ช่างรับเหมา ผวาเข็นรถบรรทุกทราย ล้อหลุดกลิ้งกระแทกโกศเจดีย์ล้มคว่ำ กะโหลกศีรษะ ชิ้นส่วนมนุษย์โผล่ คาดตายมาแล้วนานหลายปี ...
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 17 เม.ย.61 ร.ต.อ.จิระวัฒน์ อ่องสา รองสว.(สอบสวน) สภ.พระสมุทรเจดีย์ ได้รับแจ้งจาก นายธิติวัฒน์ ชูรัตน์หิรัญโชติ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 ต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ว่าพบโครงกระดูกมนุษย์ ถูกซุกซ่อนอยู่ใต้ฐานโกศเจดีย์เก็บอัฐิเก่า ตั้งอยู่ด้านหลังวัดทองรำไพ หมู่ที่ 7 ต.แหลมฟ้าผ่า จึงรายงาน พ.ต.ท.นาวิน ทองสง่า รอง ผกก.สส. สภ.พระสมุทรเจดีย์ทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย นายชวลิต ทรงกิตติ นายอำเภอพระสมุทรเจดีย์ นายวรพจน์ ศรีใย ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง
ที่เกิดเหตุ บริเวณด้านหลังโบสถ์ เป็นสถานที่ตั้งโกศเจดีย์ที่ใช้สำหรับบรรจุอัฐิเถ้ากระดูก ตั้งเรียงรายอยู่กว่า 10 อัน บริเวณโกศเล็ก ซึ่งมีสภาพเก่าชำรุด พบโครงกระดูกมนุษย์เป็นชิ้นส่วน กะโหลกศีรษะ กระดูกเชิงกราน กระดูกท่อนขาบริเวณหน้าแข้ง กระดูกสันหลัง และชิ้นส่วนกระดูกบริเวณอื่นๆ ตามร่างกายรวมกว่า 20 ชิ้น วางเรียงซ้อนกันอยู่ใต้ฐาน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้บันทึกภาพก่อนสอบถามข้อมูลที่มาของโครงกระดูกดังกล่าว

...
จากการสอบถาม นายธิติวัฒน์ ทราบว่า ตนได้รับแจ้งจากพระครูใบฎีกาบุญเชิด สิริภัทโร เจ้าอาวาสวัดทองรำไพว่า เมื่อช่วงวันที่ 13 เม.ย.61 ที่ผ่านมาได้รับแจ้งจากช่างรับเหมาซ่อมแซมถนนด้านหลังโบสถ์ว่าในระหว่างที่เข็นรถบรรทุกทราย เพื่อไปเทปรับพื้นที่ของถนนในระหว่างเข็นรถล้อด้านขวาหลุดก่อนที่กลิ้งไปกระแทกกับยอดโกศเจดีย์ ที่ใช้สำหรับเก็บอัฐิตั้งอยู่ต่ำกว่าพื้นถนน จนหักโค่นล้มลงมากองอยู่กับพื้น พร้อมมีกะโหลกศีรษะมนุษย์กลิ้งหล่นมาด้วย ก่อนที่คนงานจะช่วยกันเก็บเข้าที่ไว้อย่างเดิม เพราะเกรงว่าทางญาติของผู้ตายหรือคนอื่นมาเห็นเข้า อาจจะถูกตำหนิ
กระทั่งในวันนี้ได้พูดคุยถึงเรื่องสร้างถนนกันอยู่ ก่อนที่คนงานจะเล่าเรื่องให้เจ้าอาวาสฟังและแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้มาตรวจสอบ ซึ่งโดยปกติแล้วนั้นโกศเจดีย์ที่ใช้บรรจุอัฐิตามวัดทั่วไป จะเก็บกระดูกที่ผ่านการฌาปนกิจ หรือเผามาแล้ว จนเป็นเศษเถ้าถ่าน และเศษกระดูก ก่อนที่จะห่อผ้าขาวนำมาบรรจุไว้ในโกศเจดีย์วัด เพื่อใช้สำหรับญาติพี่น้องหรือลูกหลานกราบไหว้ในเทศกาลต่างๆ
แต่ที่พบในวันนี้เป็นชิ้นส่วนกระดูก ที่ยังไม่ผ่านการฌาปนกิจ หรือเผาเลย แต่กลับมาถูกยัดเก็บไว้ใต้ฐานโกศเจดีย์เก่าหลังวัด และเป็นที่น่าผิดสังเกต เกรงจะเกิดเหตุไม่ดี เพราะชิ้นส่วนกระดูกนี้ไม่มีใครเห็นบุคคลนำมาวางไว้หรือมาแจ้งทางเจ้าอาวาสให้ได้รับทราบเลย
จากการสอบสวนสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจเบื้องต้น สังเกตดูโครงกระดูกแล้วน่าจะเป็นโครงกระดูกที่เก่าคาดว่าเสียชีวิตมานานหลายปี อาจจะเป็นโครงกระดูกของคนเก่าแก่ในสมัยโบราณ ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นดินแดนประวัติศาสตร์ หรืออาจจะเป็นผู้เสียชีวิตลอยน้ำมา แล้วไปเกยกับที่ดินวังกุ้งวังปลาของชาวบ้าน กระทั่งมาพบแล้วกลัวมีความผิดจึงแอบนำมาซุกไว้ในวัด
ซึ่งหลังจากนี้ได้ประสานไปทาง นายธิติวัฒน์ และพระครูใบฎีกาบุญเชิด สิริภัทโร เจ้าอาวาสวัดทองรำไพ ให้เก็บรักษาชิ้นส่วนกระดูกทั้งหมดไว้ก่อน 90 วัน เพื่อรอญาติผู้ตายหรือญาติบุคคลที่เคยได้แจ้งบุคคลหายได้มาตรวจสอบ หากพ้นจากนี้ไปแล้วจะมอบให้ทางวัดดำเนินการตามประเพณีต่อไป.