เสียดายเคยเป็นตำรวจมาก่อน! เจ้าตัวแถลงทวงบุญคุณ ‘บิ๊กแป๊ะ’ ‘มะปราง’ไปเคลียร์ บก.ปคบ.แล้ว

“บิ๊กตู่” ออกโรงจวก รับไม่ได้กับพฤติกรรมของ “สันธนะ ประยูรรัตน์” เสียดายที่เคยเป็นตำรวจ อย่าไปขยายความมาก พูดไปอาจโดนดูถูกอีกคน ขณะที่เจ้าตัวยังไม่หยุดออกมาแฉเบื้องหลังการตั้ง ผบ.ตร. อ้างเป็นตัวกลางเคลียร์ปัญหาให้ ส่วนนักแสดงสาว “มะปราง” หอบหลักฐานมาแสดงความบริสุทธิ์ใจกับตำรวจบก. ปคบ.แล้ว ยันทั้งหมดถูกต้อง ด้าน อย.เตรียมเล่นงานผลิตภัณฑ์สมุนไพรบำรุงภายในสตรี “หอยหวาน”หลังพบโฆษณาเกินจริง ไม่มีหลักฐานการขออนุญาตผลิต

กลายเป็นประเด็นร้อนหลังการตั้งโต๊ะแถลงข่าวของ พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจสังกัดสันติบาล เพื่อแฉเบื้องหลังของการเข้าตรวจค้นตลาดใหม่ดอนเมือง ที่เจ้าตัวเป็นที่ปรึกษาประธานกรรมการตลาด ระหว่างแถลงมีการโทรศัพท์ติดต่อขอคุยกับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. อ้างเหตุมีสัญญาใจกันอยู่ กระทั่งปลายสายตอบกลับระบุว่าติดภารกิจตามนายกรัฐมนตรีที่ จ.บุรีรัมย์ และจะติดต่อกลับมาภายหลัง จนทำให้หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตถึงจุดประสงค์แท้จริงของพฤติกรรมนายตำรวจจอมแฉ

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 8 พ.ค. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร.กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อไม่ให้ประชาชนเกิดความสับสน โดยตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 7 พ.ค. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.มีภารกิจเดินทางไปยัง จ.บุรีรัมย์ เพื่ออำนวยการรักษาความปลอดภัยและการจราจรของคณะรัฐมนตรี เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ ระหว่างภารกิจหากมีผู้ใดโทรศัพท์เข้ามาจะไม่รับสาย แต่เมื่อปฏิบัติภารกิจเสร็จหรือว่างเว้นจากภารกิจจะโทร.กลับไปยังหมายเลขที่ไม่ได้รับสายทุกหมายเลข ในเวลานั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ติดต่อกลับไปและเพิ่งทราบเป็นหมายเลขโทรศัพท์ของ พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ จึงเเจ้งให้ทราบว่าติดภารกิจอยู่ที่ จ.บุรีรัมย์ จากนั้นวางสายไปโดยไม่ได้สนทนาเพิ่มเติม จากภาพข่าวที่ปรากฏอยากเตือน พ.ต.ท.สันธนะอย่าบิดเบือนข้อเท็จจริง ในส่วนที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ไม่ได้สนทนา อาจทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนหรือเข้าใจผิด นอกจากนี้ ฝากแจ้งให้ประชาชนทราบว่า หมายเลขโทรศัพท์ของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ สามารถโทร.ร้องทุกข์ได้ตลอดเวลา หากติดภารกิจไม่ได้รับสาย จะทยอยโทร.กลับไปยังทุกหมายเลขที่ติดต่อเข้ามา ก่อนมอบหมายให้ทีมงานติดต่อขอข้อมูลมาตรวจสอบเพื่อดำเนินการต่อ

...

อีกด้าน ที่ตลาดใหม่ดอนเมือง พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ เปิดแถลงข่าวเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ว่า จริงๆ ไม่อยากแถลงโต้รายวัน แต่ทางรอง โฆษก ตร.ไม่หยุด จึงต้องออกมาพูดอย่างลูกผู้ชายว่า ท่าน ผบ.ตร.สมัยเป็น รอง ผบ.ตร.ปี 58 เตรียมถูกเสนอชื่อเป็น ผบ.ตร.คนต่อไป ช่วงนั้นท่านกระหน่ำโทร.หาตน แต่ตนไม่ได้รับสาย เมื่อโทร.กลับไปจึงรู้ว่าเป็นท่านและท่านเชิญไปหาที่สำนักงาน เพื่อให้ติดต่อคนหนึ่งเพื่อเคลียร์ปัญหาบางอย่าง กระทั่งสามารถ ติดต่อให้คุยกัน ต่อมาท่านได้เป็น ผบ.ตร.คิดว่าท่านทำงานมานานคงเหนื่อย เลยลืมอะไรไปบางอย่าง

“การแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ ขั้นตอนต้องเสนอชื่อรอง ผบ.ตร.เข้าไป หากรอง ผบ.ตร.คนใดคนหนึ่ง มีปัญหา คนอื่นก็ต้องได้เป็น ผบ.ตร. ผมจึงไปช่วยเคลียร์ให้ท่านจักรทิพย์จะได้ไม่มีข้อปัญหา แล้วท่านก็ได้เป็น ผบ.ตร.สมใจ ผมเป็นแค่ประชาชนคนธรรมดา จะกล้าไปทวงอะไร แต่ถ้า 3 ผ่ามือ หรือ 3 นายพลนี้ยังไม่หยุดหรือไม่ให้คนอื่นมาเล่นแทน ต่อไปต้องเข้าไปหากันบ้าง จะเป็นที่ไหนหรือที่ สตช.ก็ได้” พ.ต.ท.สันธนะกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังแถลงเสร็จ พ.ต.ท.สันธนะนำใบเสร็จรับเงิน ออกมาให้ผู้สื่อข่าวดู บอกว่าเป็นใบยินยอมจ่ายค่าสาธารณูปโภค จ่ายขั้นต่ำเดือนละ 500 บาท พร้อมระบุว่ากรุณาอย่าหาว่าตนเป็นมาเฟียเก็บค่าคุ้มครองเลยครับ ยินดีจ่าย ที่จ่ายไปมีใบเสร็จ มีลงชื่อคนรับ-จ่ายเงิน เพื่อนำไปเป็นค่าส่วนกลางบริหารตลาด

ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังการประชุม ครม.สัญจร ถึงกรณี พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ ขัดขวางการทำงานของตำรวจตรวจค้นตลาดใหม่ดอนเมือง อ้างถูกกลั่นแกล้ง เพราะไปรู้ข้อมูลการทุจริตของผู้ใหญ่ในรัฐบาลว่า คงไม่ใช่อดีตตำรวจ พฤติกรรมแบบนี้รับไม่ได้ ตำรวจเองก็รับไม่ได้ เท่าที่ตรวจสอบประวัติของท่านก็ไม่ค่อยดีนัก ดังนั้นอย่าไปขยายความ เขาอาจคิดในมุมที่ไม่สนใจกฎระเบียบ รู้สึกเสียดายที่เคยเป็นตำรวจมาด้วยซ้ำ กิริยาท่าทางมันไม่ได้ เห็นว่ามีคดีอยู่ 6-7 คดี ยิ่งพูดอาจยิ่งทำให้มีคดีเยอะขึ้น ทั้งดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ดูถูก ผบ.ตร.และองค์กรตำรวจ พูดออกไปเดี๋ยวจะโดนดูถูกอีกคน ส่วนที่อ้างกุมความลับของคนนั้นคนนี้ ขอให้บอกความลับที่ว่านั้นคืออะไร จะให้ผู้ที่ถูกกล่าวหาชี้แจงว่าใช่หรือไม่ ถ้าไม่ใช่ก็โดนอีก

“ผมยืนยันว่าไม่มีใครมากดดันเจ้าหน้าที่รัฐหรือรัฐบาลได้อย่างเด็ดขาด ผมเข้ามาอย่างนี้ ก็ต้องระมัดระวังเรื่องเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงบประมาณ หรืออะไรก็ตาม ต้องทำให้ถูกต้องมีความชัดเจน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ส่วนกรณีความคืบหน้าการดำเนินการกับผลิตภัณฑ์อาหารเสริม เครื่องสำอางที่ไม่ได้มาตรฐาน เข้าข่ายโฆษณาเกินจริงนั้น ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เวลา 14.00 น. มะปราง-วิรากานต์ เสณีตันติกุล อายุ 29 ปี นักแสดงของสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ชนันนัทธ์ สารถวัลย์แพศย์ ผกก.4 บก.ปคบ. และชุดสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ กรณีมีกระแสข่าวผลิตภัณฑ์อาหารเสริมยี่ห้อ Be Curve อาจเข้าข่ายโฆษณาเกินจริงและมีการดำเนินธุรกิจคล้ายแชร์ลูกโซ่

มะปราง-วิรากานต์ เผยว่า มีฐานะเป็นเจ้าของบริษัท 99 นิว วัน จำกัด ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์อาหารเสริมดังกล่าว นำเอกสารที่จดทะเบียนบริษัทและขึ้นทะเบียนกับ อย. มามอบให้ตำรวจ ขอชี้แจงในประเด็นที่เป็นกระแสข่าวบริษัทอาจเกี่ยวข้องกับแชร์ลูกโซ่นั้น ขณะนี้ตนยื่นเอกสารให้ สคบ.ตรวจสอบการทำงานของบริษัทเรียบร้อยแล้ว บริษัทเพิ่งเปิดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เมื่อเดือน เม.ย.61 มีตัวแทน 18 แห่งทั่วประเทศ บริษัทมี 2 เพจ คือ “99 newone CO., LTD.” กับ “Be Curve Thailand” ตัวแทนจำหน่ายสามารถนำรูปไปใช้ได้เลย คาดว่าตัวแทนจำหน่ายอาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์ นำรูปภาพในเพจบริษัทไปตัดต่อใส่คำโฆษณา สโลแกนใหม่ อาทิ ชงผอม, ฉีกชงผอม, จองสิทธิ์รวย ทำให้เกิดความเสียหาย เป็นประเด็นขึ้นมา

...

“ดิฉันส่งหนังสือเตือนตัวแทนไปแล้ว โดยจะเตือนครั้งเดียว หากละเมิดอีกจะตัดสิทธิ์เป็นผู้แทนจำหน่ายทันที ในฐานะเจ้าของแบรนด์ หากเกิดข้อผิดพลาดประการใดขอรับผิดชอบทั้งหมด นอกจากนี้ดิฉันยังส่งสารในผลิตภัณฑ์ไปให้บริษัทเอกชนตรวจ สอบและได้รับการยืนยันมาแล้วว่าปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีสารต้องห้ามเจือปน ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบของ อย. และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์” นักแสดงสาวกล่าว

พ.ต.อ.ชนันนัทธ์เปิดเผยว่า เบื้องต้นสอบปากคำมะปราง-วิรากานต์ ไว้ก่อน หากพบเข้าข่ายผิดจะส่งให้ อย.ดำเนินการตามหลักฐาน ส่วนจะเรียก เบลล่า-ราณี แคมเปน นางเอกสาวคนดัง ที่ร่วมทำ ธุรกิจดังกล่าวมาสอบปากคำหรือไม่นั้น ยังไม่ขอตอบในเรื่องนี้

วันเดียวกัน นพ.พูลลาภ ฉันทวิจิตรวงศ์ รองเลขาฯ อย. เปิดเผยว่า อย.ได้รับเรื่องร้องเรียนจาก ประชาชนให้ตรวจสอบการโฆษณาผลิตภัณฑ์หอยหวาน Hxy-Hwan ทางเฟซบุ๊กชื่อ Chantima Pinyo มีข้อความระบุในโฆษณาว่า “108 ปัญหากวนใจ ให้ต้นแต้ว ช่วยดูแล อ้างเป็นสมุนไพรบำรุงภายในสำหรับสตรี” หลังตรวจสอบพบข้อความโอ้อวดสรรพคุณ เป็นการโฆษณาขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต จากการสืบค้นข้อมูลในระบบตรวจสอบผลิตภัณฑ์ ไม่พบข้อมูลการอนุญาตผลิตภัณฑ์อาหาร หรือผลิตภัณฑ์ยาในชื่อดังกล่าว ส่งหลักฐานให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ดำเนินคดีกับผู้กระทำการโฆษณาขายยาและลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงของผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ณ สถานที่จำหน่าย และให้เก็บตัวอย่างส่งตรวจวิเคราะห์การปลอมปนของสารออกฤทธิ์ เพื่อประกอบการดำเนินคดีลงโทษตามกฎหมาย ทั้งนี้ หากผู้บริโภคพบเห็นการอวดอ้างโฆษณาหรือขายผลิตภัณฑ์ไม่ได้มาตรฐานผ่านทางช่องทางสื่อต่างๆ สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วน อย. 1556 หรืออีเมล 1556@fda.moph.go.th  หรือผ่าน Oryor Smart Application หรือตู้ ปณ. 1556 ปณฝ. กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี 11004 รวมทั้ง ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ

...

ด้านนายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า มีข้อแนะนำถึงผู้บริโภคที่ต้องการซื้อสินค้าออนไลน์ ขอให้ระมัดระวังและเลือกซื้อสินค้าจากเว็บไซต์ หรือแหล่งที่เชื่อถือได้ ควรหลีกเลี่ยงสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่ไม่ได้มาตรฐาน เช่น สินค้าบริโภค อาหาร ยา สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เพราะอาจเป็นอันตรายต่อสุขอนามัย หรือความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ส่วนการป้องกันการจำหน่ายสินค้าละเมิดทางออนไลน์ ขอความร่วมมือผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ต้องจัดให้มีช่องทางรับแจ้งการละเมิดและมีมาตรการคัดสินค้าละเมิดออกจากระบบ เพราะอาจมีความผิด ที่สำคัญในสัญญาการให้บริการ ควรมีข้อความระบุชัดเจนห้ามผู้ใช้บริการระบบคอมพิวเตอร์ หรือเครือข่ายจำหน่ายเผยแพร่สินค้าละเมิด สามารถยกเลิกสัญญาได้ทันที รวมทั้งให้รวบรวมหลักฐานเข้าแจ้งความกับตำรวจเพื่อให้ดำเนินการตามขั้นตอน

ต่อมาที่ห้องประชุมชั้น 3 บก.น.2 พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รอง ผบ.ตร. เดินทางมาเป็นประธานประชุมการทำงานในคดีตรวจค้นตลาดใหม่ดอนเมือง ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มี พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. เข้าร่วมประชุมในภายหลัง ก่อนเปิดเผยว่า เป็นการประชุมครั้งแรกของคณะทำงานพนักงานสืบสวนสอบสวน ที่ ผบ.ตร.ลงนามคำสั่งแต่งตั้ง เตรียมนำหลักฐานทั้งหมดที่พบมาพิจารณาฐานความผิดในส่วนของเครื่องสำอาง อาหารเสริมที่ไม่มีสลากที่อย.กำกับ ทั้งนี้ มีหน่วยงานอื่นๆเข้าร่วมตรวจสอบด้วย สำนักงานเขตดอนเมืองจะรับผิดชอบพิจารณาความผิดตาม พ.ร.บ.อาคาร การรุกล้ำที่สาธารณะคลองเปรมประชากร กรมสรรพากรจะดูเรื่องการชำระภาษีย้อนหลังว่าชำระอย่างถูกต้องหรือไม่ ส่วน ปปง.จะดูความผิดฐานการฟอกเงินและตรวจสอบเรื่องร้องเรียนการเก็บค่าคุ้มครอง ขณะที่กรมธนารักษ์จะพิจารณาสัญญาการเช่าว่ามีการกระทำความผิดมากน้อยเพียงใด ก่อนจะเรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำเพื่อดำเนินการตามขั้นตอน

...