ไล่ออก ผอ.-หน.ฝ่ายสวัสดิการสังคม ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น พบผิดชัดปลอมแปลงเอกสาร จ่ายเงินคนจนไม่ครบ ทั่วประเทศรอคิวย้าย ดำเนินการทางวินัย อีกเพียบ
วันที่ 2 พ.ค. ที่ห้องประชุมชั้น 6 กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นางนภา เศรษฐกร อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เปิดเผยความคืบหน้าการสอบวินัยร้ายแรงการทุจริตการจ่ายเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยว่า หลังจากที่ พส.ได้ดำเนินการสอบวินัยร้ายแรงศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัด 2 แห่งนั้น ในส่วนของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดขอนแก่น คณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงได้ดำเนินการสอบสวนแล้วเสร็จ เมื่อวันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา และเตรียมเสนอคณะอนุกรรมการสามัญ (อ.ก.พ.) ประจำกระทรวงพม.พิจารณาโทษไล่ออกจากราชการ กับผู้อำนวยการศูนย์ฯ ซึ่งเป็นข้าราชการสังกัดพส. และหัวหน้าฝ่ายสวัสดิการสังคม สังกัดกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ รวม 2 คน
ทั้งนี้ อ.ก.พ.ประจำกระทรวง พม. จะประชุมวันที่ 4 พ.ค.นี้ มีพล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พม.เป็นประธาน จากนั้นจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบทางละเมิด เพื่อคำนวณความเสียหายที่ผู้ถูกกล่าวโทษจะต้องชดใช้ โดยอาจจะต้องใช้เวลาพิจารณา เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
...
อธิบดี พส.กล่าวอีกว่า สำหรับพฤติการณ์การทุจริตของ ผอ.ศูนย์และหัวหน้าฝ่ายจัดสวัสดิการสังคมนั้น คือการปลอมแปลงเอกสาร และการจ่ายเงินให้กลุ่มเป้าหมายไม่ครบ ซึ่งชัดเจนเรื่องการทุจริต ไม่ใช่เรื่องการไม่ปฏิบัติตามระเบียบ ส่วนเงินที่ทุจริตไปไหนหรือส่งให้ใครเป็นเงินทอนนั้น ผลสอบคณะกรรมการชุดดังกล่าวไม่ได้ชี้ชัดว่ามีเงินทอนไปถึงบุคคลใด เพียงระบุถึงชาวบ้านได้เงินไม่ครบ คงต้องรอผลการพิจารณาของคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงชุดใหญ่ที่สอบระดับผู้บริหาร พม.
อย่างไรก็ตามทั้ง 2 คนได้ถูกพักราชการไปตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งก็ไม่ได้รับเงินเดือนและสวัสดิการใดๆ ตั้งแต่นั้น และโทษไล่ออกจากราชการ ก็ทำให้ไม่ได้รับอะไรเลย ในส่วนพนักงานราชการอีก 2 คนของศูนย์ฯ ขอนแก่น ที่ถูกสอบวินัยไม่ร้ายแรง ขณะนี้ผลสอบยังไม่แล้วเสร็จ ส่วนศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดเชียงใหม่ คาดว่าคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงจะสรุปผลการพิจารณาโทษได้ภายในเดือน พ.ค.
นางนภา กล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้ ป.ป.ท. ได้ส่งข้อมูลบุคคลซึ่งถูกตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงให้ พส. 2 ครั้ง จำนวน 35 แห่ง มีผู้ถูกกล่าวหา จำนวน 156 คน โดยในจำนวนผู้ถูกกล่าวหา 156 คน มีบุคคลที่อยู่ระหว่างการดำเนินการทางวินัย จำนวน 20 คน ส่วนบุคคลที่เหลือ จำนวน 136 คน จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ ได้ย้ายข้าราชการซึ่งดำรงตำแหน่งหัวหน้าหน่วยงานในปีงบประมาณ 2560 ออกจากพื้นที่ตามข้อมูลที่ ป.ป.ท. จัดส่งให้ครั้งที่ 1 จำนวน 19 คน และสั่งตรวจสอบข้อมูลที่ ป.ป.ท. จัดส่งให้เพิ่มเติมครั้งที่ 2 เพื่อพิจารณาสั่งย้ายข้าราชการซึ่งดำรงตำแหน่งหัวหน้าหน่วยงานในปีงบประมาณ 2560 ออกจากพื้นที่เพิ่มเติม
ส่วนกรณีที่ ผอ.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จังหวัดสมุทรปราการ ไปยื่นข้อมูลเปิดโปงการทุจริตเงินสงเคราะห์ให้นายกรัฐมนตรีนั้น นางนภากล่าวว่า ถือเป็นเรื่องส่วนบุคคล เท่าที่ทราบก็เป็นข้อมูลทั่วไป กว้างๆ คงอยากออกมาขยายความผ่านสื่อให้รับรู้และเรียกร้องความเป็นธรรม แต่จริงๆ แล้วก็มีช่องทางเสนอข้อมูลหรือข้อร้องเรียนผ่านกระทรวงและกรมได้อยู่แล้ว
"อยากให้เชื่อมั่นตามที่รมว.พม.ย้ำว่า ใครผิดก็ว่าไปตามผิด ใครถูกก็ว่าไปตามถูก เพราะมีกระบวนการดำเนินการทางกฎหมายที่ชัดเจนอยู่แล้ว ส่วนกรณีที่ ป.ป.ท.พบการจัดซื้อผ้าห่มกันหนาวของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสิงห์บุรี สูงเกินราคากลางนั้น ได้พูดคุยผ่านทางโทรศัพท์โดยตรงไปยังผอ.ศูนย์ฯ สิงห์บุรี ได้รับการชี้แจงว่าเป็นการเร่งรัดการจัดซื้อด้วยความจำเป็น ซึ่งก็ได้ให้รายงานถึงเหตุผลที่ต้องจัดซื้อราคาสูงกว่าราคากลาง และทำไมต้องจัดซื้อเร่งด่วน เพื่อให้คณะกรรมการพิจารณา"