นอภ.บุกทลายคาหนังคาเขา รวบเจ้าของคนจีนกับ3พนง. ลงในเว็บเก็บหัวละ1,500บาท


นายอำเภอสนธิกำลังบุกทลาย “ปาร์ตี้เซ็กซ์หมู่” ในโรงแรมกลางเมืองพัทยา ถึง กับผงะพบคู่รักชายหญิงจากหลายเชื้อชาติ 14 คู่ กำลังจับคู่ร่วมรักกันอยู่ในห้องแบบไม่อายใคร มีคนไทยร่วมวงอยู่ด้วย 8 คน เป็นหญิง 5 คน ชาย 3 คน คุมตัวชาวจีนเจ้าของโรงแรมพร้อมพนักงานหญิงอีก 3 คน ดำเนินคดี ส่วนคู่สวิงกิ้งถูกดำเนินคดี 1 คน เป็นชาวฟิลิปปินส์ เหตุหนังสือเดินทางหมดอายุ ที่เหลือทำประวัติแล้ว ปล่อยตัวไป เผยมีการประกาศผ่านเว็บไซต์ในต่าง ประเทศเชิญชวนให้ผู้ที่มีรสนิยมแลกคู่นอนเข้าร่วมปาร์ตี้เซ็กซ์หมู่ เรียกเก็บค่าใช้จ่ายคนละ 1,500 บาทต่อคืน ผกก.เตรียมทำหนังสือถึงอำเภอสั่งปิดโรงแรมแล้ว หลังพบว่าเปิดเถื่อนมานานกว่า 5 ปี พร้อมสั่งปรับอีก 18 ล้านบาท

นายอำเภอสนธิกำลังบุกทลายปาร์ตี้เซ็กซ์หมู่ในโรงแรมกลางเมืองพัทยารายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 21 เม.ย. นายนริศ นิรามัยวงศ์ นายอำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี ได้รับการร้องเรียนว่าที่โรงแรมชื่อ “บ้านทิวลิป” ตั้งอยู่ย่านเขาพระตำหนักพัทยาใต้ หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มีการลักลอบจัดปาร์ตี้เซ็กซ์หมู่หรือ “สวิงกิ้ง” ในทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ จึงประสาน พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ เอนสาร สว.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท. (พัทยา) พ.ต.ไพจิตร เจริญพงษ์ ผบ.ร้อย รส.มทบ.14 สนธิกำลังฝ่ายปกครอง ตำรวจ และทหาร เข้าตรวจสอบเพื่อจับกุม

...

พบว่าโรงแรมดังกล่าวตั้งอยู่ใจกลางเมืองพัทยา เป็นอาคารสูง 4 ชั้น มีห้องพักกว่า 30 ห้อง โดยชั้นล่างถูกแบ่งออกเป็น 3 โซน ประกอบด้วย โซนสระว่ายน้ำ โซนเคาน์เตอร์บาร์ และโซนสุดท้ายเป็นห้องจัดปาร์ตี้เซ็กซ์หมู่ หรือเรียกกันว่าห้อง “เพลย์” เมื่อเจ้าหน้าที่กรูกันเข้าไปภายในห้องพบภาพน่าตกใจมีคู่รักชายหญิงหลายสัญชาติ เช่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา จีน มาเลเซีย สิงคโปร์ เยอรมัน กัมพูชา อินเดีย ยูเครน และไทย 14 คู่ แยกเป็นชาย 14 คน หญิง 14 คน รวมเป็น 28 คน ในจำนวนนี้มีคนไทยรวมอยู่ด้วย 8 คน เป็นหญิง 5 คน ชาย 3 คน แต่ละคนอยู่สภาพเปลือยกายล่อนจ้อนกำลังร่วมรักกันอย่างโจ๋งครึ่มแบบไร้ยางอายอยู่ตามพื้นห้อง โซฟา และบนเตียงนอน ท่ามกลางแสงไฟสลัวๆ มีกลิ่นบุหรี่ตลบอบอวล กับมีเครื่องดื่มวางอยู่บนโต๊ะ มีพนักงานโรงแรมเป็นหญิง 3 คน คอยเสิร์ฟเครื่องดื่ม

โดยชายหญิงแต่ละคนอยู่ในสภาพคล้ายคนเมาสุราและยาเสพติด แต่เมื่อเห็นตำรวจถึงกับมีสีหน้าตื่นตกใจอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะคนไทยเนื่องจากเกิดความอับอายกลัวจะตกเป็นข่าว รีบคว้าผ้าขนหนูสีขาวมาคลุมหัวปิดบังใบหน้าตัวเอง ตำรวจจึงสั่งให้ทุกคนสวมใส่เสื้อผ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่อุจาดตา ตรวจค้นตามจุดต่างๆของห้องพบถุงยางอนามัย เจลหล่อลื่น ยาปลุกเซ็กซ์ อุปกรณ์ช่วยกระตุ้นทางเพศ และถุงยางอนามัยที่ใช้แล้วถูกทิ้งอยู่ในถังขยะจำนวนมาก จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน ขณะเดียวกัน ตำรวจกระจายกำลังขึ้นไปตรวจสอบชั้นบนของโรงแรมพบว่าเป็นห้องพักของผู้เข้าร่วมปาร์ตี้เซ็กซ์หมู่เกือบทั้งหมด ภายในห้องพักหมายเลข 402 พบนายเซิ่ง ไฉ หยาง อายุ 53 ปี สัญชาติจีน แสดงตัวเป็นเจ้าของกิจการโรงแรม จึงควบคุมตัวเอาไว้

นายนริศ นิรามัยวงศ์ นายอำเภอบางละมุง เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากตนได้รับการร้องเรียนว่าสถานที่ดังกล่าวมีการลักลอบจัดปาร์ตี้เซ็กซ์สำหรับผู้ที่ชอบแนวเซ็กซ์หมู่ และแลกเปลี่ยนคู่นอน รวมถึงแนวสวิงกิ้ง โดยประกาศผ่านเว็บไซต์ในต่างประเทศ สำหรับขั้นตอนการเข้าร่วมกิจกรรมนั้น ทางผู้เข้าร่วมจะต้องสมัครสมาชิกผ่านเว็บไซต์ และมีกติกาว่าผู้เข้าร่วมปาร์ตี้จะต้องเป็นคู่รักชายหญิง มีค่าใช้จ่ายคืนละ 1,500 บาท ต่อ 1 คน ภายหลังรับเรื่องจึงประสานตำรวจหลายหน่วยงานลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวก่อนเข้าจับกุม

พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา เผยว่า หลังการจับกุมได้คัดแยกบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด เป็นบุคคลที่ร่วมปาร์ตี้สวิงกิ้ง 28 คน เป็นชาย 14 คน หญิง 14 คน ในจำนวนนี้คนไทยรวมอยู่ด้วย 8 คน เป็นหญิง 5 คน ชาย 3 คน เบื้องต้นได้แจ้งข้อหานายเซิ่ง ไฉ หยาง เจ้าของโรงแรม ประกอบธุรกิจโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.โรงแรม พ.ศ.2547 และเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไปเพื่อการอนาจาร ชายหรือหญิงแม้ผู้นั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ส่วนพนักงานโรงแรมอีก 3 คน ประกอบด้วย น.ส.รัตนา จันคำจร อายุ 32 ปี น.ส.เดือนเพ็ญ มาตร-รักษ์ อายุ 30 ปี และ น.ส.ปรารถนา หล่อนเผือก อายุ 28 ปี แจ้งข้อหาเป็นผู้สนับสนุนเพื่อสนองความใคร่ผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไป เพื่อการอนาจารชายหรือหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ถือว่าเป็นผู้สนับสนุนช่วยเหลือในการกระทำความผิดดังกล่าว

พ.ต.อ.อภิชัยเผยอีกว่า ในส่วนผู้ร่วมปาร์ตี้สวิงกิ้งทั้ง 28 คน ตำรวจได้ตรวจสอบปัสสาวะพบว่ามีเกี่ยวข้องกับสารเสพติด 1 คน ชื่อ MS.CHARITA SRISUKH อายุ 52 ปี สัญชาติฟิลิปปินส์ ถือหนังสือ เดินทางเลขที่ P0193315A อยู่เกินกำหนดอนุญาตจำนวน 84 วัน จึงจับกุมในความผิดฐานเป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด เจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนที่เหลือ ไม่มีความผิดได้ทำประวัติไว้ก่อนปล่อยตัวกลับไป สำหรับโรงแรมบ้านทิวลิป พบว่ามีการประกอบธุรกิจโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.โรงแรม พ.ศ.2547 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท แต่ทั้งนี้ยังมีโทษปรับตั้งแต่วันที่ฝ่าฝืนวันละ 10,000 บาท เท่าที่ตรวจสอบพบว่าลักลอบฝ่าฝืนมาประมาณ 5 ปี คิดเป็นค่าปรับประมาณ 18 ล้านบาท ได้ทำเรื่องเสนอไปยังอำเภอบางละมุง เพื่อมีคำสั่งปิดกิจการต่อไปแล้ว

...

พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ เอนสาร สว.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท. (พัทยา) กล่าวว่า ปาร์ตี้ครั้งนี้เกิดขึ้นจากโฆษณาทางเว็บไซต์ของต่างประเทศ ซึ่งไม่สามารถเข้าจากประเทศไทยได้ ต้องเป็นในต่างประเทศเท่านั้น ส่วนคนไทยรู้จากการแนะนำปากต่อปาก โดยรู้จากคนที่ร่วมปาร์ตี้ในครั้งนี้ โดยจะเสียค่าบริการคนละ 1,500 บาท มีอาหารเครื่องดื่มต่อ 1 วัน ส่วนคนไหนต้องการพักค้างคืนทางโรงแรมจะมีห้องพักให้และต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม จากการตรวจสอบยังพบว่าเป็นคู่รักกันที่ผ่านการจดทะเบียนสมรสกันแล้ว ไม่มีการซื้อบริการทางเพศ ทุกคนสมัครใจกันมา

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.เปิดเผยกรณีการจับกุมชายชาวจีนจัดให้มีการปาร์ตี้เซ็กซ์หมู่ในพื้นที่เมืองพัทยาว่า ตำรวจได้รับการร้องเรียนว่ามีการลักลอบจัดปาร์ตี้สวิงกิ้งในเขตเมืองพัทยาและเปิดเว็บไซต์ในต่างประเทศ เชิญชวนคู่ชายหญิงมาร่วมกิจกรรมทางเพศ โดยต้องสมัครและชำระเงินผ่านระบบอินเตอร์เน็ต จึงได้ร่วมกันสืบสวนหาข่าว ก่อนจะสนธิกำลังเข้าตรวจสอบโรงแรมบ้านทิวลิปพบชายหญิงต่างชาติและชาวไทยรวมทั้งหมด 28 คน กำลังจัดงานปาร์ตี้เซ็กซ์หมู่ภายในอาคารของโรงแรมดังกล่าว จึงร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา เบื้องต้นได้ดำเนินคดีกับนายเซิ่ง ไฉ หยาง สัญชาติจีน เป็นผู้แทนนิติบุคคลของบริษัท จือเซิ่น อินเตอร์เนชันแนล จำกัด ในฐานะเจ้าของโรงแรมและพนักงานโรงแรมอีก 3 คน

...

รองโฆษก ตร.กล่าวต่อว่า คดีนี้ผู้ต้องหามีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติกระทำผิดกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้นิ่งดูดาย หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนแล้วได้มีการสืบสวนสอบสวนหาข่าวในทันทีจนสามารถจับกุมตัวได้ทั้งหมด นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เน้นย้ำนโยบายการป้องกันอาชญากรรมอย่างสม่ำเสมอ เน้นหนักด้านอาชญากรรมข้ามชาติที่เกี่ยวข้องกับบุคคลต่างด้าว กวาดล้างคนต่างด้าวกระทำผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่องและจริงจัง โดยเฉพาะผู้หลบหนีเข้าเมือง บุคคลต่างด้าวที่อยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนดอนุญาต หรืออยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (OVERSTAY) ที่เข้ามากระทำความผิดในประเทศไทยอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะเมืองที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศ