“พิชัย” มาแล้ว จวกจัดสรรงบปี 62 ทิ้งทวนก่อนเลือกตั้ง ไม่ได้คำนึงประโยชน์ประเทศ หั่นงบเพิ่มขีดความสามารถแข่งขัน มาโปะเพิ่มให้กองทัพ สูงถึง 20.14% ชี้ไม่เป็นผลดีกับเศรษฐกิจ...

เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลนำงบประมาณปี 2562 วงเงิน 3 ล้านล้านบาท เข้าสู่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งปรากฏว่างบประมาณทางความมั่นคงเพิ่มขึ้นเป็น 329.2 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 20.14% ในขณะที่งบประมาณเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกลับถูกลดลงเหลือ 406.5 แสนล้านบาท หรือลดลง 14.7% อีกทั้งงบพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และงบการจัดการน้ำและคุณภาพชีวิตก็ลดลง ซึ่งน่าจะเป็นการจัดงบประมาณที่ไม่ได้คำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของประเทศ แต่กลับไปคำนึงถึงประโยชน์ด้านอื่น แม้กระทั่งสื่อต่างประเทศยังวิจารณ์ว่าการเพิ่มงบกลาโหม เป็นการทิ้งทวนก่อนการเลือกตั้ง

ทั้งนี้ จากข้อมูลย้อนหลังพบว่า ตั้งแต่มีการปฏิวัติในปี 2549 จนถึงปัจจุบันงบกระทรวงกลาโหม เพิ่มสูงขึ้นสามเท่า เพิ่มจาก 85,936 ล้านบาทในปี 2549 มาเป็น 222,437 ล้านบาทในปี 2561 และในปี 2562 นายกรัฐมนตรีบอกงบความมั่นคงเพิ่มเป็น 3.3 แสนล้านบาท ในขณะที่กระทรวงอื่นที่สำคัญๆ เพิ่มน้อยกว่ามาก ยิ่งช่วงที่มีการปฏิวัติ จะเห็นว่างบกระทรวงกลาโหมยิ่งเพิ่มขึ้น

“นี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ 10 กว่าปีที่ผ่านมาการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยต่ำมาก โตเฉลี่ยเพียงประมาณ 3% กว่า ต่อปีเท่านั้น เพราะการจัดสรรงบไม่มีประสิทธิภาพ ทั้งรัฐบาลจากรัฐประหาร และรัฐบาลจากการเลือกตั้ง ก็พยายามเอาใจทหาร ไม่กล้าลดงบประมาณ หรือหยุดการเพิ่มงบทหาร ในขณะที่ความจำเป็นในการต่อสู้กับศัตรูของประเทศมีน้อยลง ถ้าประเทศไทยต้องการจะพัฒนาประเทศ งบกระทรวงกลาโหมจะต้องถูกตัดเพื่อนำมาใช้จ่ายในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญมากกว่า”

...

อย่างไรก็ตามพรรคเพื่อไทยเห็นว่าในอนาคตการรื้อโครงสร้างงบประมาณเดิมทั้งหมด เพื่อจัดสรรงบประมาณใหม่ โดยเรียงลำดับความสำคัญโดยคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศ การพัฒนาความสามารถแข่งขันของประเทศ และการเสริมสร้างการกินดีอยู่ดีให้กับประชาชน จะเป็นนโยบายหลักของพรรคเพื่อไทย เพื่อประโยชน์อย่างแท้จริงของประชาชน.