเที่ยวจับกุม น.ส.เหงียน ที เหย อายุ 56 ปี และ น.ส.เล ตี ตู เฮียน อายุ 34 ปี ชาวเวียดนาม ที่ด้านหน้าอาคารยิ้มยิ้ม เพลส ซอยชานเมือง 4 ถนนประชาสงเคราะห์ เขตดินแดง
เครือข่ายของแก๊งชาวเวียดนาม ได้ร่วมกันก่อเหตุลักทรัพย์ กรีดกระเป๋า ล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
กลุ่มแก๊งชาวเวียดนามเลือกผู้เสียหายที่เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ค่อยมาแจ้งความดำเนินคดี เนื่องจากต้องเดินทางกลับประเทศ แต่ชาวต่างชาติที่ตกเป็นเหยื่อได้นำเรื่องราวที่เกิดขึ้นไปโพสต์ ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทย
มีผลต่อการท่องเที่ยวไทย
หลังรับแจ้งข้อมูลเข้ามาที่ “สายด่วนตำรวจท่องเที่ยว 1155” พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1 บช.ทท.ได้จัดชุดตำรวจท่องเที่ยวสืบสวนหาข่าวพบความเชื่อมโยง น.ส.เล ตี ตู เฮียน เป็นผู้ก่อเหตุลักทรัพย์สินนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
ทรัพย์สินที่ลักมาได้นำไปขายให้กับ น.ส.เหงียน ที เหย อายุ 56 ปี เป็นผู้รับซื้อโทรศัพท์ ทรัพย์สินจากแก๊งล้วงกระเป๋าชาวเวียดนาม และเป็นผู้ที่จัดหาที่พักให้แก๊งล้วงกระเป๋าชาวเวียดนาม
น.ส.เล ตี ตู เฮียน มีประวัติเคยถูกดำเนินคดีตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ในความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์ผู้อื่น” ขณะนั้น น.ส.เล ตี ตู เฮียน ใช้ชื่อว่า น.ส.เหงียน ที ทู ตำ สัญชาติเวียดนาม และถูกกำหนดสถานะเป็นบุคคลต้องห้าม เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2560
ต้องห้ามเข้าประเทศไทย
น.ส.เล ตี ตู เฮียน ได้เดินทางออกนอกประเทศไทย ทำการเปลี่ยนชื่อ และหนังสือเดินทางใหม่ที่ประเทศเวียดนาม ก่อนใช้ชื่อ น.ส.เล ตี ตู เฮียน เตรียมที่จะมาก่อเหตุล้วงกระเป๋าในประเทศไทยอีกรอบ
...
แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวควบคุมตัวได้ก่อน และขอเพิกถอนหนังสือเดินทางผู้ต้องหา
แก๊งล้วงกระเป๋าชาวเวียดนาม ร่วมกันก่อเหตุลักทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ส่งผลในด้านความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว ความปลอดภัยในทรัพย์สิน
นับวันแก๊งชาวเวียดนามที่มาก่อเหตุ กรีด-ล้วงกระเป๋า นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ขยายพื้นที่ก่อเหตุไปเรื่อยๆ ไม่ได้เกรงกลัวกฎหมายไทยมี “นายหน้า” สนับสนุนจัดหาที่พัก และรับซื้อทรัพย์สินที่ถูกขโมยมา
ยึดแหล่งท่องเที่ยวหลักๆที่ชาวต่างชาตินิยมมาเที่ยว เป็นที่ทำมาหากินของแก๊งต่างด้าว
ทำความเสียหายให้คนไทย.
“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th