รวม12คนทุจริตโกงคนจน ขบวนการงาบงบปี59-60 เชือดเอาผิดฟอกเงินด้วย

ปปง.มีมติอายัดทรัพย์ “พุฒิพัฒน์” อดีตปลัด พม. พร้อมพวก รวม 12 คน ที่เกี่ยวข้องโกงเงินคนจน มูลค่า 88 ล้านบาท ขณะเดียวกันยังแจ้งความดำเนินคดีอาญาต่อทุกคน จากนั้นส่งตัวแทน ปปง.ร้อง ปปป.เอาผิดอดีตปลัด พม. และหญิงสาวคนสนิทกระทำผิดร่วมกันฐานฟอกเงิน ด้าน “บิ๊กโย่ง” ชี้เป็นเรื่องอาญาที่ ป.ป.ท. และ ป.ป.ช.ดำเนินการ ส่วน พม.จ่อฟันวินัยสรุปผลสิ้น มิ.ย.นี้ ด้าน “วัชระ” เชื่อมีไอ้โม่งตัวใหญ่กว่าอดีตปลัด พม.ร่วมงาบเงินคนจน ยก3 ข้อจี้ “บิ๊กตู่” เร่งปราบโกงใน พม.แบบถอนรากถอนโคน

ปปง.มีมติอายัดทรัพย์สินข้าราชการทุจริตต่อหน้าที่และผู้เกี่ยวข้องโกงเงินคนจน เผยขึ้นเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 13 มิ.ย. พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ วีริยาสรร รองเลขาธิการ รักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง. เผยว่าเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา คณะกรรมการธุรกรรมมีมติให้อายัดทรัพย์สินของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้แก่ นายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ อดีตปลัด พม. นายณรงค์ คงคำ อดีตรองปลัด พม. และนายธีรพงษ์ ศรีสุคนธ์ อดีตผู้ตรวจราชการ พม.กับพวก รวม 12 คน จำนวน 41 รายการ มูลค่าประมาณ 88 ล้านบาท หลังทุจริตยักยอกเงินช่วยเหลือคนยากไร้ โดยผู้ที่ถูกอายัดทรัพย์สามารถเข้าชี้แจงได้ที่ ปปง. ภายในระยะเวลา 90 วัน หลังถูกอายัด

“กลุ่มคนดังกล่าวกระทำความผิดอาญาฐานฟอกเงิน สำนักงาน ปปง. กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีอาญาความผิดฐานฟอกเงินกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ ขอแจ้งเตือนข้าราชการและเจ้าหน้าที่มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการทุจริตในหน้าที่ นอกจากจะถูกยึดหรืออายัดทรัพย์สินตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินแล้ว ผู้เกี่ยวข้องสัมพันธ์หรือนอมินีที่รับโอนทรัพย์สินจากผู้กระทำความผิดทุกคนอาจถูกลงโทษจำคุกในความผิดฐานฟอกเงินด้วย มีโทษจำคุก 10 ปีต่อการโอน หรือรับโอน 1 ครั้ง หากประชาชนพบเห็นบุคคลใดเกี่ยวข้องกับการทุจริตในหน้าที่ สามารถโทร.แจ้งสายด่วน ปปง.1710” พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์กล่าว

...

ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เมื่อเวลา 10.00น.วันเดียววัน นายวิทยา นีติธรรม เลขานุการกรม สำนักงานป้องกันปราบปรามการทุจริต (ปปง.) เข้าพบ พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป. เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษเอาผิดข้าราชการทุจริตโกงเงินผู้ยากไร้ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ใช้เวลาพูดคุยประมาณ 15 นาที

นายวิทยาเผยว่า มายื่นหนังสือร้องทุกข์กล่าว โทษกับ บก.ปปป. เพื่อเอาผิดนายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ อดีตปลัด กม. ในสมัยดำรงตำแหน่งเป็นอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ และร้องทุกข์กล่าวโทษอดีตข้าราชการหญิงคนสนิทนายพุฒิพัฒน์ หลัง ปปง.ตรวจสอบพบเส้นทางการเงินการทุจริตที่เกี่ยวข้องกัน นอกจากนี้ การวิเคราะห์ธุรกรรมการเงินของ ปปง.ยังพบเส้นทางการเงินของนายณรงค์ คงคำ อดีตรองปลัด พม. ในสมัยดำรงตำแหน่งเป็นรองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ และนายธีรพงษ์ ศรีสุคนธ์ อดีตผู้ตรวจราชการ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ กับพวกที่เกี่ยวข้อง รวม 12 คน

“รูปแบบเส้นทางการทุจริตเป็นงบประมาณปี 2559 -2560 หลังการอนุมัติงบประมาณช่วยเหลือครอบครัวผู้มีรายได้น้อยแล้ว จะทอนเงินคืนร้อยละ 30 รวมความเสียหายกว่า 80 ล้านบาท พบผู้ที่ทุจริตมีตั้งแต่ระดับผู้อำนวยการศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งประจำจังหวัดถึงอธิบดี ลักษณะเป็นการหิ้วเงินสดมาให้ไม่มีการโอนเงินเข้าบัญชีทำให้ตามตรวจสอบยาก แต่ ปปง.ได้ความร่วมมือจากอดีตข้าราชการและผู้เกี่ยวข้องในการทุจริตให้ปากคำเป็นประโยชน์และซักทอดถึงขบวนการผู้ต้องหา รวมถึงการให้ข้อมูลการฟอกเงินให้ทรัพย์สินอื่นๆแทน กระทั่ง ปปง.มีมติอายัดทรัพย์เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังจากนี้ ปปง.มีอำนาจอายัดทรัพย์ เพื่อตรวจสอบ 90 วัน แต่ผู้ถูกกล่าวหาสามารถนำหลักฐานมาชี้แจงกับ ปปง. หากทรัพย์สินใดที่ถูกอายัดไว้หามาได้โดยสุจริตภายใน 30 วัน นับจากวันที่ประกาศอายัด ส่วนการตรวจสอบเส้นทางการเงินโกงเงินคนจนนั้น ยังไม่พบว่ามีความเชื่อมโยงไปยังอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมฯแต่อย่างใด” นายวิทยากล่าว

ด้าน พล.ต.ต.กมลเผยว่า วันนี้นายวิทยามายื่นหนังสือและมาพูดคุยเรื่องการร้องทุกข์กล่าวโทษก่อน หลังจากนี้จะนัด ปปง.มาร้องทุกข์กล่าวโทษอย่างเป็นทางการวันที่ 19 มิ.ย.นี้ ยอมรับว่าคดีมีความซับซ้อนพอสมควร แต่ ปปง. ดำเนินการมาพอสมควรจนมีความชัดเจนมากขึ้น หลังจากนี้จะต้องขออนุมัติจากผบช.ก.ขออนุมัติให้ บก.ปปป. มีอำนาจสืบสวนสอบสวน จากนั้นจะตั้งคณะทำงานขึ้นมาประกอบด้วย ปปง. บก.ปปป. และ ป.ป.ท.เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนร่วมกันลงพื้นที่ติดตามผู้ต้องหาและอายัดทรัพย์สินตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงกรณีสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีมติยึดทรัพย์นายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ อดีตปลัด พม. นายณรงค์ คงคำ อดีตรองปลัด พม. และนายธีรพงษ์ ศรีสุคนธ์ อดีตผู้ตรวจราชการ พม.ว่า ข้อมูลที่นำมาสู่มติของ ปปง.นั้น พม.ไม่ได้ส่งให้ คาดว่าน่าจะเป็นข้อมูลจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รับผิดชอบในเรื่องคดีอาญา เราแบ่งการทำงานไม่ก้าวก่ายงานกัน ในส่วนของ พม.จะสอบสวนความผิดทางวินัยและพฤติกรรม อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงได้สอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหาผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการทุจริตไปแล้ว 12 คน แต่ยังไม่แจ้งข้อกล่าวหาบุคคลที่กันตัวไว้เป็นพยานอีก 15 คน จะต้องแจ้งข้อกล่าวหาและสรุปผลในส่วนนี้ ต้องรอให้เสร็จเรียบร้อยทั้งหมด 27 คน ถึงจะเปิดเผยรายละเอียดได้ เนื่องจากผู้ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาและพยานอาจจะมีหลักฐานเกี่ยวข้องกัน หากเปิดเผยรายละเอียดอาจจะเกิดความได้เปรียบเสียเปรียบด้านคดี คาดว่าจะสรุปผลทั้งหมดภายในสิ้นเดือน มิ.ย.นี้

ส่วนนายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการธุรกรรม ปปง.มีมติอายัดทรัพย์นายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ อดีตปลัด พม.กับพวก รวมมูลค่า 88 ล้านบาทว่า เป็นเพียงส่วนน้อยที่ติดตามพบ เพราะการทุจริตเงินผู้ยากไร้ คนขอทาน ผู้ป่วยเอดส์ ปีงบประมาณ 2559 และ 2560 ปีละ 600 ล้านบาท รวม 2 ปี 1,200 ล้านบาท มีการกระจายเงินไปศูนย์คนไร้ที่พึ่ง ศูนย์ชาวเขาทั่วประเทศ บางแห่งโอนไปถึง 20 หรือ 30 ล้านบาท แล้วทำโครงการผีทั้งหมด คาดว่าทุจริตมากกว่าร้อยละ 80 เงินไม่ตกถึงมือคนยากจน ผอ. ศูนย์คนไร้ที่พึ่งหรือหัวหน้าศูนย์ชาวเขาที่ทุจริต เขานำเงินส่งกลับคืนให้ผู้ใหญ่ในกรม เพื่อแลกกับการเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งเป็นซี 9 ส่วนอธิบดีก็ส่งส่วยให้กับผู้มีอำนาจเพื่อแลกกับตำแหน่งที่สูงขึ้น นี่คือระบบอุปถัมภ์ที่แฝงเร้นในกระทรวง พม.เชื่อว่าจะมีคนรับเงินทุจริตที่ใหญ่กว่านี้ แต่อดีตข้าราชการที่ถูกลงโทษจะกล้าเปิดเผยหรือไม่

...

นายวัชระกล่าวอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. ควรดูปัญหาอย่างจริงจัง อย่าคอยแต่รับฟังรายงานเท่านั้น เพราะ 1.การทุจริตเงินคนจน 2 ปีงบประมาณ คือปีงบประมาณ 2559 และ 2560 ปีละ 600 ล้านบาท ล้วนเกิดขึ้นในยุคของท่าน และในปีงบประมาณ 2561 การโอนงวดเงินของกรมพัฒนาสังคม งวดแรกก็ใช้ฐานตัวเลขเดียวกับปี 2559 และ 2560 ทุกแห่ง ส่อว่ามีการทุจริตเช่นกัน 2.กระทรวง พม.จงใจปกปิดข้อมูลไม่เปิดเผยข้อมูลข่าวสารจนถึงปัจจุบัน 3.ข้าราชการสตรีที่สุจริตเป็นพยานให้กับน้องแบม นศ.ฝึกงานที่ศูนย์คนไร้ที่พึ่ง จ.ขอนแก่น 2 คน ถูกกลั่นแกล้งโยกย้ายไปในจังหวัดที่ไกลกว่าเดิม พล.อ.ประยุทธ์ต้องช่วยเหลือให้ความเป็นธรรมโดยเร็ว ทำไมท่านไม่สร้างขวัญกำลังใจให้ความยุติธรรมกับข้าราชการที่ไม่โกง แต่ถูกกลั่นแกล้ง การกวาดล้างการทุจริตใน พม.ต้องกวาดล้างทั้งระบบอย่าละเว้น เพราะเท่าที่ทำอยู่ในขณะนี้ยังไม่ครบถ้วนตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ใครเป็นพวก คสช.เป็นแม่น้ำ 5 สาย ในยุคนี้ก็สบายไป